บอกบุญชี้เป้าเส้นทางสู่สวรรค์ด้วยรสชาติความหฤหรรษ์ที่ปลายลิ้นกับร้าน Stylish Omakase Cafe ย่านอารีย์ที่แสนดีจนอยากจะชวนเพื่อนไปโดนอีกหลาย ๆ ครั้ง
เริ่มจากการตกแต่งร้านที่ทำให้เรารู้สึกถึงความสนุกและความสุขในการทานอีกทั้งยังมาพร้อมรสชาติแบบต้นตำรับญี่ปุ่นสุดเลอค่า งานนี้เชฟปั้นกันให้ชมสด ๆ พร้อมยกทัพวัตถุดิบพรีเมียมมาตั้งแต่ อันคิโมะ อูนิ โอโทโร่ เป่าฮื้อ ปลามาได และอีกมากมายในราคาที่เรียกว่าคุ้มเกินคุ้ม บอกเลยว่าตั้งแต่คำแรกจนจบคอร์สในคราวนี้ มีมิติและประทับใจสมกับคอนเซ็ป The Best Memories Are Made Around The Table จริง ๆ
อ้อ! ช่วงนี้ทางร้านทีโปรโมชั่นพิเศษ
1. บอกรัก “Hachi” ในเม้นนี้ พร้อมรีวิว บนเพจ Hashi Omakase แล้วโชว์ให้พนักงานดูก็รับของสมนาคุณไปเลย
2. รับส่วนลด 10% สำหรับลูกค้าที่โทรมาจอง 6 คนขึ้นไปอีกด้วย
และวันนี้เราได้ลอง Course 17 คำ ซึ่งจะมีอะไรมาอวดกันบ้างนั้น ตามเรามาดูได้เลย
ข้อมูลเพิ่มเติม
FB : Hachi Omakase
พิกัด : goo.gl/maps/BoQvgw2EDDhJZYzq7
อยู่ในโครงการ Aree Garden
เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์)
Tel : 0656425455
ร้านมีที่นั่ง 10 ที่ต่อรอบ ซึ่งต่อวันจะมี 2 รอบ
เวลา 11.00-14.00 น., 17.00-23.00 น.
และมี 2 Course ให้เลือก
2200 บาท 15 คำ
3300 บาท 17 คำ
ราคานี้ไม่มี Service charge
โปรโมชั่นพิเศษ รับส่วนลด 10% สำหรับลูกค้าที่โทรมาจอง 6 คนขึ้นไป
ทุกคำ ทุกเมนูล้วนพิถีพิถันมาอย่างดี
ด้วยการตกแต่งร้านสไตล์คันไซ กลายเป็นค่าเฟ่สุดชิคเอาใจวัยรุ่น ทำให้เรารู้สึกได้ถึงความทันสมัยของการนั่งทานโอมากาเสะ ถือเป็นการเริ่มต้นได้ดีการันตีว่าทั้งคอร์สของวันนี้จะต้องมีแต่ความว้าววววววว
รอบ ๆ บริเวณเป็นสวนหย่อมเล็ก ๆ ร่มรื่นสบายตา ทำให้ได้ความรู้สึกเหมือนว่ากำลังนั่งทานโอมากาเสะอยู่กลางสวน
เอาล่ะ ถึงเวลาของมื้อสุดพิเศษของเราแล้ว เชฟเดินเข้ามาตระเตรียมวัตถุดิบสักครู่แล้วก็เริ่มบรรเลงเมนูแรกของเราอย่างบรรจง
001 Ankimo Tosazu เปิดตัวด้วยเมนูแรกสุดอลังการกับ อันคิโมะคือหรือปลาอังโกะ เจ้าของฉายา “ฟัวกราส์แห่งท้องทะเล” ที่มาพร้อมซอสยูสุเจลลี่ ท้อปด้วยดอกชิโสะเพื่อชูกลิ่นซอสให้เด่นขึ้น การจัดจานสวยงามใส่มาในวาฟเฟิลรูปเปลือกหอย เวลาทานนำมาประกบและกัดทาน เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยที่ว้าวสุด ๆ รสชาติความหอมมันของตับปลาตัดกับเจลลี่ที่เปรี้ยวและมีกลิ่นยูสุให้ความลงตัวจนเผลอพูดออกมาว่า “อร่อยมาก”
