รีวิวกรุงเทพ : เยาวราชในมุมที่แตกต่าง

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ โอกาสพิเศษแบบนี้ เราขอมอบสิ่งดี ๆ พาคนขี้เที่ยวทั้งหลายไปทัวร์เยาวราชแบบเอ็กซ์คลูซีฟไม่เหมือนใคร จัดใหญ่เดินเล่นตามตรอกซอกซอย ค้นหาสถานที่ลับ ๆ มุมถ่ายรูปเก๋ ๆ และความรู้ดี ๆ ที่สำคัญคือได้เจออะไรใหม่ ๆ ที่สุดว้าวมาฝาก เพราะทางเราเลือกใช้เอ็กซ์พีเรียนซ์เด็ด ๆ จาก Airbnb อย่างทัวร์ครึ่งวัน ไชน่าทาวน์ที่คุณไม่เคยรู้ จะสนุกและเต็มอิ่มขนาดไหน ก็เปิดดูรูปด้านในได้เลย
และตอนนี้ Airbnb มีแคมเปญมอบอั่งเปาฉลองตรุษจีน ลุ้นรางวัลที่พัก 3 วัน 2 คืน + เอ็กซ์พีเรียนซ์ ออนไลน์ 2 กิจกรรมเลือกได้ทั่วโลก ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3tNsCj6 รีบส่งกันล่ะ ถึง 17 ก.พ.นี้เท่านั้นจ้า

ไฮไลท์ทริป
สถานที่ : ถนนเยาวราช

ไฮไลท์ทริป
สถานที่ : ห้างทองตั้งโต๊ะกัง
พิกัด : goo.gl/maps/GbdUNifE3Pwd2jCE6

ไฮไลท์ทริป
สถานที่ : Wallflowers Cafe
พิกัด : goo.gl/maps/MoamR8YzsunJwAnCA

001 ท่าเรือสาทร ( BTS สะพานตากสิน)
เริ่มต้นทริปกันที่ BTS สะพานตากสิน เพราะคุณบ๊วย โฮสต์จากทาง Airbnb ของเราทริปนี้บอกว่า การไปเยาวราชทางเรือล่องไปในเจ้าพระยานั้นได้ฟิลลิ่งกว่าเป็นไหน ๆ ซึ่งเราก็เห็นด้วยเลยนะ มันชิลมากเวอร์
พิกัด : goo.gl/maps/ixHv6gjPQ3FmH6bTA

002 ถนนทรงวาด
เราขึ้นฝั่งที่ท่าราชวงศ์ แล้วเดินตรงมาเรื่อย ๆ ก็เจอกับถนนที่อายุกว่า 100 ปีอย่างถนนทรงวาด ว่ากันว่าถนนเส้นนี้เกิดจาก ร.5 ท่านทรงวาดถนนสายนี้เอาไว้ เพื่อลดความแออัดของพื้นที่ในย่านสำเพ็งหลังจากเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ ในระยะทางกิโลกว่า ๆ เราจะได้พบกับร้านรวงเก่า ๆ บวกกับคาเฟ่ร่วมสมัย รวมไปถึงรูปทรงสถาปัตยกรรมตึกรามต่าง ๆ ที่ยังคงไว้แบบดั้งเดิม มีเสน่ห์มาก ๆ

003 ศาลเจ้าเล่าปูนเถ้ากง
นี่คือศาลเจ้าที่ชาวจีนแต้จิ๋วในประเทศไทยซึ่งมีความศรัทธาอย่างแรงกล้า สร้างขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ.2460 ซึ่งที่นี่ยังเป็นจุดกำเนิดของโรงเรียนสอนภาษาต่างประเทศ (ภาษาจีน) ที่แรกของไทยนั่นก็คือ โรงเรียนเผยอิง ตั้งอยู่ด้วย ปัจจุบันผู้ศรัทธานิยมมาขอพรเรื่องความสำเร็จในหน้าที่การงาน
พิกัด : goo.gl/maps/Z3naFRaeVMK8WftM7

เล่าปูนเถ้ากง ตามภาษาจีนแต้จิ๋วนั้นแปลได้ว่า “เทพเจ้าที่คุ้มครองรักษาชุมชนดั้งเดิม หรือก็คือเจ้าที่ของท้องถิ่นนั้น ๆ ” จึงทำให้ชาวจีนแต้จิ๋วเคารพศรัทธาอย่างที่กล่าวไปนั่นแหละ

