มีเสียงลือให้ได้ยินอยู่บ่อย ๆ ว่าเที่ยวใต้เที่ยวได้ทั้งปี โดยเฉพาะที่นี่ ‘ทะเลสาบเชี่ยวหลานหรือเขี่อนรัชชประภา’ โดยรอบนี้เราจะพามาพบกับความว้าวซ่าทั้งที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก คาเฟ่น่ารัก มุมถ่ายรูปเก๋ ๆ รวมไปถึงกิจกรรมเท่ ๆ ให้ทุกคนได้เที่ยวตามกันได้รับรองว่ามีสไตล์และคุ้มค่าแน่นอน ทั้งนี้ก็เพราะว่าเขี่อนรัชชประภาได้รับมาตรฐานคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวเพื่อนันทนาการหรือเครื่องหมาย “ช้างชูงวงเริงร่า” จากกรมการท่องเที่ยว คือได้รับการคัดเลือกแล้วว่ามีการบรรยากาศและการให้บริการที่ดี ถูกสุขลักษณะ สะอาด ปลอดภัย และยังมีราคาที่เหมาะสมต่อนักท่องเที่ยวอีกด้วย
นอกจากที่นี่แล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทั้ง ที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร กิจกรรมด้านการท่องเที่ยวและอื่น ๆ ทั่วทุกภาคได้เข้าร่วมมาตรฐานการท่องเที่ยวไทยเพื่อนการันตีคุณภาพเพิ่มความมั่นใจในการออกเดินทางของพวกเรา โดยสามารถเข้าไปชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://tts.dot.go.th

ไฮไลท์ทริป
สถานที่ : เขื่อนรัชชประภา
พิกัด : goo.gl/maps/44xpxYZGxt5eVdCk8

ไฮไลท์ทริป
สถานที่ : เขาสามเกลอ เขื่อนรัชชประภา
พิกัด : goo.gl/maps/74fRacRNgrRGuT6b8

ไฮไลท์ทริป
สถานที่ : แพ 500 ไร่

001 เขื่อนรัชชประภา
สำหรับทริปนี้เราตั้งใจพุ่งตรงมายังเขื่อนรัชชประภาหรือเขื่อนเชี่ยวหลาน ซึ่งเป็นเขื่อนที่ใช้สำหรับการผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนได้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้เขื่อนรัชชประภายังมีประโยชน์ด้านอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ที่เห็นได้ชัดเจนคือ เป็นแหล่งท่องเที่ยว พักผ่อนกย่อนใจที่ทั้งสวยงามและมีครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์สวยงามสุดลูกหูลูกตา ร้านอาหาร ร้านกาแฟ จุดชมวิว สวนหย่อม หรือสถานที่ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพบูชา
พิกัด : goo.gl/maps/44xpxYZGxt5eVdCk8

อย่าที่เราบอกไปตั้งแต่ต้นว่า เขื่อนรัชชประภามีเครื่องหมายช้างชูงวงเริงร่า หรือการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย เป็นการการันตีว่าสามารถเที่ยวที่นี่ได้ทุกจุด รับรองความสะอาด บรรยากาศดี มีสุขลักษณะ
จุดท่องเที่ยวภายในเขื่อนรัชชประภา 6 จุด ได้แก่
1. จุดชมวิวบริเวณศาลาประภาภิรมย์
2. จุดชมวิวอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา (หลังพระอนุเสาวรีย์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต)
3. จุดสักการะหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์
4. ร้านอาหารครัวกุ้ยหลิน
5. ร้านกาแฟชลธารา
6. สนามกอล์ฟเขื่อนรัชชประภา

ถ้าจะให้ดี ต้องเตรียมกล้องถ่ายรูปมาเพื่อบันทึกภาพความทรงจำพร้อมกับวิวทิวทัศน์ของที่นี่

อยากให้มาที่นี่ตั้งแต่เช้า เพราะวิวเขื่อนเคล้าสายหมอกมันดีมากๆ เลยนะ

002 พระพุทธสิริสัตตราช (หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์)
พระพุทธสิริสัตตราช (หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์) ถือเป็นพระพุทธรูปคู่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตและเป็นที่สักการะของชาวกฟผ. เป็นอย่างมาก หลาย ๆ สถานที่ได้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้เพื่อความเป้นสิมิมงคลและเชื่อว่าจะทำให้พื้นที่นั้นมีฝนตกชุก มีความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งที่นี่ได้อัญเชิญหล่วงพ่อเจ็ดกษัตริย์มาประดิษฐานเมื่อ พ.ศ. 2554 ชาวบ้านและผู้มีจิตศรัทธามักมาสักการะขอพรทั้งเรื่องความอุดมสมบูรณ์ เรื่องการเดินทาง ปกป้องพยันตราย และเรื่องการค้าขายด้วย
พิกัด : goo.gl/maps/ejj9Qt5vjSLqDr8o6


