ถ้าคิดถึงสิงคโปร์ เราจะขอแนะนำทริป Singapore land of Shutter shots ชวนไปรัวชัตเตอร์ที่สิงคโปร์ 3 วัน 2 คืน “สิงคโปร์เมืองเล็กๆที่ใครก็อยากไปซ้ำ” มากี่ครั้งก็เก็บไม่ครบ มากี่ครั้งก็ประทับใจ แถมยังมีสถานที่เที่ยวเกิดใหม่ทุกครั้งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิงคโปร์ เป็นประเทศแรกๆของ Thai Travellers ที่จะไปเที่ยวแบบโกอินเตอร์ เนื่องจากเที่ยวง่าย ใกล้ และสวยตามวิถี Backpack เราว่าคนที่อ่านรีวิวนี้ส่วนหนึ่งน่าจะเคยสะพายเป้ไปสิงคโปร์กันมาแล้ว แต่อย่าเพิ่งปิดเด็ดขาด เพราะครั้งนี้เราจะมาแจกลายแทงจุดถ่ายรูปยอดฮิตที่สิงคโปร์กัน ทริปนี้เอาใจสายแชะกับ Singapore Photo Map 12 จุดถ่ายภาพแบบคูลๆ ตามล่า Instagram Spot เชื่อเราเถอะว่า IG จะต้องลุกเป็นไฟรับประกันได้ด้วย30 ล้านรูปทั่วโลกจาก Singapore มาพร้อมกับข้อมูลที่พัก ที่กิน และข้อแนะนำการเดินทางในทริปด้วยจ้า
Follow me to Singapore photo map trip
แบกเป้ตามบันทึกคนขี้เที่ยวตามเก็บไฮไลท์สุดว้าวที่สิงคโปร์ ถ้าไม่ไปแบบนี้ตามเทรนด์ไม่ทันแน่นอน เพื่อนๆที่เคยไปสิงคโปร์มาแล้ว ลองมาอัพเดทกันอีกทีว่าชั้นยังไม่ได้มุมไหนบ้าง และสำหรับเพื่อนๆที่ไม่เคยไปยิ่งต้องตาม Map เราไปถ่ายรูปเล่นๆ กันแบบ Explore Trip กับจุดถ่ายรูปปังๆ คูลๆ Instagramable Spot Hopping : เราขอเช็คอินแหล่งตามสถานที่ติดแทค TOP IG Spot Must Visit ชมความใหม่ความใหญ่ที่ Gardens by the Bay เดินเล่นถ่ายรูปกันริมอ่าวมารีน่า Helix Bridge, Marina Bay Sands ต่อกันที่สถาปัตยกรรมแบบฉบับ Peranakan Singapore ตามไปสูดกลิ่นอายอินเดียTan Teng Niah’s house@Little India เดินเล่นในตรอกเล็กๆแต่เต็มไปด้วยสีสันอย่าง Haji Lane อย่าพลาดรูปช็อตกว้างๆที่ Old Hill Street Police Station ต่อกันที่มุมเสย มุมสวยขวัญใจมหาชน ใครไปก็ต้องต่อคิวFort Canning หลบลมร้อนมาถ่ายรูปห้องสมุดแสงนวลๆ Library@Orchard และสถานที่อีกมากมายที่เพื่อนๆไม่ควรลืมคือ Jewel Changi Airport และปิดท้ายที่อยากนำเสนอว่าโรแมนติคที่สุดที่ Singapore Flyer.
ไฮไลท์
สถานที่ : Old Hill Street Police Station : Shot beside the road
พิกัด : https://goo.gl/maps/BDyY4NamqnqLUYfh7
ไฮไลท์
สถานที่ : Gardens by the bay : มาที่เดียวเก็บ Top IG Spot ได้ถึง 3 ที่
พิกัด : https://goo.gl/maps/18pri129V8sAQwZS8
001 Jewel Changi Airport : ยกให้เป็นสนามบินที่เสียงชัตเตอร์ถี่ที่สุด
สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวอยู่มากในตัวเมือง แต่พี่แกไม่คิดแบบนั้นคือมาถึงแค่สนามบินชางงีก็เที่ยวได้เลย กินได้เลย แบบไม่ต้องง้อการเดินทางเข้า ด่านแรกที่เราลงสิงคโปร์และต้องประสบพบเจอก็คือ ตม. เอ้ยบ้าเหรอ ไม่เกี่ยว555 ก็คือสนามบินชางงี นี่แหละคือสิ่งที่เราจะบอก สนามบินที่นี่ไม่ธรรมดาและถือเป็นจุดถ่ายรูปที่ยังไง๊ยังไงก็ต้องผ่านไปอยู่ดีไม่ว่าจะขาไปหรือขากลับ น้ำตกผ่านรูหลังคาขนาดใหญ่มหึมา ซึ่งถูกยกให้เป็น “น้ำตกในร่มขนาดใหญ่ที่สุดในโลก” พี่แกทำซะอลังการจริงๆแถมตอนค่ำๆมีการแสดงแสงไฟซะด้วย Jewel Airport เป็นจุดดึงดูดให้คนมาสนามบินไม่ให้น่าเบื่อ (ไม่ได้โม้นะ สิงคโปร์ชางงีได้รับรางวัลสนามบินที่ดีที่สุดในโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 7 แล้ว) แถมได้รูปสวยๆก่อนกลับบ้านไปอีกเยอะเลย ถ้าพูดถึงตัวเราก็คงบอกว่า “ถ่ายให้เร็ว โพสต์ท่าให้ไว” หาช่องดีๆแล้วกดชัตเตอร์ไปเลย 30 Act