เมนูต่อมาคือซาซิมิที่เราขอพูดเลยว่านี่คือ ซาซิมิที่อร่อยอันดับต้น ๆ ในดวงใจเราตอนนี้เลย
002 kinmedai Sashimi ปลากินเมไดสด ๆ นำเข้าจากฮอกไกโด หมักกับใบซากุระ 6 ชม. เพื่อเพิ่มกลิ่นเพิ่มรสชาติให้เนื้อปลา 1 คำมีปลา 2 ชิ้นทานคู่กับวาซาบิ 1 ชิ้น และยูสุโคโซะ ผิวส้มผสมพริกไทยอีก 1 ชิ้นเพื่อให้ได้รสชาติที่แตกต่าง เนื้อปลามีความหนึบนุ่มและช่วงนี้เนื้อปลาจะมีความมันเป็นพิเศษจึงให้รสชาติที่มีมิติมากยิ่งขึ้น ส่วนตัวเราชอบการทานกับยูสุโคโซะมากกว่าอาจจะเพราะเป็นรสชาติที่แปลกใหม่ไม่เคยทานที่ไหนมาก่อนก็ได้
คำต่อไป แค่เห็นวัตถุดิบเราก็ตาลุกวาวจนแทบจะอดใจรอไม่ไหว นั่นก็คือ น้องเป่าฮื้อตัวอวบอ้วนที่ส่งยิ้มยั่วยวนตรงหน้านั่นเอง
003 Ezo Awabi หอยเป่าฮื้อนำเข้าจากชิบะ ผ่านการนึ่งสาเกมา 3 ชม. ท้อปด้วยซอสคิโมะหรือซอสตับเป่าฮื้อ รสชาติทั้งหอมและมันเข้ากับเนื้อฮื้อหวานกรุบ เหนียวหนึบเคี้ยวสนุก เนื้อเด้งบนลิ้น สำหรับเรานั้น เรายกให้จานนี้เป็นเดอะเบสส์ของคอร์สเลย
ณ จุดนี้ เชฟต้องขอคั่นความตื่นเต้นด้วยการหยิบกาซุปมาเทลงในถ้วยคริสตัลใบน้อย ๆ พอให้ได้กลิ่นหอมโชยมาเรียกความสนใจจากเราไปที่เมนูต่อไป
004 Somen Zaru แค่รูปแบบการจัดจาน ภาชนะในการเสิร์ฟก็ชนะขาดไปแล้ว ยังไม่พอแค่นั้นเพราะนี่คือบะหมี่เย็นที่ใช้เส้นโซเมนจากแป้งข้าวสาลีเส้นน้อย ๆ เรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบมาลวกให้พอนุ่มและคงความเหนียวเล็ก ๆ คีบขึ้นมาให้พอชุ่มน้ำซุปโชยุที่มีความหอมนวลเค็มนำเปรี้ยวตาม รสชาติที่ตัดกับต้นหอมให้สัมผัสที่สนุกขึ้น
เคลียร์ต่อมรับรสด้วยโซเมนกันเรียบร้อยแล้ว เชฟก็ไปต่อกันที่การเปิดหม้อชาบูแล้วปรุงรสปลากันให้เห็นจะๆ ไปเลย
005 Madai Shabu ชาบูปลามาไดหรือปลากระพงแดงตาโตญี่ปุ่น ลวกในซุปกระดูกปลาร้อนๆ พร้อมกับกลิ่นกรุ่น ๆ พร้อมเสิร์ฟตรงหน้าเราแล้ว เมนูนี้แนะนำให้ยกน้ำซุปซดเพื่ออรรถรสไปเลย ทั้งเนื้อปลาและน้ำซุปมีความหวานหอมกลมกล่อมลงตัวมาก
ถึงเวลาต้องตาลุกวาวอีกรอบเมื่อเชฟหยิบวัตถุดิบพีค ๆ ขึ้นมาอวดเราตรงหน้า ก็แหมมมมม คนรักการกินแบบเรา จะไม่ว้าวก็คงไม่ได้แล้ว
