เย้ ในที่สุดวันพักผ่อนหน้าหนาวปลายปีก็มาถึงสักที อากาศดีชวนให้เที่ยวขนาดนี้
ต้องจิ้ม GPS ไปเขาใหญ่แล้วป่ะแก แต่ครั้งนี้เป็นการไปพักผ่อนเขาใหญ่ที่ใช่กว่าเดิม
เพิ่มเติมคือความสุขแบบ Stay unique มีชีวิตท่ามกลางความสงบที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติและทะเลสาบ
เราจะมีเวลาคุยกันเฮฮานั่งเม้าท์แกะขนมกินดู Netflix หรือจะแย่งกันลงจากุชชี่อ่างใหญ่ตีฟองใส่กัน
จะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น เพราะว่าคราวนี้ เราจองที่พักที่สุดแสนจะดีย์ มีความ Less is more น้อยแต่มาก
เรียบแต่โก้ของแท้แน่นอน นั่นก็คือ The Gallery Khao Yai Hotel and Residence
ที่พักน้องใหม่สุดล้ำที่พักหนึ่งครั้งเหมือนต่ออายุให้ยืนขึ้นอีก 10 ปี ทั้งบรรยากาศที่ดี๊ดี
การออกแบบที่เรียบหรู แถมยังเพิ่มความเก๋ด้วยภาพวาดฝาผนังจากศิลปินคนดังผู้สร้างแรงบันดาลใจ
รับรองว่าทุกตารางนิ้วในห้องสามารถใช้สอยและสร้างความสุขจนจุกแน่นอน
ข้อมูลเพิ่มเติม
Fackbook : The Gallery Khao Yai Hotel and Residence
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/RfdzkeQKFfGikmeZ8
ห้องของพวกเราวันนี้คือวิวดี อยู่ชั้นสูงสุด มองเห็นทะเลสาบ 180 องศา นั่นก็คือ ห้อง The Penthouse 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ สำหรับ 6 คน
แต่ที่นี่ มีห้องพักอยู่ 3 แบบนะ คือThe Deluxe สำหรับ 2 คน The Suite สำหรับ 2-4 คน และ The Penthouse สำหรับ 6 คน
โดยแต่ละแบบจะแบ่งออกเป็น Mountain View และ Lake View ด้วย คือสวยคือดีพื้นที่กว้างขวาง มีส่วนกลางให้ใช้สอยทุกห้องทุกแบบ
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมห้องพักทุกห้องมีระเบียงส่วนตัว
TheDeluxe ( ขนาด 90 ตร.ม. 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 Mini pantry พักได้ 2 คน )
Mountain View : Weekday 7,500 บาท / Weekend 9,200 บาท
Lake View :: Weekday 7,900 บาท / Weekend 9,900 บาท
TheSuite ( ขนาด 120 ตร.ม. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 Mini pantry พักได้ 2-4 คน )
Mountain View : Weekday 9,900 บาท / Weekend 11,900 บาท
Lake View :: Weekday 9,900 บาท / Weekend 12,900 บาท
ThePenthouse ( ขนาด 270 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ มีจากุสซี่ Outdoor พักได้ 6 คน )
Mountain View : Weekday 19,900 บาท / Weekend 21,900 บาท
Lake View :: Weekday 19,900 บาท / Weekend 23,900 บาท