พิกัด : https://goo.gl/maps/9ddWgo9nT1S7EN8Q7
การเดินทาง : ตรงข้าม Terminal 1 สนามบินชางงี ในกรณีที่เพื่อนๆเดินทางกับแอร์เอเชีย ลง Terminal 4 สามารถขึ้นรถบัสฟรี ในสนามบินมาลง Terminal 2 แล้วเดินไป Jewel หรือขึ้นรถไฟฟ้าฟรีภายในสนามบินก็ได้
ถ้าจะไม่พูดถึงที่นี่ก็คงไม่ได้ เพราะ Jewel Changi Airport เหมือนถูกออกแบบมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้แวะเที่ยวไปไหนตัว เพราะจะขาไปขากลับก็ต้องมาที่สนามบิน ต้องยอมรับนับถือสิงคโปร์อย่างสุดหัวใจว่า ทำทุกวิถีทางให้การเดินทาง การท่องเที่ยวไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัว พื้นที่สีเขียว แหล่งช้อปปิ้ง สวนสนุกเล็กๆ โรงภาพยนตร์ โรงแรม และห้องจัดนิทรรศการ อยู่รวมกันใน Jewel Changi Airport ได้อย่างลงตัว ที่นี่นอกจากนักท่องเที่ยวจะมาถ่ายรูปเล่นระหว่างต่อเครื่องแล้วยังมีร้านอาหารครบครันมาก ฝากท้องที่นี้ได้สบาย แทบจะไม่ต้องไปที่อื่นเลยแหละ ส่วนขา
ช็อปก็ไม่ผิดหวังแบรนด์เนมยกมาไว้ที่นี่แบบบบจุใจ
โดมกระจกรูปวงกลมมีน้ำตกอยู่ตามที่เห็นเป็นการก่อสร้างที่ต้องออกแบบ และคำนวณแรงดันน้ำมาก่อนอย่างดี เพราะต้องใช้คานรับน้ำหนักรูปสามเหลี่ยมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษประกอบกันเพื่อรับน้ำหนักของกระจกรวมทั้งมวลน้ำมหาศาล ซึ่งเปิดใช้งานวันละหลายชั่วโมง น้ำตกฝีมือมนุษย์ความสูง 40 เมตร ปริมาณ 38,000 ลิตรต่อนาที ตกจากยอดโดมที่ชั้น 5 ลงสู่ชั้นใต้ดิน
“น้ำตกก็มีช่วงเวลาเปิดปิด” พอพระอาทิตย์เริ่มคล้อย แสงไฟที่ตกแต่งต้นไม้โดยรอบก็เริ่มเปล่งสีสัน ม่วงบ้าง เขียวบ้าง เพื่อรอเวลารอบการแสดงแสงสีเสียงที่มีทุกวันทุกชั่วโมงตั้งแต่ทุ่มครึ่งจนถึงเที่ยงคืนครึ่ง แล้วน้ำตกก็จะหยุดพัก จนกระทั่ง 8 โมงเช้าวันถัดไป
002 House of Tan Teng Niah : บ้านสีลูกกวาดแห่งลิตเติ้ลอินเดีย
House of Tan Teng Niah เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของ Little India (แต่เอาจริงๆไม่ใช่อินเดียน้อยเลยนะ บิ๊กอินเดียน่าจะเหมาะกว่า) จะเป็นตรอกทางเดินเล็กๆสั้นๆ ที่มีอยู่หลายหลังที่มีการวาดลวดลายไปที่ตัวบ้านด้วยสีสดๆ สะดุดตาผู้พบเห็นจนกลายเป็นจุดแวะถ่ายรูปหลักของย่านนี้ไปในที่สุด ที่นี่ก็เป็นอีกที่ที่ทุกคนต่างแย่งชิงอยากได้ซีนที่ไม่มีใครรบกวน มันยากเหลือเกินพี่จ๋า
พิกัด : https://goo.gl/maps/oGpEeN4izLzGNJoz8
การเดินทาง : Little India Station เพียง 200 เมตรเท่านั้น โดยจะมีรถไฟสายสีม่วง North East Line และสายสีน้ำเงิน Downtown Line ผ่าน ให้ออกทางออก E
เพื่อนๆลองคิดถึงความ Contrast เพราะที่นี่เป็นบ้านสไตล์จีนหลังเดียวในย่าน Little India ต้องมาถ่ายรูปคู่กับบ้านสีลูกกวาดกันซัก 2 – 3 รูป ที่นี่ก็ถือเป็นไฮไลท์ของทริปอีกหนึ่งที่ “อย่าพลาด” แนะนำว่าเดินเล่นย่านนั้นมีจุดให้ถ่ายรูปอยู่เยอะพอสมควรนะ ลองหามุมเพิ่มเติมกันได้เลยจ้า
003 Peranakan houses : Singaporean culture
