เตือนแล้วนะว่าถ้าไม่อยากตกหลุมรักแบบหัวปักหัวปำก็รีบหนีไปปปป
เพราะไม่ว่าใคร ๆ ก็ต่างเผลอใจให้จอร์เจียกันทั้งนั้น นี่คือประเทศมหัศจรรย์ งดงามอลังการทุกวันทุกฤดู ทั้งตั๋วบินถูก สถาปัตยกรรมสวย ค่าครองชีพเท่าไทย ธรรมชาติจับใจ จะไปช่วงไหนก็ปังก็ดี
วันนี้เราเลยขอยก ‘20 เหตุผลที่ต้องเที่ยวจอร์เจียสักครั้งในชีวิต’ มาเสริมการตัดสินใจสำหรับใครที่กำลังมองหาทริปใช้วันลา ทริปพักใจ ทริปไปท่องโลกในรอบ 2 ปี ยิ่งตอนนี้จอร์เจียเค้าเปิดประเทศให้เที่ยวแล้ว บินไปได้แบบสบาย ๆ เพียงเตรียมเอกสารให้พร้อม
ซึ่งสามารถไปเช็คมาตรการสนามบินไปประเทศต่าง ๆ ก่อนเดินทางได้ที่ www.traveloka.com/th-th/flight/safe-travel การไปจอร์เจียนั้นง่ายแสนง่าย ยิ่งช่วงนี้ Traveloka ชวน #TravelGlobal ออกไปท่องโลกกว้างอย่างที่ใจต้องการเพียงแค่ใช้แอพเดียวก็ได้ครบทุกบริการ
รอช้าทำไมกดจองตั๋วให้ไว ที่ www.traveloka.com/th-th/flight-to-georgia
001. ฟรีวีซ่าสำหรับคนไทย 365 วัน
จอร์เจียเป็นประเทศในทวีปเอเชียที่คนไทยสามารถฟรีวีซ่าได้ถึง 365 วัน ค่าตั๋วเครื่องบินจากไทยไปจอร์เจีย โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 17,000 -25,000 บาท/คน เอาจริง เราเคยเจอโปรหลุดมาไปกลับแค่ 14,000 บาทด้วยล่ะเว้ย เวลาหาตั๋วก็เลือกจากไทยบินไปลงที่ท่าอากาศยานทบลิซี (Tbilisi International Airport) ตอนนี้ยังไม่มีบินตรงต้องไป transit เครื่องเอาแต่ไม่ยากเลย
002. ค่าครองชีพพอๆ กับที่ไทย
จอร์เจียใช้สกุลเงินลารี โดย 1 ลารี จะมีค่าประมาณ 11-13 บาท เราต้องเตรียม USD หรือ EUR มาแลกเงินที่นี่นะ ส่วนอาหาร เครื่องดื่มถูกจนเป็นนึกว่าอยู่ไทย กินข้าวมื้อละประมาณ 60-100 บาท แถมเบียร์และไวน์ถูกอย่างกับน้ำเปล่า! เบียร์ขวดใหญ่ 2.5 ลิตร ราคาแค่ 70 บาทเท่านั้น อาหารจากปกติก็ราคา 40-100 บาท เรียกได้ว่าประมาณไทยเลย
003. จอร์เจียเที่ยวได้ทุกฤดู
ไม่ว่าจะฤดูไหนก็สวยจับใจทุกช่วง สามารถเลือกไปพบเจอประสบการณ์ดีงามที่นี่ได้ตามความชอบเลย
– อยากเจอหิมะ ช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ อุณหภูมิประมาณ -5 ถึง 10 องศาเซลเซียส หิมะหนา ๆ สกีมัน ๆ ไปเลย
– อยากเจอซากุระ บลอสซั่มนานาพันธุ์ ฤดูใบไม้ผลิช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคมอุณหภูมิประมาณ 10-25 องศาเซลเซียส เย็นสบายๆใส่เสื้อคลุมนิดหน่อยได้ชิวๆเลยนะ
