หยิบเงิน 800 บาทแล้วสะพายกระเป๋าขึ้นรถไฟ
ไปตั้งแคมป์ที่เอราวัณกันดีกว่า…
ในเมื่อการได้หยิบหูฟังเสียบซาวด์อะเบ้าท์เปิดเพลงจากเทปคู่ใจ
ขึ้นรถไฟไปเที่ยวเป็นเรื่องสนุกมากๆ ของวัยรุ่นยุคก่อน
เอาล่ะ คราวนี้เราเลยขอหลีกหนีถนนคอนกรีต
กลับมาสู่ความ Simple บนรถไฟสายธนบุรี-น้ำตก
หยิบหูฟังไร้สายเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
กดฟังเพลลิสต์ติดชาร์ต หลับบ้าง ตื่นบ้าง ดูข้างทางบ้าง
เปิดเพลงโปรดคลอเสียงล้อเลื่อนกระทบกับไม้หมอน ฉึกกะฉัก
เดินทาง เคลื่อนตัวไปช้าๆ ปล่อยเวลาล่องไปกับการท่องโลกกว้าง
และไปสุดสายค้างคืนนอนเต็นท์กันที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกเอราวัณ
จากนั้นก็พากันไปแวะชมวิวทางรถไฟสายมรณะต่อที่สถานีถ้ำกระแซ
เป็นอันครบจบทริปแบบสวยๆ กลับสู่เมืองกรุงอย่างอิ่มอกอิ่มใจ
ได้เวลาคว้าหูฟังไร้สาย realme Buds Air
ขึ้นรถไฟไปนั่งฟังเพลงกันแล้วววววว
สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้
-ค่ารถไฟ ไปกาญจนบุรี 25 บาท
-ค่ารถเมล์หวานเย็นไปอุทยานฯ ไป-กลับ 100 บาท
-ค่าเข้าอุทยานฯ น้ำตกเอราวัณ 100 บาท
-ค่าเต็นท์ 225 บาท (คนละ 115 บาท)
-ค่าถุงนอน ผ้ารองนอน หมอน 140 บาท
-ค่าอาหารเที่ยง+เย็นคนละประมาณ 250 บาท
-ค่ารถไฟไปถ้ำกระแซ 12 บาท
-ค่ารถไฟจากถ้ำกระแซกลับกรุงเทพ 35 บาท
รวม 777 บาท/ต่อคน (สมาชิกในทริปมี 2 คน)
ในเมื่อการเดินทางของฉันและเธอคือการเรียนรู้…
ทุกการเดินทางมันต้องใช้เวลา
ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการใช้เวลาเดินทางให้คุ้มที่สุด
เราเลยไม่ลืมที่จะพกอุปกรณ์ช่วยชีวิต
ตัวจริงการเชื่อมต่อแบบไร้สายอย่างเจ้าตัวเล็ก realme Buds Air
หูฟังไร้สายเสียงนุ่มนวลเพอร์เฟคที่ได้ใจเราไปครอง
รองรับ Google Fast Pair ที่ทำให้การเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ของเราไวยิ่งกว่าจรวด
แถมชาร์จด้วย Wireless และผ่าน Wireless charging case
ใช้งานได้ยาวๆ ไปเลย 17 ชั่วโมง
เรื่องเสียงนี่ต้องยอมเลย เพราะ Driver Bass
เป็นแบบไดนามิค จะทำให้เสียงมีพลังมากยิ่งขึ้น
และ Dual Mic และ ENC ที่ทำให้การใช้งานด้านเสียงมีคุณภาพมากขึ้น
และช่วยลดเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อมภายนอก
เอาล่ะเตรียมพร้อมทุกอย่างแล้ว ก็มาเดินทางกันเลยจ้า
เรามาขึ้นรถไฟขบวนที่ 257 ธนบุรี-น้ำตก
ที่สถานีรถไฟธนบุรีตั้งแต่เช้าตรู่
รถไฟขบวนนี้ออกจากสถานี เวลา 7.50 น.