ห้องพักสามารถเสริมที่นอนเพิ่มได้ 1 ท่าน ราคา 1,500 บาท รวมอาหารเช้า
หรือ Inbox สอบถามและจองห้องพักโดยตรงกับเพจได้ที่
http://bit.ly/334GHKy
หรือจองผ่าน Booking ที่ http://bit.ly/2O2p1ea
หรือจองผ่าน Booking ที่ http://bit.ly/2O2p1ea
มุมที่พวกเราชอบมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น อ่างจากุชซี่ที่อยู่ด้านนอกห้อง ทำให้เราแช่น้ำแบบ outdoor รับลมชมวิว ด้านขวาเป็นวิวภูเขาสีเขียวสบายตา ด้านหน้าเป็นทะเลสาบแถมรับลมเข้ามาเต็มๆ ส่วนดานซ้ายคือพื้นที่ส่วนกลาง เอาไว้ดินเนอร์ปิ้งย่างนั่งคุยกันแบบหนาวลมห่มฟ้า
แท้แด่ และนี่ก็คือ ห้องของเราวันนี้ ด้วยความที่ที่นี่มีห้องแค่ 14 ห้อง มันเลยได้ฟีลเหมือนอยู่บ้าน มีความเป็นส่วนตัว เงียบสงบ จะใช้สอยอะไรก็ใช้ได้ไม่ต้องวุ่นนวายกับใคร
ตีมของแต่ละห้องก็จะต่างกันด้วย สำหรับห้องของเราก็จะเป็นตีมท้องฟ้า ปุยเมฆ
เข้ามาในห้องคือกรี๊ดมากกกกกก ในห้องกว้างขวาง พื้นที่ใช้สอยเยอะมาก เราว่า มารวมตัวกัน 20 คนยังอยู่ได้เลยอ่ะ และด้วยการออกแบบสไตล์โมเดิร์น เน้นโทนขาว วางทุกอย่างเป็นสัดส่วน มันยิ่งทำให้ดูกว้างและสะอาดตา สมแล้วที่สร้างมาแบบมาตรฐานโรงแรม 6 ดาวได้
บอกแล้วว่าฟีลลิ่งเหมือนอยู่บ้าน เพื่อนๆ ก็บอกว่าเหมือนมาเที่ยวบ้านแกเลยอ่ะ
แล้ว The Penthouse Lake View ที่เราพักนะ ครบถ้วนมาก
มีห้องรับแขก ครัว โต๊ะทานข้าว และ มี 3 ห้องนอน แบ่งห้องนอนออกเป็นสัดส่วน
แถมมีห้องน้ำในห้องนอนทุกห้องด้วย ห้องใหญ่มาก 270 ตารางเมตรแน่ะ
ส่วนคอนเซ็ปของภาพวาดด้านหลังเราและภายในห้องนี้ทั้งหมดนั้น คุณซันเต๋อ ศิลปินสายมินิมอลชื่อดัง
บอกว่า คิดมาจากการที่ได้มาพักที่นี่ เลยอยากให้ภูเขาและน้ำมารวมกันในภาพ
ทุกๆ ภาพเน้นสีฟ้าของท้องฟ้า ให้สมกับบรรยากาศแห่งการมาพักผ่อนหย่อนใจ
ห้องทุกห้องกว้างมาก และมีความเฉพาะตัวที่ออกแบบมาให้ทุกห้องไม่ซ้ำกัน
งือออออ แค่เห็นภาพวาดบนฝาผนังก็บอกได้ถึงความเรียบง่าย มีรสนิยมแล้วอ่ะ
เมื่อกี้เห็นภาพวาดฝาผนังกันไปแล้ว ตอนนี้เราเปิดประตูระเบียงออกมา ถ่ายรูปกับภาพวาดจากธรรมชาติกันบ้าง
เราขอยกให้มุมนี้คือมุมที่ดีที่สุดของที่วันนี้
การสร้างกรอบหน้าต่างไว้ที่ระเบียงให้เรายืนมองเหมือนเป็นภาพวาดที่เปลี่ยนสีสันไปตามเวลาและฤดูกาลได้ มันคืออะไรที่ ไอเลิฟมากกกกกก
แกดูฟ้าใสๆ เมฆสวยๆ นั่นสิ ไม่ให้กรี๊ดได้ยังไง
อีกหนึ่งสิ่งที่ทึ่งในไอเดียมากคือการปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้ที่ระเบียงกลางบ้าน มันสวยและอลังการมาก สีใบไม้ที่ตัดกับสีฟ้าของฟ้าด้านบน และสีเขียวของทะเลสาบด้านล่าง มันช่างเป็นภาพที่สุนทรียเสียจริงๆ