ศาลเจ้าเล่าปูนเถ้ากงใช้สถาปัตยกรรมสกุลช่างแต้จิ๋วแบบซี่เตี้ยมกิม (สี่ตำแหน่งทอง) โดยมีหลักฐานตามจารึกบนระฆังสีทองระบุไว้ว่า ศาลนี้มีมาตั้งแต่รัชสมัยพระเจ้าเต้ากวง ปีที่ 4 แห่งราชวงศ์ชิง หรือราว พ.ศ. 2367 เลยที่เดียว

ระหว่างทางเราจะได้เห็นอาคารเก่าแก่ให้ชมตลอดเส้น

004 ศิริภัณฑ์โอสถ (เชี่ยงอันตึ้ง)
ร้านขายยาแบบจีนแท้ ๆ ที่ตั้งอยู่ในย่านสำเพ็ง ที่สืบทอดธุรกิจกันมาหลาย generation แล้ว ซึ่งเราสามารถเข้าไปหาตัวยา หรือบอกเล่าอาการที่เป็นอยู่เพื่อให้ทางร้านจัดยาตามแบบฉบับชาวจีนให้อย่างชำนาญและมากประสบการณ์
พิกัด : goo.gl/maps/ykq5d3Dy1rBySHGg7

005 ตลาดสำเพ็ง
ใคร ๆ ต่างก็รู้ว่าถ้าจะช้อปของถูกต้องมาเลือกที่นี่ มีสินค้าทุกอย่างที่อยากได้ ตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันสากกระเบือ และที่สำคัญ ราคาย่อมเยาว์อีกด้วย รับรองว่าช้อปกันเพลินแน่นอน
พิกัด : goo.gl/maps/Zy4qcep1HPcmSZvQ8

006 ห้างทองตั้งโต๊ะกัง
แต่สิ่งที่บียอนด์ไปกว่าการเดินสำเพ็งธรรมดาคือการได้เข้าชมห้างทองตั้งโต๊ะกัง อาคาร 7 ชั้นที่เคยเป็นอาคารที่สูงที่สุดในย่านนี้มาก่อน ปัจจุบันที่นี่สืบทอดกิจการกันมาเป็นรุ่นที่ 4 แล้ว โดยด้านในไม่เพียงแต่ขายทองคำเท่านั้น ยังมีมิวเซี่ยมลับ ๆ จัดแสดงอุปกรณ์ในการทำทองยุคก่อน ๆ ไว้ให้ผู้สนใจได้ชมด้วย บอกเลยว่าเอ็กซ์คลูซีฟสุด ๆ
พิกัด : goo.gl/maps/GbdUNifE3Pwd2jCE6

ว่ากันว่าห้างทองตั้งโต๊ะกังไม่ต้องใช้ตำรวจมายืนหน้าร้าน เพราะว่าบริเวณด้านหน้าร้านทอง เจ้าของนั้นใจดี ให้พ่อค้าแม่ค้ามาวางของขายโดยไม่ต้องจ่ายค่าที่ จึงทำให้คนแถวนั้นช่วยเป็นหูเป็นตาและอารักขาร้านทองให้โดยปริยาย

สิ่งที่น่าตื่นเต้นมาก ๆ ของเราคือ ที่ร้านให้เราได้มีโอกาสสัมผัสทองคำแท่ง 99.99% น้ำหนักแท่งละ 1 กิโลกรัมด้วยแหละ โหแกกก มันหนักจริง ๆ นะ เราว่า ถือวัตถุอื่น 1 กิโล กับทอง 1 กิโล ความรู้สึกและน้ำหนักมันต่างกันเลย หากยึดตามราคาทอง ณ ปัจจุบันนั้น ทองแท่งในมือเรานั้นมีมูลค่าประมาณแท่งละ 1.7 ล้านบาทเลยทีเดียว

หลังจากว้าวกับทองแท่งไปแล้ว เราก็ขึ้นไปชั้น 4 เพื่อชมวัตถุโบราณต่าง ๆ ที่เจ้าของบ้านเก็บสะสมไว้ โดยไฮไลท์ก็คือ ดาบงาช้างเล่มนี้ ซึ่งเป็นของแท้ และถูกกฎหมายขึ้นทะเบียนเรียบร้อย