ยังผ่านมาไม่ถึงครึ่งทาง เราจะยอมแพ้ไม่ได้ เพราะต่อไปจะเป็นซูชิคำเด็ดจัดมาแบบฮุครัว ๆ
006 Ika sushi + uni อิกะซูชิ ปลาหมึกที่ออนท็อปด้วยอูนิ รสชาติหวานๆ ของปลาหมึกและความมันจากไข่หอยเม่นดีงามมาก เนื้อปลาหมึกหวานด้วยความสดเด้ง ๆ นุ่ม ๆ ละมุนลิ้นเกินต้าน
007 Kuromatsu Sushi อีกหนึ่งเนื้อปลาที่หาทานยาก ถูกขนานนามว่าเป็นโอโทโร่ปลาเนื้อขาว ซึ่งช่วงนี้เนื้อปลาจะชุ่มน้ำมัน ทำให้มีไขมันแทรกสวยๆ รสชาตินุ่มหวานละมุนแบบที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าเนื้อปลาแบบนี้จะอร่อยพีคได้เบอร์นี้
008 Shima aji ชิมาอะจิ ปลาทูน่าหางแข็งได้รับการจัดอันดับว่านี่คือ 1 ใน 10
สุดยอดปลาญี่ปุ่นที่ต้องกินและมีราคาสูงในญี่ปุ่น เนื้อปลานุ่มและแน่นไม่มีกลิ่นคาว ก่อนเสิร์ฟ เชฟจะท้อปด้วยเนงิโชหงะคือต้นหอมกับขิงเพิ่มความแซ่บขึ้นไปอีก
009 Akamai sushi ฟินทูน่าสดเนื้อแดงฉ่ำ เนื้อสีเข้มสวยไร้ไขมัน เชฟปั้นข้าวแล้วเอาเนื้อปลาโปะหลังจากนั้นก็ขูดผิวส้มโปรยลงไปเล็กน้อย ส่งมาให้เราพร้อมทาน มีรสหวานของเนื้อปลาตัดกับกลิ่นผิวส้มให้รสสัมผัสที่แปลกใหม่
010 Chutoro sushi คำต่อไปคือชูโทโร่ เนื้อทูน่าส่วนที่อยู่ใกล้กับครีบของปลาทั้งด้านบนและท้องส่วนหลังมีไขมันแบบพอดี ๆ มีความนุ่มและแน่น หวานและเด้ง ละลายในปาก
011 Otoro sushi เนื้อปลาทูน่าส่วนท้องลายหินอ่อน เจ้าของฉายาราชาแห่งปลาดิบที่ลือเลื่องว่านี่คือส่วนที่อร่อยที่สุดในบรรดาเนื้อปลาทั้งปวง มาพร้อมข้าวปั้นได้รูปห่อมาด้วยสาหร่ายที่ย่างไฟอ่อน ๆ เมื่อเข้าปากได้รับความหวานชุ่มฉ่ำทั่วทั้งปาก ละมุนสุดๆ
ถ้าเชฟไม่ยอมแพ้ เราก็จะยังไม่ยอมหยุด ปั้นข้าวหยิบกุ้งแล้วส่งมาค่ะ
012 Boton Ebi Sushi กุ้งโบตานอีบิจากโอกายามะ ท้อปด้วยมันกุ้ง มีความนุ่มฟูในลิ้น ความรู้สึกแรกที่เข้าปากคือความสดของเนื้อกุ้ง ตามด้วยความหอมมันหวานของมันกุ้งและยังมีความเปรี้ยวเค็มของโชยุ ตบด้วยความแสบของวาซาบิ
มาถึงอีกหนึ่งเมนูของเจ้าอูนิหรือไข่หอยเม่นอีกแล้ว สารภาพเลยว่าเห็นสีเหลืองทองอร่ามในกล่องนั้นแล้วใจบางมาก อยากเหมากล่องกลับบ้านไปนอนกอด
013 Uni sushi สุดที่เลิฟในดวงใจใครหลาย ๆ คน รวมทั้งเราด้วย อย่างที่เราบอกไปแต่แรกว่าที่นี่ใช้อูนิบาฟุนสด ๆ เน้น ๆ แน่น ๆ สีเหลืองทอง เนื้อเกาะกันแน่น มาท้อปบนข้าวห่อสาหร่ายคำโต คำนี้คำเดียวอาจจะทำให้น้ำตาไหลพรากอยากเคี้ยวนาน ๆ ไปเลย