ค่าตั๋วรถไฟ 25 บาทเองจ้า
ดูรายละเอียดตารางรถไฟได้ที่
http://procurement.railway.co.th/checktime/checktime.asp
ฉึกกะฉัก ฉึกกะฉัก ปู๊น ปู๊นนนนน รถไฟมาแล้วจ้าาาาาา
ก่อนออกเดินทางก็โทรรายงานคนที่บ้านนิสสสนึงงง
แม้ว่าเสียงรอบข้างจะจอแจ เสียงหวูดรถไฟจะแทรกมาตลอด แต่เราก็ไม่กลัวว่าจะคุยกับคนปลายสายไม่รู้เรื่องเพราะเจ้าหูฟังของเรา
รองรับมาตรฐาน AAC มีระบบไมค์คู่ ANC ตัดเสียงรบกวนระหว่างคุยได้ด้วยจ้าาาา เก๋สุดๆ ไปเลยจ้า
บรรยากาศรถไฟชั้น 3 เที่ยวเช้าวันนี้หลวมๆ ไม่ได้แน่นอึดอัดอะไรเลย ความชิวมาเต็มมมมม
เอาล่ะ ได้เวลานั่งหลับตาพริ้มๆ ฟังเพลงเพลินๆ แล้วสิ
หยิบโทรศัพท์คู่ใจขึ้นมา แล้วเชื่อมบลูทูธทันที
การเชิ่มก็ง่ายมากเพราะเราเคยใช้งานมาก่อนแล้ว
การใช้งานครั้งต่อไป ก็เชื่อมต่อได้อัตโนมัติแล้วจ้า
สำหรับเจ้าrealme Buds Air ตัวนี้
ถ้าเราไม่พูดถึงฟังก์ชั่นการใช้งานที่ง่ายน่าประทับใจ
สามารถควบคุมและสั่งการได้ด้วยสัมผัส
Double Click = ตอบรับสาย / เล่น-หยุดเพลง
Triple Click = ข้ามไปเพลงต่อไป
Long press on one side = วางสาย/ปฏิเสธการรับสาย
Long press on both sides = เข้า/ออก Gaming Mode
นอกจากจะไม่มีสายระโยงระยางกวนใจเราตอนเดินทาง
ยังทำให้เห็นว่า การมีเจ้าตัวเล็กตัวนี้ตัวเดียว
พกง่าย ใช้ง่าย มันง่ายจริงๆ
นั่งรถไฟมาประมาณ 3 ชั่วโมง เราก็มาถึงสถานีกาญจนบุรี
หลังจากนั้นเราก็มาต่อที่รถประจำทางเพื่อนั่งต่อไปน้ำตกเอราวัณ
รถหวานเย็นจากกาญจนบุรีไปน้ำตกเอราวัณ
มีรอบ 8.00 / 8.55 / 10.45 / 11.50 / 13.30 / 15.00 / 16.20 / 17.40
และรถจากน้ำตกเอราวัณ – กาญจนบุรี
มีรอบ 5.40 / 6.20 / 7.00 / 8.00 / 10.00 / 12.00 / 14.00 / 15.00 / 16.30
ราคาคนละ 50 บาท
บนรถเมล์ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ
นี่ไปแอบอ่านรีวิวมาแน่ๆ เลยเดินทางกันมาได้เก่งขนาดนี้
รับลมเย็นๆ บนรถเมล์หวานเย็น
ความรู้สึกแบบนี้ เราไม่ได้เจอมานานมากแล้ว
เดินทางประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง เราก็มาถึงอุทยานแห่งชาติเอราวัณ
ก่อนเข้าอช. มาจะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บค่าเข้าบนรถเลย 100 บาท
หลังจากเข้าอุทยานเสร็จแล้ว
เราก็เดินไปเช่าเต็นท์และเครื่องนอนสำหรับคืนนี้ให้เรียบร้อย
ที่อช.มีเต็นท์เตรียมไว้สำหรับนอนอย่างสะดวกสบาย
ในราคาหลังละ 225 บาท (นอนได้ 3 คน )
ถ้าจะเอาอุปกรณ์การนอนเช่น หมอน ถุงนอน ที่รองนอน
ก็เพิ่มเงินอีก 140 บาท เนี่ยยยย อะไรจะง่ายขนาดนี้
จัดแจงนั่นนี่เสร็จเราก็รีบจ้ำเข้าไปที่น้ำตก