– อยากเจอป่าเขียวๆ ดอกไม้ป่าบานสะพรั่งต้นซัมเมอร์ช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม อุณหภูมิจะประมาณ 16-30 องศาเซลเซียส
– อยากเจอใบไม้เปลี่ยนสีฤดูใบไม้ร่วง ช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน อุณหภูมิประมาณ 5-20 องศาเซลเซียส
004. สถาปัตยกรรมของประเทศนี้ อลังการและสวยงามทุกที่
ด้วยความเป็นเมืองเก่าแก่ อารยธรรมที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน อีกทั้งจอร์เจียเป็นดินแดนของคริสต์นิการออโธดอกซ์ จึงทำให้สถาปัตยกรรม โบราณสถาน โบสถ์และศาสนพิธีต่างๆ อลังการงานสร้าง สวยงามจนแทบจะไม่อยากละสายตา
เอาล่ะ ก่อนจะไปพบกับข้อต่อไป เรามาเช็ควิธีการไปจอร์เจียในช่วงนี้กันสักหน่อย ซึ่งบางคนอาจจะยังไม่ทราบว่าตอนนี้บางประเทศเปิดรับนักท่องเที่ยวแล้วนะ โดยสามารถเช็คมาตรการสนามบินไปต่างประเทศกันได้ที่ https://www.traveloka.com/th-th/flight/safe-travel
อ่ะๆ ก่อนจะตัดสินใจไปลองดูราคาตั๋วใน Traveloka ก่อนได้ เพราะ #TravelGlobal จาก Traveloka เค้าสนับสนุนให้คนขี้เที่ยวได้ออกไปต่างแดน จึงได้คัดสรรตั๋วบินต่างประเทศราคาดีมาให้เรา ทั้งง่าย สะดวก รวดเร็ว มีสายการบินให้เลือกมากมาย การจ่ายเงินที่หลากหลายและมีฟีเจอร์ให้เลือกเยอะ เรียกว่าครบจบในแอพเดียว แต่ขอบอกเลยว่าถ้าเจอราคาที่ถูกใจให้รีบกดจองเลยนะ พลาดไปจะเสียดายนะแกรรรร
จองตั๋วเครื่องบินไปจอร์เจีย กับTraveloka ได้ที่
https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-georgia
005. น้องสัตว์ที่เจอที่จอร์เจียเชื่องมาก
ทั้งน้องหมา น้องลา และน้องอื่น ๆ ที่นี่เต็มไปหมด สามารถเข้ามาทักทายเราได้ตลอดเวลา ซึ่งบอกเลยว่าน้อง ๆ ทั้งหลายน่ารักและเฟรนลี่สุด ๆ ได้ยินมาว่าที่นี่เค้าทรีตน้องหมาจรดีมากด้วยนะ ตามเมืองหลวงจะมีที่ให้อาหารหมาจรที่เป็นของรัฐเลยด้วย ไม่แปลกใจที่น้องหมาที่นี่จะอวบอ้วนน่าเอ็นดูทุกตัว
006. ค่าโรงแรมหารกันถูกมากกกกก
บางคืนในจอร์เจียเราหารค่าโรงแรมกับเพื่อนตกคนละ 200-300 บาทต่อคืนเอง ถูกและดีมีอยู่จริง เตียงนุ่ม ผ้าห่มอุ่น นอนสบาย หรือถ้าเป็นที่พักวิวดี ๆ ดัง ๆ สักหน่อยก็หลักพันเท่านั้นเอง
007. จอร์เจียคือหนึ่งในประเทศที่มีภาษาเก่าแก่ที่สุดในโลก