ต่อมาคืออีกหนึ่งจานที่ว้าวอีกแล้ว เมนูนี้เป็นเมนูที่เพื่อนเรายกให้เป็นที่หนึ่งของวันนี้ แค่หน้าตาและกลิ่นก็ชนะเลิศแล้ว
014 Beef kamameshi ข้าวอบเนื้อวากิวคามะเมชิ ที่มาแบบร้อน ๆ ในหม้อดิน ด้านล่างคือข้าวญี่ปุ่นพันธุ์ดีอบมันเนื้อและน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิลร้อน ๆ ท้อปด้วยเนื้อวากิวย่างถ่านความสุกระดับMedium Rare ตักข้าวพร้อมเนื้อและทุกอย่างเข้าปากพร้อมกันคือสวรรค์จริง ๆ มันมีความหอมของเตาถ่านบวกกับความมันของเนื้อมีกลิ่นไหม้หน่อย ๆ แถมด้วยเท็กเจ้อกรอบๆ ในปากด้วยมันเนื้อกรอบที่แอบซ่อนในข้าว เพียงแค่คำเดียวให้รสชาติและความรู้สึกได้หลากหลายมากจนอยากตักเข้าปากอีกหลาย ๆ คำ
015 Asari miso soup กินข้าวกันจนอิ่ม เชฟก็จัดซุปมิโสะหอยอาซาริหรือหอยลายร้อน ๆ มาให้ซดเพื่อความคล่องคอและล้างปากก่อนไปต่อที่ของหวาน ซุปใส ๆ แต่รสชาติอร่อย มีความหวานของหอยบวกกับต้นหอมและเครื่องปรุงเป็นกลิ่นหอมตามมาที่ปลายจมูกเมื่อซดด้วย
016 Tamago ขนมทามาโกะนากิ ไข่หวานสูตรต้นตำหรับจากนางาซากิ นุ่มฟูมากๆ
เนื้อสัมผัสเหมือนเค้ก แต่อีกใจหนึ่งก็กระซิบมาว่าเหมือนไข่ ซึ่งแอบไปรู้มาทีหลังว่าไม่ได้ใช้แป้งเลย ก็ยิ่งว้าวไปใหญ่ แล้วก็ยังคาใจว่ามันคือของคาวหรือของหวาน รับรองว่าได้ทานแล้วจะติดใจแบบเรา
017 Pudding ส่งท้ายบ๊ายบายคอร์สนี้ไปด้วยพุดดิ้งนมสดราดซอสชาเขียวตกแต่ง
ด้วยทองคำเปลว ที่เนื้อเด้ง นุ่มละมุน ละลายในปากเลย เป็นการปิดท้ายที่สวยงามครบสูตร
บอกได้เลยว่า ทุกเมนูของวันนี้ ดีงามมากจนอยากจะนั่งทานนานๆ สำหรับใครที่กำลังหาโอมากาเสะหรือคิดถึงอาหารญี่ปุ่น เราว่าที่นี่ควรจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ เลยแหละ เพราะมันคุ้มค่าจริง ๆ กับสิ่งที่เราได้ ตั้งแต่เดินเข้าร้านจนออกจากร้านไป การันตีความประทับใจไม่รู้ลืมแน่นอน และอย่าลืมด้วยว่าตอนนี้มีโปรโมชั่นพิเศษ เพียงแค่ บอกรัก Hachi ด้วยการเขียน Review บน Facebook : Hachi Omakase แล้วโชว์ให้พนักงานดู ก็รับของสมนาคุณจากทางร้านได้เลย และยังมีส่วนลด 10% เมื่อจองล่วงหน้า 6 คนขึ้นไปอีกด้วย
ด้วยรัก
บันทึกคนขี้เที่ยว