ถ้าให้เราเรียงเทรนด์สำหรับปี 2019 ที่ไหนของสิงคโปร์ หมู่มวล Instagramer ต้องมาให้ได้ คำตอบคือที่นี่แหละ Peranakaท House @Joo Chiat ดียังไงก็คงต้องบอกว่า ที่นี่มีตึกทิวแถวทรงโบราณตามแบบฉบับ Peranakan และเป็นแลนด์มาร์คใหม่กริบที่ขนาดทัวร์ยังต้องมาลงถ่ายรูปนะเออ เราแนะนำให้จัดเวลาไปช่วงเช้า คนไม่เยอะ แสงกำลังดี
พิกัด : https://goo.gl/maps/dpBoyPkrRjW9oewP8
การเดินทาง : เรียก Grab ปักหมุดไปเลย ง่ายสุด
นานๆทีเราจะได้เห็นสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม หรือประเพณีดั้งเดิมของชาวสิงคโปร์ เพราะถ้านับกันจริงๆสิงคโปร์รวบรวมประเทศมาได้ไม่นานมากนัก แต่ด้วยความที่มีรากฐานหลายๆอย่างมาจากผู้คนในคาบสมุทรมาลายู ที่นี่เลยเป็นสิ่งที่สะท้อนความเป็น Singaporean Peranakan ไว้ชัดเจนที่สุด ย่าน Joo Chiat เป็นย่านที่หน้าตาตึกราม บ้านช่องไม่เหมือนสิ่งก่อสร้างอื่นๆในสิงคโปร์ บ้าน Peranakan หลากสี แต่ละหลังจะมีสัญลักษณ์ ลวดลายต่างๆกัน ถึงแม้ว่าจะค่อนข้างไกลจากที่เที่ยวอื่นๆ แต่ถ้ามาสิงคโปร์ต้องมาเก็บแต้มเช็คอินให้ได้เลยล่ะ
แล้วที่บอกว่าย่านนี้มีหลายตึกแล้วที่เค้ามาเช็คอิน ถ่ายรูปกันมันอยู่ตรงไหน จุดที่มีบ้านสีพาสเทลสวยงามเรียงรายประมาณ 20 หลังนี่แหละคือ แลนด์มาร์ค เราสามารถถ่ายภาพตึกแถว Peranakan ได้ทั้งสองฝั่ง แต่ให้ระวังรถกันนิดนึง เพราะถนนนี้มีรถมาตลอด และบ้านบางหลังยังมีผู้คนอยู่ตามปกติ ฉะนั้นลองสังเกตซักหน่อย เพราะนักท่องเที่ยวที่ดีต้องไม่ไปทำลายบรรยายกาศชุมชน เพราะถ้าไปรบกวนเค้าเยอะๆวันหน้าเค้าห้ามถ่ายขึ้นมา มุมสวยๆจะไม่มีเด้อ
004 Singapore Flyer : Stunning views
Singapore flyer เคยเป็นชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกจนถึงปี 2014 ถ้ามาถ่ายรูปตรงนี้ที่จะได้มุมอ่าวมารีน่าสวยงามมากๆ ยิ่งถ้ามาในช่วงพระอาทิตย์ตกแล้วละก็จะสวยงามอย่างสุดๆไปเลย มีคนบอกกับเราว่า รูปจะสวยหรือไม่สวยอยู่ที่องค์ประกอบของภาพ เราไม่เคยรู้สึกว่าไอ้ชิงช้าสวรรค์ (เรียกซะเสีย) มันจะถ่ายรูปแล้วสวยได้ตรงไหน เดินไปตรงไหนดีจะได้รูปสวยๆแบบ IG ฝรั่ง และสุดท้ายก็พบและบอกกับเพื่อนว่า เห้ยอยากได้มุมนี้ขอแบบ Stunning!!! พอรูปออกมาเออ นี่แหละมุมที่อยากได้ ถ้าเพื่อนๆอยากตามเราไปมุมนี้นะ บอกก่อนว่าต้องไปตอนเย็นเท่านั้นเพราะแสงที่ตกกระทบจากฝั่งตรงข้ามได้พอดี
พิกัด : https://goo.gl/maps/zHP8xaXKkPYqnEYo6
การเดินทาง : การเดินทาง : อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน MRT Bayfront Station มากที่สุด โดยจะมีอยู่ 2 สายที่ผ่านคือ Circle Line สีเหลืองเข้ม และ Donwtown Line สีน้ำเงิน จากนั้นให้ออกที่ทางออก B แล้วเดินไปทาง Marina Barrage แล้วหยุดตรง Flower Dome
ถ้าจะให้พูดในฐานะคนที่ชอบถ่ายภาพ และชอบดูภาพจะบอกได้เลยว่า Singapore Flyer โคตรจะโรแมนติค มันคือวิวเมืองที่สวยและลงตัวพอดี ไม่รกหรือไม่ว่างจนเกินไป แต่ถ้าใครมีโอกาสได้ขึ้นไปดูวิวจากบน Singapore Flyer ก็มาเล่าให้เราฟังได้นะ จะได้แลกเปลี่ยนฟีลกัน