003 ชาลาธารา
จะพูดว่านี่คือร้านกาแฟที่บรรยากาศดีลำกับต้น ๆ ของสุราษฎร์ธานีก็คงไม่ผิด เพราะนี่คือร้านกาแฟหนึ่งเดียวที่อยู่ตรงสันเขื่อนรัชชประภา สามารถนั่งจิบกาแฟรับลมชิว ๆ มองวิวเขื่อนสลับกับภูเขาได้ไกลสุดลูกตา
พิกัด : goo.gl/maps/fy5R5n9qrAJdNqaX8

นอกจากวิวสวย บรรยากาศร่มรื่นแล้ว ที่นี่ยังมีทั้งเครื่องดื่มและขนมที่หลากหลาย สามารถสั่งได้ตามสไตล์ของแต่ละคนได้เลย

004 อนุสาวรีย์พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต
จิบกาแฟ กินขนมจนเริ่มตึงท้อง เราก็เดินมาที่สวนหย่อมข้าง ๆ ร้านกาแฟ ก็จะพบกับอนุสาวรีย์พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิตตั้งตระหง่านกลางสวนร่มรื่น ซึ่งชาวสุราษฯ นั้นรักและเคารพพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิตเป็นอย่างมาก เพราะท่านได้เข้ามามีบทบาทในการช่วยพัฒนาสุราษฎร์ธานีในยุคก่อนจนชาวบ้านยกย่องให้ท่านเปรียบดังแม่เมืองเลยทีเดียว


005 จุดชมวิวอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา
ด้านหลังอนุสาวรีย์พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต จะมีทางเดินเล็ก ๆ เชื่อมต่อไปยังจุดชมวิว ซึ่งตรงนี้ก็สวยไม่แพ้ใคร สามารถยืนมองวิวอ่างเก็บน้ำกว้างใหญ่ตัดกับทิวเขาด้านหลังไกล ๆ ได้แบบ 180 องศา อีกทั้งยังมีมุมถ่ายรูปเล็ก ๆ ไว้เป็นจุดเช็คอินให้แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย

006 ศาลาประภาภิรมย์
หลังจากแชะภาพกับจุดชมวิวเสร็จแล้ว เราก็เดินทาอีกจุดหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน นั่นก็คือบริเวณศาลาประภาภิรมย์ ซึ่งตรงนี้วิวดี ลมเย็นไม่แพ้จุดอื่น ๆ ของเขื่อนรัชชประภาเลย ทั่วบริเวณศาลา เป็นสวนหย่อมเล็ก ๆ ประดับประดาไปด้วยดอกไม้ใบหญ้ามีความสวยงามร่มรื่น สามารถมาชมวิวและรับลมเย็น ๆ ได้
พิกัด : goo.gl/maps/8GWY9hnmetMR7GKF7



007 ครัวกุ้ยหลิน
จิบกาแฟจนอิ่ม เดินเล่นจนเพลิน ถ่ายรูปจนหนำใจ เราก็ขอหาอะไรอร่อย ๆ ลงท้องลงไส้ที่ร่ำร้องเสียงดังจ๊อก ๆ เป็นสัญญาณเตือนว่าให้พามาร้านเด็ดริมเขื่อนสักที เราเลยลงเอยกันที่นี่ ‘ครัวกุ้ยหลิน’ ร้านอาหารดังปรำจำย่านเขื่อนรัชชประภา ซึ่งเมนูต่าง ๆ ของที่นี่ทั้งดีและเด็ดไปซะทุกอย่าง แต่ถ้าจะพูดถึงเมนูชื่อดังก็ต้องเป็น ขาหมูทอดชิ้นโต ที่เป็นตัวชูโรงทุกโต๊ะต้องสั่ง และตามมาด้วยอาหารใต้รสเด็ดอีกหลายเมนู
พิกัด : goo.gl/maps/omYG9pdLLEGRAWmQ8

ร้านอาหารครัวกุ้ยหลิน เป็นร้านอาหารใต้ที่มีกลิ่นอายโต๊ะจีนเล็ก ๆ ตั้งอยู่ในบริเวณเขื่อนรัชชประภา เป็นอาคารขนาดใหญ่ สามารถรองรับลูกค้าได้ทั้งแบบส่วนตัวและกลุ่มทัวร์ และรับจัดเลี้ยงต่าง ๆ ด้วย