อีกหนึ่งไฮไลท์คือ ตอไม้ถ่าน ที่วางอยู่เพื่อบูชาอันนี้ มีตำนานเล่าว่า ครั้งสมัยที่ย่านนี้ยังเป็นคลองอยู่ ท่อนไม้ที่เป็นถ่านท่อนนี้ได้ลอยมาติดที่ริมฝั่ง ก็ไม่มีใครสนใจแต่อย่างใด มีแต่คนบ้านนี้ที่เก็บท่อนถ่านกลับมาเพื่อบูชา และเชื่อว่าถ่านก้อนนี้นำพาความเจริญเข้ามาจนมั่งคั่งถึงทุกวันนี้ ว่ากันว่าเมื่อก่อนถ่านก้อนนี้มีขนาดใหญ่กว่าตอนนี้เยอะเลย แต่เมื่อญาติ ๆ และคนใกล้ชิดทราบว่าบูชาถ่านก้อนนี้แล้วเฮง จึงมาขอแบ่งกันไปคนละนิดคนละหน่อย จึงทำให้จุดนี้เองที่เกิดคำพังเพยที่ว่า คนเอาถ่าน ขึ้นมา

หลังจากนั้น เราขึ้นไปชั้น 7 เพื่อชมอุปกรณ์ทำทองตั้งแต่สมัยอดีต ที่เจ้าของบ้านเก็บเอาไว้ ซึ่งเราสามารถเดินออกไปชมวิวตลาดสำเพ็งได้ที่ระเบียงชั้น 7 เช่นกัน

007 วัดบำเพ็ญจีนพรต (วัดย่งฮกยี่)
ในซอยที่ได้ชื่อว่าเป็นย่านโคมเขียว หรือย่านโสเภณีในยุคก่อน ยังมีวัดจีนที่เล็กที่สุดในประเทศไทย ซึ่งพระอุโบสถมีพื้นที่กว้างสุดเพียง 7.80 เมตร และยาว 10.20 เมตร เป็นอาคารโครงสร้างไม้แบบจีน ผนังก่ออิฐฉาบปูน หลังคาจั่วมุงด้วยกระเบื้องดินเผากาบกล้วยแบบจีน ด้านในประดิษฐานพระประธาน 3 องค์ และพระอรหันต์ด้านข้างอีก 18 องค์ ซึ่งความอะเมซิ่งของที่นี่คือ พระพุทธรูปเหล่านี้สร้างขึ้นมาจากกระดาษ หรือที่ปัจจุบันเรียกว่า เปเปอร์มาเช่ นั่นเอง หากได้มายืนมองใกล้ ๆ แบบเรา พวกแกจะรู้ว่า มันว้าวมากเลยนะ
พิกัด : goo.gl/maps/iTqy91vT1v567Ne88

เมื่อเดินขึ้นบันไดมาชั้นบนสุดของวัด เราก็จะได้เห็นวิวถนนเยาวราชแบบเต็ม ๆ ซึ่งปัจจุบันที่นี่เป็นตึกแห่งเดียวเท่านั้นที่เปิดให้ขึ้นมาชมวิวถนนเยาวราชได้

008 ไท้เฮง
เดินเล่นกันมาจนท้องแอบร้อง เลยขอแวะร้านข้าวมันไก่หน้าวัดซะเลย โดยที่นี่มีเมนูให้ลองเยอะมาก ได้ข่าวว่าข้าวมันไก่ หม้อไฟ และขนมจีนไหหลำนั้นเด็ดต้องโดน แต่เสียดายที่ขนมจีนไหหลำนั้นมีขายเฉพาะวันศุกร์และเสาร์เท่านั้น วันนี้เราเลย สั่งข้าวมันไก่และหม้อไฟรวมมิตรมาลอง และต้องบอกเลยว่า รสชาติกินขาดจริง ๆ นี่ขนาดที่ร้านออกแปะป้ายไว้เลยนะว่าทุก ๆเมนูของที่นี่ไม่มีส่วนประกอบของผงชูรสแน่นอน
พิกัด : goo.gl/maps/FLwKkXQGhgkLQBWh8