สำหรับสาวๆหนุ่มๆ ที่หาไอเดียถ่ายภาพที่สิงคโปร์ มุมนี้ก็คือว่าเด็ดจัดอีกมุมหนึ่ง ถ้าจัด Type ของมุมที่มี Background เราขอให้มุมนี้ว่าเป็นตัวแทนของความโรแมนติก นอกจากจะให้ความรู้สึกอบอุ่นแล้วยังสัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ไปด้วยในตัว ลองหาไอเดียถ่ายภาพไปหลายๆแบบจากมุมธรรมดาๆ สามารถกลายมาเป็นมุม IG Spot คูลๆ ได้เลยที่เดียวเชียว
005 Chijmes : Charm and Calm
Chijmes อ่านเป็นภาษาไทยว่า “ไชมส์ ” (ไม่มีชิจเมส เหมือนที่เราเข้าใจ555) ในบรรดาทุกที่ที่เราไปเที่ยวมาในทริป ที่นี่น่าจะเป็นที่เดียวที่ไม่มีใครมาแย่งถ่ายรูป ไม่ต้องมีใครกันซีน ให้เวลาที่นี่ได้เยอะๆ ไชมส์เริ่มต้นจากอาคารหนึ่งหลัง คือ คอลด์เวลล์ เฮาส์ ที่นี่เคยเป็นโรงเรียนคาทอลิกสำหรับเด็กผู้หญิงบรรยากาศ ดูมีเสน่ห์ สงบ ภายในให้ความรู้สึกคล้ายโบสถ์ สถาปัตยกรรมทุกอย่างแทบจะยกมาจากตะวันตกแทบทั้งสิ้น ที่เราเลือกจุดนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ในลิสต์ IG Spot เพราะที่นี่คืออีกหนึ่งความหลากหลายในแบบสิงคโปร์ เพราะตามที่เราไปก็มีทั้งสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ แบบจีน แบบเปรานากัน แบบอินเดีย และที่นี่เป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรปที่ค่อยข้างชัดเจน
พิกัด : https://goo.gl/maps/gEwg2gCTUFsjja5r9
การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน สถานี Bras Basah (CC2) ทางออก B เดินต่ออีกแค่ 3 นาที
ที่นี่ไม่ธรรมดานอกจากจะสวยแล้ว เมื่อปี 1990 Chijmes ได้รับรางวัล UNESCO Asia Pacific Heritage Awards for Culture Heritage Conservation Merit Award ในปี 2002 โดย UNESCO ซึ่งเป็นสถานที่รวมร้านอาหารและบาร์ในย่านใจกลางเมือง มุมถ่ายรูปที่เรา Prefer จริงๆมีหลายรูปมุมแต่ที่ชอบสุดคงเป็นมุมขึ้นบันไดสีขาว มีความเป็นผู้ดีอังกฤษ และมุมนั่งขอบระเบียงถ่ายรูปเห็นยอดโบสถ์ถ้าวันไหนฟ้าสวยด้วยแล้วก็มุมนี้ก็เป็นอีกมุมที่ติด Top Singapore Hashtag อีกเหมือนกัน
006 Fort Canning : มุมเสยในตำนาน แลนด์มาร์คของ Instagramer
สวนสาธารณะ Fort Canning Park นี้ ถือเป็นสวนสาธารณะที่มีประวัติอันยาวนานตั้งแต่สมัยเริ่มการก่อตั้งสิงคโปร์ทั้งนี้เพื่อให้คนสิงคโปร์ได้เข้ามาพักผ่อนหย่อนใจ โดยจุดที่เป็นแลนด์มาร์คของที่นี่ที่ได้รับความนิยมในหมู่คนชอบ ถ่ายภาพ และ Instagramer ทั้งหลายคือ ก็คืออุโมงค์บันไดวน ไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนจะพลาดที่จะมาต่อคิวถ่ายรูปที่ Fort Canning ใช่!!! เราไม่ได้พูดผิดต้องต่อคิวถ่ายจริงๆ มุมเสยในตำนานมีคนมาจองคิวถ่ายรูปตั้งแต่เช้าตรู่ มัน Pop ขนาดไหนก็ลองดูรีวิวต่างๆที่ชวนมาเที่ยวสิงคโปร์ และยิ่งกว่านั้นดูรูปที่ติดแทค Fort Canning ได้เลย มันเยอะเหลือเกินพี่จ๋า มุมบังคับที่ต้องอวดลง IG ก็คงต้องมุมนี้เลยจ้า
พิกัด : https://goo.gl/maps/PkbrTD8b7yzLNUQCA
การเดินทาง : เดินทางด้วย MRT สะดวกที่สุด ปลายทางที่ Dhoby Ghaut Station
มุมสวยๆที่ Fort Canning ไม่ได้มีแค่บันไดวนในอุโมงค์เท่านั้นนะที่แห่งนี้มีจุดถ่ายภาพเยอะมาก ถ้าให้เราแนะนำมุมสวยๆ คือนั่งบนขอบปูนทางออกของอุโมงค์นั่นแหละ ช่วงเวลาที่ควรถ่ายก็ต้องไปสายๆหน่อยก็ยังได้แสงจะได้ไม่จ้ามาก หรือถ้ามีเวลาลองเดินเล่นๆไปรอบๆก็โอเคนะ นี่ๆเรามีเรื่องเล่ามาบอกเพิ่มเติม แต่เดิม สวนสาธารณะแห่งนี้มีชื่อว่าบูกิต ลารางกาน (Bukit Larangan) หรือ ‘เนินเขาต้องห้าม’ ในภาษามาเลย์ และขึ้นชื่อว่าที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์สิงคโปร์เลยทีเดียว