ทั้งรสชาติอาหารและบรรยากาศของร้าน บอกได้เลยว่าหาที่ไหนมาเปรียบยากมาก โดยเฉพาะช่วงแสงเย็น ชมพระอาทิตย์ตกตรงนี้ดีงามที่สุด

008 สนามกอล์ฟเขื่อนรัชชประภา
ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาว่าที่นี่คือสนามกอล์ฟที่วิวสวยติดอันดับท้อปของเมืองไทย ในใจก็คิดว่าเค้าลือกันเกินจริงไปหรือเปล่า แต่พอได้มาที่นี่ ได้เห็นวิวสนามกอล์ฟติดกับสันเขื่อน หันกลับอีกด้านก็เห็นภูเขาลูกใหญ่เด่นตระหง่านเป็นแบคกราวน์อยู่ไกล ๆ และส่วนใหญ่จะบอกว่าถ้ามาช่วงเช้า จะสามารถออกรอบพร้อมสายหมอกได้แทบทุกวัน ไม่แปลกใจที่โปรกอล์ฟทั้งหลายจึงขยันออกจากบ้านมาลงสนามกันตั้งแต่เช้าเสมอ ๆ
พิกัด : goo.gl/maps/bC9AyoLBmDTXURrW6

ภายในสนามกอล์ฟมีร้านอาหารที่ให้บริการทั้งอาหารและเครื่องดื่มไว้ให้เรามานั่งหลบร้อนด้วย


009 ล่องเรือชมเขื่อนรัชชประภา
หลังจากเช็คอินจุดท่องเที่ยวริมเขื่อนครบแล้ว เราก็ต้องขอลงเรือมาชมความสวยงามของธรรมชาติภายในเขื่อนรัชชประภากันบ้าง ด้วยพื้นที่กว้างขวางนับแสนไร่ ทำให้ด้านในมีความมหัศจรรย์ของธรรมชาติซ่อนอยู่ เราจึงต้องเน้นย้ำเลยว่า มาเที่ยวเขื่อนรัชชประภาทั้งที ต้องเพิ่มเวลาเอาไว้นั่งเรือชมวิว หรือถ้าจะให้ดี ก็ลองไปค้างคืนที่แพในทะเลสาบสักคืนสองคืน ช่วยชาร์ตพลังชีวิตขึ้นมาได้อีกเยอะเลย

010 แพ 500 ไร่
เอาล่ะ มาเช็คอินที่เขื่อนรัชชประภาแล้ว จะไม่ค้างคืนที่นี่กอบโกยประสบการณ์ดี ๆ สักคืนก็คงไม่ได้ คราวนี้เราเลยเลือกที่พักในทะเลสาบรัชชประภาที่เราได้เลือกแล้วว่า มีความเป็นหนึ่งในทุก ๆ ด้าน ทั้ง ความสะอาด การบริการ แถมยังมีเครื่องหมาย SHA หรือมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยสำหรับกิจการด้านการท่องเที่ยวให้เราได้อุ่นใจว่าที่นี่จะให้ประสบการณ์ที่ดีสุดประทับใจแก่เราตลอดทั้งทริปอีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม
FB : 500rai Floating Resort Chiewlarn Lake Khaosok
Web : www.500rai.com

จากท่าเรือตรงสันเขื่อนรัชชประภามาถึงแพ 500 ไร่ รวมทั้งการล่องชมวิวใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่า ๆ มาถึงก็มื้อเที่ยงพอดี แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะหิวท้องกิ่วเพราะที่แพมีอาหารไว้ให้บริการครบทุกมื้อ ซึ่งทุกเมนูมีความสด สะอาด รสชาติอร่อย สมคุณภาพจริง ๆ


กิจกรรมที่ทางแพจัดไว้ให้นั้นมีหลากหลายมาก ตั้งแต่ เล่นน้ำหน้าที่พัก พายเรือคายัคที่ทางแพเตรียมไว้ให้ทุกห้อง หรือจะเล่นน้ำในสระน้ำกลางก็ได้ หรือถ้ายังไม่พอ สามารถใช้บริการล่องเรือส่องสัตว์ชมพระอาทิตย์ตก ยามเช้าก็ล่องเรือชมหมอก หรือสายลุยก็สามารถเลือกบริการเดินป่าศึกษาธรรมชาติได้ด้วย