อย่างที่บอกแหละว่าห้องของเราสามารถมองวิวทะเลสาบได้แบบ 180 องศา จะนั่งมองฟ้ามองน้ำมองภูเขาเท่าไหร่ก็ได้
เอาล่ะมาถึงมุมมหาชน ที่เราและเพื่อนๆ เฝ้ามองตั้งแต่เปิดประตู้ห้องมา
กับอ่างจากุชซี่ที่บอกเลยว่า อยากตีฟองแล้วลงแช่แบบนี้มานานแล้ว
เอาล่ะ ในขณะที่เพื่อนเรากำลังตีฟองนุ่มๆ อยู่นั้น เราจะพากันไปดูห้องอื่นๆ กันบ้าง
เพราะว่าอย่างที่บอกไปว่าที่นี่ มีศิลปินชื่อดังมาวาดภาพฝาผนังให้ทุกห้อง ทำให้ลวดลายและคอนเซ็ปในห้องนั้นไม่เหมือนกันเลย
เอาล่ะ เราลงลิฟต์มาที่ห้อง The Suite 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ กันบ้างดีกว่า ของโรงแรมกันบ้างดีกว่า
ที่นี่จะมีห้อง Suite 2 แบบ นั่นก็คือ The Suite Mountain View และ The Suite Lake View
ซึ่งทุกห้องจะมี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 Minipantry
และตรงระเบียงมีโซฟาให้นั่งเล่นชมวิว ซึ่งบอกเลยว่า กินกันไม่ลงเลยสักห้อง
พวกภาพวาดฝาผนังเหล่านี้สร้างสรรค์โดยคุณ Gongkan ศิลปินหนุ่มรุ่นใหม่ที่กำลังโด่งดังสร้างผลงานมาแล้วทั้งในเอเชียและอเมริกา
ซึ่งศิลปินของเราบอกว่า แรงบันดาลใจของการวาดภาพให้ที่นี่คือ การได้มาพักแล้วรู้สึกว่าได้นำตัวเองออกมาจากชีวิตของคนเมืองที่เร่งรีบ ทำให้เราได้ teleport ตัวเองมาเจอกับธรรมชาติ ไม่มีฝุ่นควันไม่มีความวุ่นวาย
ความรู้สึกเหมือนเวลาช้าลงและได้ใช้ชีวิตกับธรรมชาติจริงๆ
ยังมีศิลปินสายมินิมอลอีกคนหนึ่งที่วาดภาพสไตล์ Origami น่ารักๆ แนวญี่ปุ่นๆ นั่นก็คือคุณ Suntur ที่เราเล่าไปตั้งแต่แรก ว่าที่นี่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยศิลปินสายมินิมอลชื่อดังผู้เป็นแรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่หลายต่อหลายคน
ซึ่งสิ่งที่ศิลปินทุกคนพูดไว้ เราเห็นด้วยมากเลยนะ การมาพักที่นี่ มันทำให้เราไม่อยากออกไปไหนแล้วอ่ะ อยากใช้ชีวิตแบบสงบๆ อย่างนี้ นั่งดูลม ดุวิว ดูฟ้า ดูน้ำไปเรื่อยๆ เหมือนได้ใช้เวลาคุณภาพกับคนที่เรารักแบบคุ้มค่ามาก
ห้องนอนแบบ Twin bed ก็มีนะ ขอบอกว่าแบบ Queen Size Twin เลยด้วย ในห้อง The Suite และ The Deluxe Mountain View ของที่นี่
แอบหนีไปเดินเล่นทิ้งให้เพื่อนตีฟองรอตั้งนาน ถึงเวลากลับมาบอกลาดวงตะวันไปพร้อมกับสะบัดฟองนุ่มๆ ใส่กันแล้วสิ
จากุชซี่คือดีมาก ปรับระดับน้ำ ตีฟอง สั่งการทุกอย่างได้ด้วยระบบสัมผัสข้างๆ อ่าง มีลูกเล่นเยอะ เรากับเพื่อนนี่ตื่นเต้นกันมากกก
ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว เราลงมาชั้นล่างเพื่อไปฝากท้องมื้อค่ำที่ G Café เป็นส่วนของร้านอาหารและบาร์เครื่องดื่ม ทั้งร้านตกแต่งด้วยไม้และกระจก ดูโล่งโปร่งและหรูเรียบมีความคลาสสิค
หลังจากอิ่มท้องกันเรียบร้อยแล้ว เราขอจัดของหวานมื้อนี้ด้วยดาวที่ระยิบระยับเต็มท้องฟ้า หันซ้ายหันขวาก็เต็มไปหมด ขนาดวันนี้เป็นวันเดือนแจ้งนะเนี่ย ยังเห็นดาวชัดขนาดนี้เลย
ตื่นเช้ามาด้วยความสดใส พร้อมเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความอิ่มเอม เพราะเมื่อคืนได้ทั้งดูดาว ทั้งนั้งเม้าท์มอยกันท่ามกลางอากาศอันบริสุทธิ์และบรรยากาศที่สุดแสนจะดีเลิศ จนถึงเวลาเข้านอน เราล้างหน้าแคะขี้ตา แล้ววิ่งลงมาห้องอาหารทันทีจ้า
แขกที่มาพักที่นี่ทุกคนทุกห้องจะรวมแพ็กเก็จอาหารเช้าไว้ด้วยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าเช้ามาแล้วจะหิวจนไส้กิ่วไม่มีอะไรตกถึงท้อง เดินมาเลยจ้า ที่ G Café ที่เก่าที่เดิม
ได้นั่งจิบกาแฟ ทานมื้อเช้าริมทะเลสาบ มีลมเย็นๆ พัดมาให้ผมปลิวมันก็ได้ความชิวเหมือนกันนะ
อีกหนึ่งช่วงเวลาที่รอคอย หลังจากพักให้อาหารย่อยกันสักครู่แล้ว ก็ได้เวลาเปลี่ยนชุดแล้วสวมวิญญาณเมอเมด ลงมาที่สระว่ายน้ำกลางแจ้งที่เป็นระบบน้ำเกลือท่ามกลางธรรมชาติ
นี่แหละ เราเชื่อจรจิงๆ เลยว่า การเลือกที่พักที่ดี ไม่ใช่เพียงแค่ได้บริการ ได้การนอนหลับที่ดีเท่านั้น มันยังรวมถึงการได้ใช้พื้นที่ส่วนกลางที่ดี ระบบทุกอย่างมันดีหมดเลย
ข้างๆ สระว่ายน้ำก็มีฟิตเนสเล็กๆ ให้ได้ใช้กันด้วย
มุมถ่ายรูปเยอะมากกกก ถ่ายตรงไหน ยังไงก็ดี ก็สวย
ขึ้นมาจากสระ ก็ไม่วายขอลงอ่างอีกสักรอบเถอะ กว่าจะมีเวลาได้ออกมาเล่นน้ำตีฟองแบบนี้ ก็ทำงานหนักกันมาทั้งปีเลยนะ รอบนี้แหละถือว่าได้พักกันเต็มที่จริงๆ
อย่างที่เราบอกไปว่า การเลือกที่พักที่ดี ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การได้นอนที่ดีๆ แต่มันหมายถึงคุณภาพของช่วงเวลาพักผ่อนของเราด้วย และแน่นอนว่ามันก็คือคุณภาพชีวิตที่ดีของเราด้วยเลย สำหรับช่วงเวลาคุณภาพ กับคนคุณภาพที่สำคัญสำหรับชีวิต แล้วเวลาของการพักผ่อนและได้อยู่ด้วยกันที่มีเพียงน้อยนิด เราคิดว่า ควรเลือกสิ่งที่ดีกว่าและดีที่สุดให้กับการออกมาพักผ่อนของเรา
ซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้ว สำหรับลิสต์ที่เราจะเสนอ หนึ่งในอันดับท็อปที่พักในดวงใจของเราต้องมีชื่อที่นี่อยู่ด้วยแน่ๆ เอาเป็นว่า ถ้าอยากใช้เวลาพักผ่อนให้คุ้มค่า ให้มีคุณภาพที่สุด ก็ลองมาที่นี่ แล้วรับรองว่าจะกลับไปด้วยความสุขล้นปรี่ พักผ่อนเต็มที่ แน่นอน
ด้วยรัก
บันทึกคนขี้เที่ยว