007 Library @Orchad : Indoor shot
สิงคโปร์ เมืองเล็กๆ ที่มีอะไรใหม่ๆ ให้เราค้นหาได้ตลอดเวลาจริงๆ Library @Orchard ก็เป็นอีกหนึ่งที่เราที่เราต้องมาเก็บ และถือเป็น Instagramable Places ของสิงคโปร์อีกเช่นกัน แต่ที่อยากมาที่นี่จริงๆคือ “ถ่ายรูปสวย” เป็นห้องสมุดที่เป็นมิตรต่อวัยรุ่นที่นี่เป็นห้องสมุดที่โคตรเท่ จัดวางหนังสือได้อย่างสวยงาม และสำคัญที่สุดคือเป็นมิตรต่อคนชอบถ่ายภาพ ชาวสิงคโปร์เองก็ดูท่าทางชินกับคนที่พกกล้องเข้ามาถ่ายรูปแล้วด้วย บอกเลยว่าเป็นอีกสถานที่ที่เราแนะนำ ห้องสมุดนี้อยู่ในห้าง Orchard Gateway ชั้น 3-4 เข้าฟรี แบบไม่มีกั๊ก
พิกัด : https://goo.gl/maps/B3Y2o2EayMzpdr8u5
การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน สถานี Somerset เดินขึ้นมาจากสถานีได้เลยค่ะ (ขึ้นมาที่ Somerset 313)
Library at Orchard Road นอกจากเป็นรังของหนอนหนังสือ และยังเป็น hidden Gems สำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย ถ้าเราไม่ตามแทคต่างๆใน IG เราคงไม่คิดจะมาถ่ายรูปในห้องสมุดแน่นอน และที่สำคัญคือถ่ายรูปสวย แสงดีมากส่วน Posture เท่ๆ หลากหลายมากจริงๆ จะปีนบันไดก็เท่ จะเดินเล่นระหว่างชั้นหนังสือก็ได้ หรือถ่ายจากมุมสูงก็ฮิปดีเหมือนกัน ที่นี่ต้องมาให้ได้นะไม่ผิดหวังแน่นอนจ้า
ไปเที่ยวมาเหงื่อไหล ไคลย้อยแล้วที่นี่เราไม่ง้อลมฟ้า อากาศ หนีเข้ามาในห้างกันบ้าง ห้องสมุดแห่งนี้เป็นแหล่งรวมหนังสือด้านศิลปะ การออกแบบ และไลฟ์สไตล์กว่า 100,000 เล่ม แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีความขยันอย่างเรา ต้องเข้าอ่าน Text Book แน่ๆ ซึ่งไม่ใช่!!! วันนี้เรามาห้องสมุดที่นี่ไม่ได้มาอ่านหนังสือแต่ตาม หา Indoor Best IG shot แสงสวย Layout ได้ อ่ะแชะซักหน่อย
008 Gardens by the bay : มาที่เดียวเก็บ Top IG Spot ได้ถึง 3 ที่
Gardens by the Bay สวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่มหึมาอภิมหาอลังการ ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยน้ำมือมนุษย์ทั้งหมด ถมที่ดินจากทะเลกว่า 600 ไร่ อลังการไปจนถึงการออกแบบโครงสร้างของสวน สะดุดตาที่สุด คือ Supertree Grove ต้นไม้จำลองขนาดใหญ่ทั้งหมด 18 ต้น (อย่างที่เห็นในภาพ) ที่เรียงตัวกันอย่างอลังการสุดๆ ส่วนเจ้าสะพานทางเดินสีเหลืองเนี่ย คือ OBDC Skyway ที่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวสวยๆบนทางเดินลอยฟ้าที่เชื่อมต้นไม้จำลองเข้าด้วยกัน และพอตกดึก ต้นไม้เหล่านี้ก็จะมีการจัดแสดงแสงสีเสียงที่สวยงาม ไม่พูดเยอะที่นี่ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย เลยขอถ่ายเป็นภาพบรรยากาศรอบข้างมาฝากก็แล้วกัน
Flower Dome เวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน 9.00 – 21.00 น. ที่ข้างในทำเป็นป่าฝนเขตร้อน ข้างในทำเป็นเหมือนเขาขึ้นมาและปกคลุมไปด้วยพันธุ์ไม้ต่างๆมากมาย แถมยังมีน้ำตกตกลงมาจากข้างบนด้วย สิงคโปร์นี่ทำอะไรไม่เคยให้น้อยหน้าใครจริงๆ