011 ล่องเรือส่องสัตว์ ชมพระอาทิตย์ตก
หนึ่งในกิจกรรมที่เราเลือกก็คือล่องเรือส่องสัตว์ช่วงเย็น ซึ่งในบริเวณเขื่อนรัชชประภามีสัตว์ป่าอยู่หลายชนิดอาศัยอยู่ตามภูเขาและใช้ชีวิตตามธรรมชาติ โดยช่วงเย็นเจ้าสัตว์ต่าง ๆ จะออกมาหาอาหารและกินน้ำที่ริมตลิ่ง จึงสามารถไปชมได้แบบใกล้ชิด โดยเราจะล่องเรือไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ช่วงเย็นแดดร่มลมตก เข้าไปในเกาะแก่งต่าง ๆ เพื่อตามหาน้อง ๆ ว่ามีใครลงมากินน้ำกันบ้าง ไปจนพระอาทิตย์ตก ได้ชมวิวสวย ๆ สีขอบฟ้าค่อย ๆ เปลี่ยนบนเรือ จนค่ำเราก็กลับแพกัน

ทุกคนตั้งอกตั้งใจรอชมน้อง ๆ สัตว์ป่าทั้งหลายกันมาก

และในที่สุด ความตั้งใจของพวกเราก็ไม่สูญเปล่า เพราะเราเจอเหล่าน้องฝูงกระทิงออกมาหาอาหารที่ริมน้ำ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่พวกเราได้เจอกระทิงทั้งฝูงแบบใกล้ชิดขนาดนี้ และเป็นการดีคือเราอยู่บนเรือ มีน้ำคั่นกลางอยู่ ทำให้เราปลอดภัยจากการถูกโจมตีหากเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้น เอาจริง เราเจอน้องหลายฝูงนะ แต่น้อบกระทิงบางฝูงก็แอบหนีเข้าป่ากันไปก่อนตอนได้กลิ่นพวกเราผ่านสายลมไป นอกจากกระทิงแล้ว เรายังเจอฝูงลิง และเหล่านกนานาพรรณที่ธรรมชาติรังสรรค์มาเป็นรางวัลแก่เราวันนี้ ถือว่ามันคือความอะเมซิ่งจริง ๆ

สวัสดีบรรยากาศยามเช้า ที่เต็มไปด้วยสายหมอก เมื่อคืนหลับเต็มอิ่ม ตื่นมาด้วยความฟิน ยืนหน้าระเบียงห้องพักเพื่อสูดกลิ่นธรรมชาติและทักทายพระอาทิตย์ที่ออกมาจากมวลหมอกยากสักหน่อย เพราะที่นี่หมอกเยอะ ความชื้นหนา พี่ ๆ สต๊าฟบอกว่า บรรยากาศยามเช้าเป็นแบบนี้ทุกวันเลย

หากเลือกพักห้องฮันนีมูนแบบพวกเราก็จะหรูหรากว่าคนอื่นนิดหน่อยคือมีสระว่ายน้ำสวนตัวพร้อมอ่างจากุซซี่บอกเลยว่าได้วิวดี ภาพสวยกว่าใครไปอวดให้ชาวโซเชี่ยลอิจฉาแน่นอน


หลังจากอิ่มเอมกับยามเช้าหน้าที่พักแล้ว เราก็ขอออกไปล่องเรือชมหมอกกันสักหน่อย ทุกเกาะแก่งในบริเวณทะเลสาบนี่สวยจริง ๆ


จบความฟินไปกับทุกกิจกรรม สุดท้ายเราบอกลาแพ 500 ไร่ไปอย่างแฮปปี้เอนเดิ้ง

การมาเที่ยวเขื่อนรัชชประภาในคราวนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เราประทับใจสุด ๆ และได้รับประสบการณ์การท่องเที่ยที่ไม่มีวันลืมไปเลย ไม่น่าเชื่อว่าการมาเที่ยวแค่จุด ๆ เดียว สามารถตอบโจทย์ให้เราได้ครบทุกความต้องการ สมแล้วที่ได้รับมาตรฐานภาพแหล่งท่องเที่ยวเพื่อนันทนาการจากกรมการท่องเที่ยว ต่อไปนี้หากเราจะเลือกไปเที่ยวที่ไหน เราจะสามารถวางใจว่าทุกที่จะมีคุณภาพและให้ความคุ้มค่ากับเรา หากที่นั่นได้รับเครื่องหมายช้างชูงวงเริงร่าเช่นเดียวกับเขื่อนรัชชประภาแน่นอน เอาเป็นว่าคราวหน้าเราจะพาไปตามหาที่เที่ยวดี ๆ มีมาตรฐานมาฝากอีกหลาย ๆ ที่เลย
ด้วยรัก
บันทึกคนขี้เที่ยว