009 วัดคณิกาผล
ไหน ๆ ก็พูดถึงซอยนางโลม หรือย่านโคมเขียวแล้ว ก็ขอพามาวัดนี้สักหน่อย เพราะทีีนี่คือวัดที่สร้างขึ้นมาโดยแม่เล้าผู้กว้างขวางแห่งย่านโคมเขียวของเยาวราช เดิมชื่อเก่าคือ วัดใหม่ยายแฟง แต่ต่อมา ร.5 ได้พระราชทานชื่อวัดขึ้นมาใหม่เป็นวัดคณิกาผล
พิกัด : goo.gl/maps/ctGZFyy1rLt7TYZg7

010 ศาลเจ้าพ่อยี่กอฮง(สน.พลับพลาชัย)
ตรงข้ามกับวัดคณิกาผลก็คือ สน.พลับพลาชัย ซึ่งมีน้อยคนมากที่รู้ว่าดาดฟ้าของสน.พลับพลาชัยมีศาลเจ้าของเจ้าพ่อหวยเมืองไทยตั้งอยู่ นั่นก็คือ ศาลเจ้าพ่อยี่กอฮง นักธุรกิจชาวจีนที่นำหวย กข เข้ามาในไทยคนแรก และเป็นที่มาของสลากกินแบ่งรัฐบาลในปัจจุบัน
พิกัด : goo.gl/maps/KNcbPP3zXFYB5DmQ8

ณ จุดนี้ เป็นอันจบทริปครึ่งวันทัวร์เยาวราชที่พี่บ๊วยโอสต์ของเราจัดมาให้เราแล้ว เราจึงบอกลาพี่บ๊วยและเดินมุ่งหน้ากลับไปที่ถนนเยาวราชเช่นเดิม

011 ถนนเยาวราช
ถนนเส้นของอร่อยในดวงใจใครหลาย ๆ คน ซึ่งสีสันของเยาวราชในช่วงปกติเราก็ว่าสวยและสดใสอยู่แล้ว พอมาช่วงตรุษจีนแบบนี้ ยิ่งน่าเดินเล่นมากขึ้นไปอีกหลายเท่าเลย

012 ร้านเด็กสมบูรณ์
ใครจะไปเชื่อว่าซีอิ๊วดำสามารถทำเป็นไอติมได้ เราเลยขอมาลองสักครั้งที่นี่ ร้านเด็กสมบูรณ์ ที่มีเมนูไอติมซีอิ๊วดำ และไอติมน้ำจิ้มบ๊วยให้เราลอง ในราคาเพียงถ้วยละ 20 บาทเท่านั้นเอง สำหรับเรานั้น เราชอบรสชาติของมันนะ และก็ขอแนะนำว่า ควรมาลองสักครั้งอ่ะ
พิกัด : goo.gl/maps/6QnEKMDMLjqoYjFq9

013 Wallflowers Cafe
ก่อนจะกลับขอเอาใจสายคาเฟ่และตัวเองสักหน่อยด้วยการมานั่งร้านกาแฟสุดฮอตของย่านนี้ อย่าง Wallflowers Cafe ที่ซอยนานา ร้านกาแฟบวกร้านดอกไม้ที่แสนมีเสน่ห์แห่งนี้ มีความโดดเด่นที่เราเชื่อว่าใครเข้ามาก็ต้องหลงรัก ทั้งกลิ่นขนม กาแฟ และดอกไม้มันเข้ากันกรุ่นอยู่ในร้านจนไม่อยากจะเดินออกไปไหนเลย
พิกัด : goo.gl/maps/MoamR8YzsunJwAnCA

จบแล้วกับเดย์ทริปสั้น ๆ ของวันชิล ๆ ในช่วงตรุษจีนของพวกเรา เอาจริง ๆ นะ เราว่าแค่ใช้เวลาเที่ยวในกรุงเทพให้ครบ ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเที่ยวยังไงให้หมด เพราะทุกตรอก ทุกซอยก็ต่างไม่มีอะไรซ้ำกัน มันคือหนึ่งในเสน่ห์ของการเที่ยวในกรุงเลยก็ว่าได้
แล้วอย่าลืมไปร่วมสนุกกับแคมเปญมอบอั่งเปาฉลองตรุษจีน ลุ้นรางวัลกันด้วยน้า
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3tNsCj6 รีบส่งกันล่ะ ถึง 17 ก.พ.นี้เท่านั้นจ้า
ด้วยรัก
บันทึกคนขี้เที่ยว