ที่บอกไว้ว่ามา Gardens by the bay เหมือนได้มาเที่ยวสถานที่สวยๆอีก 3 ที่ ก็นั่นแหละฮะ มาถ่ายรูปที่นี่แล้ว เดินไปถ่ายรูปกับ Singapore flyer และค่ำๆก็ไปดื่มน้ำบรรยากาศพระอาทิตย์ตกที่ Marina Barrage และอย่าพลาดห้ามลืมตั้งกล้องถ่ายย้อนมาทาง Super tree grove สีสันของแสงสียามค่ำสวยมากเหลือเกิน
ไหนๆเราก็ใช้เวลาที่นี่เยอะพอสมควรแล้ว สิ่งที่เราต้องไม่พลาดไปเก็บ highlight ช่วงค่ำของ Gardens by the bay คือการได้ชื่นชม การแสดง Garden Rhapsody Light and Sound Shows เป็นการแสดงสีสันย่ามค่ำคืนของสิงคโปร์ที่อลังการและสวยงามและเป็นอีกอารมณ์หนึ่งที่น่าประทับใจไม่แพ้การเดินชมสวนในเวลากลางวัน
009 Haji Lane : Colors of teenage
นี่เราก็พาไปนั่นไปนี่หลายที่แล้วนะ แต่ก็ยังไม่จบง่ายๆพาไปเดินเที่ยวถ่ายรูปอาร์ตๆกันที่ถนน Haji Lane หรือมีชื่อเรียกแบบท้องถิ่นว่า ตรอกฮัจญี เป็นถนนช้อปปิ้งสายสีสันสวยงาม ที่เต็มไปด้วยสินค้าแฟชั่นจากร้านค้าและแหล่งรวมของวัยรุ่นชาวสิงคโปร์ ถ้าแฟนคลับของแสตมป์ อภิวัชร์ ก็คงทราบว่ามีเพลงหนึ่งที่โด่งดังได้มาถ่ายทำ MV ในเพลง The Last Single /ซิงเกิล สุดท้าย ที่ฮาจิเลน
พิกัด : https://goo.gl/maps/CZpaciTYcbg4HpSM9
การเดินทาง : ดินทางมาได้ง่ายๆ ด้วยรถไฟฟ้า MRT สายสีเขียว/น้ำเงิน ลงสถานี Bugis exit B เดินผ่านหน้า โรงพยาบาล Raffle จากนั้นเดินข้ามแยกตามลูกศร ข้ามถนน North Bridge ไปฝั่งตรงข้าม ถนน Haji Lane จะอยู่ก่อนถึง Sultan Mosque นิดเดียว ฝั่งตรงข้ามเป็นร้าน Singapore Zam Zam
ความพิเศษของ Haji Lane มีชื่อเสียงโด่งดังจากภาพเพ้นสีสดใสของบรรดาร้านค้าต่างๆ ที่สร้างในแบบตึกแถวสไตล์โคโลเนียล 2 ชั้น ถ้ามองเผินๆจะไม่รู้เลยว่าเป็นสิงคโปร์เพราะ ภาพลักษณ์สิงคโปร์ส่วนใหญ่จะค่อนข้างมีความทันสมัย เรียบๆ ยิ่งใหญ่ แต่สำหรับที่นี่ให้ความรู้สึกถึงความอาร์ตแบบเต็มเปี่ยม นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินเที่ยวถ่ายภาพแนวอาร์ต ศิลป์ ติสๆ สตรีทๆ กันเยอะทีเดียวตั้งแต่เช้า
010 Old Hill Street Police Station : Shot beside the road
อย่าเพิ่งคิดว่าสิงคโปร์เมืองเล็กๆ เดี๋ยวก็คงเกี่ยวที่เที่ยวหมดแบบง่ายๆ เอาจริงๆ สิงคโปร์มากี่ครั้ง ยังไงก็เก็บไม่หมดหรอกถึงจะเป็นเกาะเล็กๆ แต่สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ที่เที่ยวเยอะมากเลยนะ อยากจะเก็บให้ครบก็ต้องหาแฟนเป็นคนสิงคโปร์จะได้มาบ่อยๆ แต่ถ้าไม่มีแฟนคนสิงคโปร์ก็ชวนแฟนคนไทยมาเที่ยวเก็บความหวาน โพสต์ลง IG ให้ชาวบ้านชาวช่องตาร้อนผ่าว โม้มาตั้งเยอะแค่จะบอกว่าอย่าลืมมามุมนี้นะ เดินข้ามถนนจากหน้าตึก Old hill street building มุ่งหน้าไปที่ Clarke quay มุมนี้จะได้เห็นมุมตึกได้ใกล้ที่สุด เนี่ยเราเอามุมนี้ลง IG ไว้เหมือนกัน 555 ไปหาตามแทคสถานที่ได้นะ ถ้าเห็นก็มาฟอลด้วย 55ขายของมาก
พิกัด : https://goo.gl/maps/BDyY4NamqnqLUYfh7
การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน หรือ รถบัส เป็นตัวเลือกระบบขนส่งที่อาจช่วยให้เดินทางไปจุดหมายปลายทางได้ สายรถต่อไปนี้มีเส้นทางที่ผ่านใกล้ๆ Old Hill Street Police Station – รถไฟใต้ดิน: NORTH EAST LINE; ลงที่สถานี Clarke Quay รถบัส: 166, 190, 197, 51.