เพราะได้ข่าวมาว่า น้ำตกมีถึง 7 ชั้น
เดินเท้าเข้าไประยะทางกว่า 1.5 กม. เลยนะ
แต่ตลอดระยะทางไม่ได้ทำให้เรารู้สึกเหนื่อยเลย
เพราะมันร่มรื่น ชุ่มชื้น และน้ำในน้ำตกก็ใสแจ๋วน่าโดดเล่นมาก
ด้วยดีไซน์โดดเด่น ทันสมัยและมีขนาด 122mm
ของหูฟังไร้สายตัวนี้ เราก็อดไม่ได้ที่จะพกไปด้วยทุกที่
ถ่ายรูปเซลฟี่ยังไม่ถอดเลย
แถมน้ำหนักเบาและยังมีการออกแบบเหมาะสม
สอดรับกับความโค้งเว้าของหู ทำให้รู้สึกสบายไม่อึดอัด
นอกจากนี้เราได้ข่าวมาว่าปีนี้ทาง realme
จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทางเทคโนโลยี
ที่ทันสมัยและราคาไม่แพงอื่นๆ
มาให้เราได้จับจองลองใช้
เพิ่มมากขึ้นเพื่อสอดคล้องกับยุค 5G ปักหมุดรอไว้เลย
สูดอากาศบริสุทธิ์ ฟังเสียงน้ำตกสมใจ
ว่าแล้วก็อยากทำตัวคูลๆ ฟังเพลงเขียนไขและวานิช
ให้เข้ากับบรรยากาศสักหน่อย
เสียงเพลงที่ฟังมันชัดมาก นุ่มนวล
เสมือนเขียนไขฯ มายืนดีดกีตาร์ขับกล่อมเพลง
แก้มน้องนางนั้นแดงกว่าใครให้ฟังข้างๆ หู
เพราะ Driver Bass ของ realme Buds Air
เป็นแบบไดนามิคที่ทำให้เสียงมีพลังมากยิ่งขึ้น
พร้อมด้วย Dual Mic และ ENC ทำให้คุณภาพในการใช้งานด้านเสียงดีเยี่ยม
แถมช่วยลดเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อมภายนอกด้วยเด้อออออ
เสียงน้ำตกดังซู่ๆ หรือจะสู้เสียงเพลงที่บรรเลงอยู่ในแก้วหูเรา
มุมนี้ก็เป็นอีกมุมมหาชนที่เรามักจะเห็นกันบ่อยๆ
เห็นปลาแหวกว่ายใต้แผ่นน้ำที่สะท้อนแสง
สีฟ้าอมเขียวมรกตแล้วก็อดชื่นใจไม่ได้
ที่น้ำเป็นสีสวยไม่เหมือนใครแบบนี้เพราะ
น้ำในน้ำตกนั้นไหลมาจากเทือกเขาหินปูน
ที่เกิดจากการทับถมของเปลือกหอย ปู ปะการัง
จนกลายเป็นหินปูน เมื่อครั้งดึกดำบรรพ์
ทำให้มีสารละลายของแคลเซียมคาร์บอเนตเจือปนอยู่
ซึ่งพวกนี้แหละจะตกตะกอนในบริเวณแอ่งน้ำ
ทำให้น้ำด้านบนใส และด้านล่างที่ตกตะกอนนั้น
สะท้อนเป็นสีฟ้าหรือสีเขียวมรกตขึ้นมาไงล่ะ
เย็นแล้ว แสงแดดเริ่มหาย เราก็กลับมาจัดแจงที่นอน
และทำธุระส่วนตัวกันที่เต็นท์ ที่นี่จัดระเบียบเต็นท์พักได้อย่างมีสัดส่วน
เหมาะมากสำหรับการมาพักผ่อน ทั้งกับเพื่อนและครอบครัว
อีกอย่าง มีนักท่องเที่ยวต่างชาติแวะมาเที่ยวกันเยอะมาก
สำหรับมื้อเย็นที่นี่ เราขอฝากท้องไว้กับร้านรวงใกล้ๆ เต็นท์พักนี่แหละ เป็นร้านที่เปิดขายช่วงกลางวันที่คนมาเที่ยวน้ำตกกัน ร้านจะปิดไวหน่อย ช่วงประมาณ 5 โมงเย็น หลังจากนั้น ถ้าค่ำแล้วก็จะไม่มีร้านอาหารเปิด แต่เราสามารถพกขนมขบเคี้ยวหรือเตาเล็กๆ สำหรับตั้งแคมป์พกไปทำอะไรกินกันเล็กๆ น้อยๆ ก็ได้ หรือหากเอาสะดวกจริงๆ ก็กินมาม่ามี่ร้านเล็กๆ ในอช. ให้บริการได้ หรือจะซื้อขนมขบเคี้ยวพกเข้าไปด้วยก็ได้ แล้วอย่าลืมเก็บกวาดขยะของเราไปทิ้งให้เรียบร้อยด้วยนะ
ตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว สิ่งที่ตามมาคือความหนาวเย็นมากระทบผิวหน้าเบาๆ
ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมานั่งดู MV. ที่ชอบ ฟังเพลงที่ใช่สักหน่อย
และเจ้า realme Buds Air ที่น้ำหนักเบาเพียง 4 กรัมนิดๆ ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง
เพราะด้วย Design แบบก้าน + ฺBT 5.0
รองรับการรับส่งสัญญาณ (Dual Transmission)
ทำให้ความดีเลย์ของเสียงกับภาพแทบจะเป็น 0
เหมาะกับการดูหนัง ฟังเพลง เป็นที่สุด
แถมยังมี Game Mode ให้เราเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมอีกด้วย
ผ่านค่ำคืนอันเงียบสงบไป
เรานอนหลับสบายไม่มีฝันอะไรมารบกวน
ทำให้ตื่นมาตอนเช้าอย่างฝดใฝฝุดๆ
ยามเช้าของที่นี่ช่างสดชื่นเสียกระไร
บิดขี้เกียจในถุงนอนสองสามที
พาตัวเองออกจากเต็นท์มาสูดกลิ่นไอหมอกให้เต็มปอด
แล้วยิ้มหวานรับวันใหม่ให้เต็มที่
วันนี้จะเป็นวันที่ดีทั้งวัน
ช่วงเช้าถ้าอากาศดีๆ จะมีหมอกลอยขึ้นเหนือน้ำด้วยน้าาาาาา
สายๆ เราก็ถึงเวลาออกจากอุทยานฯ แล้ว
ด้วยวิธีเดิมนั่นก็คือนั่งรถเมล์หวานเย็นกลับ
หลังจากถึงสถานีรถไฟกาญจนบุรีเราก็นั่งรถไฟไปถ้ำกระแซต่อ เพราะอยากได้วิวดีๆ ข้างทางรถไฟ ซึ่งทางรถไฟเส้นนี้ ฮอตมากเลยนะ เราว่าทุกคนต้องเคยเห็นผ่านตามาบ้างแล้วแน่นอน
ค่าตั๋ว 12 บาทจากสถานีรถไฟกาญจนบุรี มาสถานีถ้ำกระแซนี่สวยงามเกินคาด คุ้มเกินราคาไปเล้ยยยยยย
เท่คูลใช้งานง่ายเหมาะกับการเดินทางแบบนี้
ของจะไม่มีก็ไม่ได้
เราบอกต่อให้รีบไปซื้อกันเลย
กับหูฟังไร้สาย realme Buds Air
ที่ Shop realme และช่องทางช้อปปิ้งออนไลน์
ทั้ง Lazada และ Shopee เลยจ้า
และแล้วเราก็มาถึงอีกหนึ่งจุดหมาย
นั่นก็คือ รางรถไฟสายมรณะ
ที่สถานีรถไฟ ถ้ำกระแซ จุดชมแม่น้ำแคว
ที่เรียกว่าดีที่สุดของกาญจนบุรีเลยนะสำหรับเรา
เสาร์อาทิตย์ติดหูฟังนั่งรถไฟของเราก็จบลงด้วยความชื่นมื่นอีกแล้ว
แต่ละทริปผ่านไป ไวเหมือนดีดนิ้ว
สมัยเด็กเราจำได้ว่าการได้นั่งรถไฟไปเที่ยว
เป็นเรื่องตื่นเต้นและสนุกมากๆ
แต่พอโตขึ้นด้วยเวลา ภาระ หน้าที่
ทำให้เราไม่มีเวลาพอที่จะมาเที่ยวแบบนี้ได้เท่าไหร่
คราวนี้ได้กลับสนุกและตื่นเต้นกับการขึ้นรถไฟอีกครั้ง
แม้จะเป็นเส้นทางที่ไม่ได้ไกล
แต่ได้วิวและความสุขใจไม่แพ้ใครเลย
เหมือนเราได้ย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
ด้วยรัก
บันทึกคนขี้เที่ยว