เราก็ไม่แน่ใจว่าทำไมตึกทำบานหน้าต่างของตึกให้มีสีสันแบบนี้ แต่นั่นก็ไม่สำคัญอะไรเพียงแค่ตึกนี้สวยและมีมุมถ่ายภาพเด็ดๆ ก็เลยมาแนะนำให้ไปถ่ายกัน
พอเห็นตึกหลากหลายที่อยู่ตรงหน้า นอกจากสถานที่ที่เราบอกว่ามันสวยและเต็มไปด้วยสีสัน เราก็แอบเอาเทคนิคเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับการถ่ายภาพ มาฝากตามที่สังเกตได้จาก Instagramer ถ้าอยากปังอย่าพลาดเรื่องการแต่งตัวเลือกแต่งตัว Posture ที่ดึงดูดสายตา มีชัยไปกว่าครึ่งจริงๆ ตึกหลากสีแบบนี้ถ่ายตัดๆกับเสื้อผ้าไว้ยังไงก็สวย
011 Helix Bridge : Center of trip
ที่บอกว่าสะพาน Helix เป็นศูนย์กลางของทริปนี้ก็เพราะสะพานแห่งนี้เป็นสะพานเชื่อมสองฝั่งหลักๆคือฝั่งเมืองซึ่งเป็นฝั่งหลักกับฝั่ง Marina bay sands หากมองจากสะพานแห่งนี้จะเห็น Land mark หลายอย่างของสิงคโปร์ไม่ว่าจะเป็น Singapore Flyer, Marina Bay Sands, Art science museum, Merlion, Gardens by the bay รวมทั้งบรรดาตึกต่างๆที่เป็น Financial area ของสิงคโปร์ สะพานแห่งนี้ก็เลยกลายเป็น Linkage สำคัญของทริปเราก็ไม่พลาดที่จะถ่ายภาพกับที่นี่
พิกัด : https://goo.gl/maps/Nkf72x1uY1iDi6w37
การเดินทาง : Helix Bridge อยู่บริเวณอ่าวมาริน่า(Marina Bay)อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน 2 สถานีคือ สถานี Bayfront Station และ สถานี Promenade ซึ่งด้านหนึ่งจะติดกับ The float @ Marina Bay และอีกฝั่งจะเป็น Marina bay sands และ ArtScience Museum
Helix Bridge เป็นสะพานที่นอกจากจะมีสวยงามและแปลกตาไม่เหมือนที่อื่นๆแล้วยังมีความน่าสนใจตั้งแต่ Concept ของการออกแบบแล้ว คือมีการใช้เหล็กที่มีลักษณะเป็นท่อ 2 อันที่จะหมุนพันกันไปเรื่อยๆตามความยาวของสะพานที่เอาแนวคิดมากจากรูปแบบของ DNA ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้วยังช่วยเรื่องการออกแบบโครงสร้างสะพานด้วย สะพานมีความยาวทั้งหมด 280 เมตร ถ้าจะได้ Best Shot ก็คงต้องใช้ความอดทนพอสมควร เพราะเป็นสะพานที่ผู้คนใช้งานจริงๆ จะหาช่วงเวลาคนน้อยๆก็คงต้องมีความเฮงติดมือมาด้วย
ที่นี่ควรมาตอนไหน พูดยากมากเพราะจะเช้ากลางวัน หรือค่ำ ก็สวยงามตามเวลาของแสงนั้นๆ ไม่ว่าจะแสงธรรมชาติ ช่วงเย็นๆก็สวยดี (ถ้าฟ้าสวย) และในยามกลางคืนซึ่งที่สะพานแห่งนี้ จะถูกประดับประดาด้วยแสงสว่างไสว ของชุดของไฟ LED หลากสีสันอย่างสวยงาม และจะเห็นวิวในมุมกว้างที่เห็นตึกต่างๆรอบอ่าวมารีน่า เปิดไฟกันอย่างสวยงาม
ถ้าต้องการชื่นชมธรรมชาติเสพความเขียวย่านมารีน่าเบย์ ก็คงต้องไปที่ Gardens by the bay และบรรยากาศอีกด้านหนึ่งที่เราแนะนำก็คือวิวรอบอ่าวมารีน่านี่แหละ คูลจริงมาหลายสิบปีแล้ว ไล่เรียงมาจากสิงโตพ่นน้ำที่ถ่ายยังไงก็ติดหัวคน เรื่อยมาจนถึงมุม กว้างๆที่เห็นมารีน่าเบย์แบบ Over All
พิกัด : https://goo.gl/maps/Nkf72x1uY1iDi6w37
012 Marina Barrage : Shot for sunset
ถ้าอยากเห็นความ Lively ของคนสิงคโปร์ ต้องมาที่ Marina Barrage โดยเฉพาะวันหยุดชาวสิงคโปร์ จะมาปูเสื่อ ปิกนิก เรียกว่าจับจองพื้นที่กันแน่นขนัด แต่ถ้าจะไปถ่ายรูปช่วงเวลาหรือจะมาเดินเที่ยวคือช่วงเช้าหรือไม่ก็ช่วงเย็นของวัน เพราะเป็นช่วงที่แสงกำลังสวย ตามที่เราบอกไปแหละบ่ายเที่ยว Gardens by the bay เดินเลียบน้ำมาถ่ายรูปกับ Singapore flyer และจบวันที่การดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้ากันที่ Marina barrage
พิกัด : https://goo.gl/maps/wy8LdoBibEyXrtva7
การเดินทาง : อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน MRT Bayfront Station มากที่สุด โดยจะมีอยู่ 2 สายที่ผ่านคือ Circle Line สีเหลืองเข้ม และ Donwtown Line สีน้ำเงิน จากนั้นให้ออกที่ทางออก B แล้วเดินไปทาง Marina Barrage ซึ่งอยู่ด้านในสุดของถนนเลียบริมน้ำ
ตัวอาคาร Marina Barrage มีการออกแบบมาเป็นให้มีรูปทรงเกลียวสามารถเดินขึ้นลงได้ 2 ทาง รวมทั้งมีสะพานข้ามอ่าวที่เรียกว่า สะพานมาริน่า ซึ่งเป็นทางเดินอยู่บนประตูกั้นน้ำ เชื่อมต่อพื้นที่ระหว่าง Marina South ที่มีสวน Garden By the Bay กับ Marina East ที่มีสวนสาธารณะและสนามกอล์ฟ ถ้าถามว่า SHOT ไหนจะสวยสุดที่ Marina Barrage ก็พูดยากนะจะถ่ายย้อนแสงซีลูเอท จะถ่ายวิว ถ่าย Land Scape ก็ได้หมด และที่ตื่นตาตื่นใจที่สุดคือ คนสิงคโปร์มาเล่นว่าวกันที่นี่ ถ่ายว่าวลอยบนท้องฟ้าลงไอจีสตอรี่ก็เท่ดีนะ
แนะนำที่พัก และ การเดินทาง
ถ้าใครติดตามเราในเพจ หลายๆครั้งที่เราเดินทางเราชอบพัก Hostel จะมาเยอะมาน้อยถ้าเลือกได้ก็ชอบอยู่ Hostel ครั้งนี้เราก็เลือกทำแบบนั้นอีก สำหรับ The Hive Hostel เป็นที่พักที่มีห้องทุก Type ห้องเดี่ยว ห้องเตียงคู่ ห้องแบบ Dorm และตั้งอยู่บนโลเคชั่นที่ไม่วุ่นวายมากและในขณะเดียวกันก็เดินทางไปที่ต่างๆได้ไม่ไกลมาก ลองไปกดดูในเพจของ Hostel หรือจะไปจิ้มดูได้เว็บเอเจนซี่ต่างๆดู แต่ถ้าเพื่อนๆมีที่พักที่ตรงใจ ถูกใจ ก็ไม่ว่ากันเด้อ
พิกัด : https://goo.gl/maps/9q29wpjvxb2Mrvxc9
Facebook : https://web.facebook.com/thehivesg/
แนะนำการเดินทาง MRT + Grab
รถไฟฟ้า MRTเชื่อมทุกจุดท่องเที่ยวสำคัญในสิงคโปร์เอาไว้หมดแล้ว สามารถเดินทางได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ รายละเอียดของบัตรต่างๆหาได้ในเว็บไซต์ เพราะมันมีทั้งบัตร Ez Link บัตรเหมา 3 วัน 7 วัน ซึ่งทั้งหมดนี้จะขึ้นอยู่กับความต้องการของเพื่อนๆ แต่สำหรับทริปของเรา เราใช้บริการ MRT โดยใช้ตั๋วรายเที่ยวแบบธรรมดา ไมได้ซื้อบัตรอะไรพิเศษ เพราะอะไรรู้มั้ย??? เพราะเราคำนวณการเดินทางในสิงคโปร์แล้ว พบว่าสถานที่ที่เราจะไปไม่ได้ไกลกันมาก แต่ถ้าไกลจริงๆหรือเหนื่อยจริงๆเราจะใช้บริการ Grab เพราะหารๆกันแล้วมันถูกกว่าการใช้ MRT แน่นอน 100% ใช้ Grab ที่สิงคโปร์ไม่มีอะไรยุ่งยากแม้แต่นิดเดียว เพียงอัพเดทแอพที่หลายๆคนก็ติดอยู่ในเครื่องกันอยู่แล้ว เพียงแค่นี้ก็สามารถใช้บริการ Grab ได้แบบสบายๆแล้
ที่กินแนะนำ
อย่างที่บอกมาตลอดว่าทริปนี้เราตั้งใจไปถ่ายรูปเลย ใน Concept Instagramable Spot ก็เลยไม่ได้แทรกที่กินมาในโพสต์นี้ แต่ยังไงเอกลักษณ์ของรีวิวก็ต้องมี่แนะนำที่กินเด็ดๆอยู่แล้ว ครั้งนี้ก็เช่นกันเราไปร้านดีๆขึ้นชื่อของสิงคโปร์มาหลายที่ เช่น
Tian Tian Hainanese Chicken Rice at
Old Chang kee
Chye seng huat hardware
A noodle story
Yum Cha
*รายละเอียดและรูปภาพจะโพสต์ในเม้นท์
Summary Singapore
ในภาพรวมของทริปเราว่าเราชอบสิงคโปร์ เป็นอีกประเทศที่มีความหลากหลายและสนอง Need คนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย เสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวแทบจะทุกด้านไม่ว่าจะเป็นด้านวัฒนธรรม เพราะเป็นอีกชาติหนึ่งในอาซียนที่มีหลากหลายเชื้อชาติ ด้านเศรษฐกิจ เถียงไม่ได้เลยว่าเค้าเป็นเบอร์หนึ่ง หรือการท่องเที่ยวที่อัดแน่น สไตล์Less but more เมืองเล็กแต่ที่เที่ยวเยอะ ใครที่ชอบเที่ยวชมเมืองก็เดินเล่นได้สบายๆ หรือจะไปมันส์กับสวนสนุก สาวๆหลายคนไปสิงคโปร์เพราะอยากช้อปปิ้งฟินๆ สำหรับสาย Foodie ชอบกินอาหารอร่อยที่นี่มีทุกมุมเมือง จีน อินเดีย ตะวันตกครบ และสำหรับใครที่ชอบถ่ายภาพตามทริป Photo Map ของเราไปได้เลย แล้วไปตามล่า Instagramable Spot แบบเรา เอาหัวเป็นประกันว่าไม่มีที่ไไหนผิดหวัง และถ้ามีเวลาก็คงจะไปเที่ยวอีกหลายๆครั้ง เพราะถึงจะตามล่าแหล่งท่องเที่ยวยังไงก็คงไม่ครบทริปนี้ See you next time SINGAPORE!!!
ด้วยรัก
บันทึกคนขี้เที่ยว