ภาษาจอร์เจียเป็นภาษาหลักที่คนจอร์เจียใช้สื่อสารกันและถือเป็นภาษาเก่าแก่ที่สุดในโลกอีกภาษาหนึ่งเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้อีกภาษาที่จอร์เจียใช้สื่อสารก็คือ ภาษารัสเซีย สำหรับต่างเมืองอาจจะสื่อสารภาษาอังกฤษกับชาวบ้านยากหน่อย แต่สถานที่ท่องเที่ยวจะมีป้ายภาษาอังกฤษแสดงไว้อย่างชัดเจน เที่ยวไม่ยากแน่นอน
008. ทุกที่ในประเทศนี้สามารถเทรคกิ้งได้หมด
ใครที่บ้าเทรคกิ้งมาเจอได้ ทุกที่ในประเทศนี้สามารถเดินได้หมด ใครบ้าเดินป่าก็เดินได้เลย ภูเขาทุกลูกพร้อมรับ สำหรับเส้นทางเดินป่าฮิต ๆ ของที่นี่ก็จะมีทั้งเส้นสั้น เส้นยาว หนักมาก สบายหน่อย มีทุกรูปแบบ เรายกตัวอย่างสัก 2 เส้นทางมาให้ลองอ่านแล้วกัน เช่น
– Tobavarchkhili lake
เส้นนี้เราเคยไปพิชิตมาแล้ว บอกเลยว่าสวยพีค สวยจัด สวยจนบรรยาออกมาไม่ได้ สำหรับสายธรรมชาติคิดว่าต้องน้ำตาไหลแน่ ๆ แต่มันหนักมาก เดินแบบจริงจัง 6 วัน 5 คืน เพื่อไปยังเห็นทะเลสาบที่เป็นดั่งอัญมณีแห่งเทือกเขาคอเคซัส เส้นนี้ต้องเป็นสายลุยและถึกสักหน่อยนะ ถึงจะนะนำ
– Mestia to Ushguli
เส้นนี้เป็นเส้นทางเดินป่าที่ฮอตที่สุดของจอร์เจียเลย เป็นการเดินทางผ่านหมู่บ้านเลียบเทือกเขา ลัดเลาะหุบเขาและธรรมชาติต่าง ๆ ที่สูงมากกว่า 5000 เมตร นอกจากจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงามของดอกไม้และทุ่งหญ้าแล้วยังได้เห็นวิถีชีวิตชนบทของชุมชนที่อยู่สูงที่สุดในยุโรปอีกด้วย
009. สามารถไปเที่ยวประเทศใกล้เคียงได้ง่ายมาก
ถ้ามีเวลาว่างมากพอ เราขอแนะนำให้เก็บประเทศอื่น ๆ รอบ ๆ จอร์เจียไปด้วยเลย เพราะเดินทางง่ายและฟรีวีซ่าสำหรับคนไทยเช่นกันไม่ว่าจะเป็นประเทศตุรกี (Turkey) ประเทศอาร์เมเนีย (Armenia) และประเทศอาเซอร์ไบจาน (Azerbaijan) หรือจะข้ามไปเที่ยวรัสเซีย (Russia)ก็ได้ แต่แนะนำว่าให้ลองแพลนการเดินทางมาให้ดี ๆ และจองตั๋วให้ครบเสร็จก่อนเดินทางจะดีที่สุด
010. ถ้ามีแฟนก็ควรมากับแฟนสักครั้ง มันโรแมนติกมากกกกกกกกก
ถ้าหากสวิสเซอร์แลนด์ยังแพงไปสำหรับางคู่ จอร์เจียอาจจะตอบโจทย์ เพราะเค้าว่ากันว่า ในบางที่มันมีส่วนคล้ายสวิสฯ อยู่นะ อันนี้เป็นเรื่องของฟีลลิ่งส่วนตัวล้วน ๆ เลยคือ อยากให้ชวนแฟนมาเที่ยวจอร์เจียกันสักครั้ง เพราะมันทั้งสวย หนาวและโรแมนติก อีกอย่างคือมันสามารถได้ความคุ้มค่านี้ในงบที่ไม่แพงด้วย
011. Paragliding (โดดร่ม) สักครั้งก่อนสังขารจะร่วงโรย
แนะนำให้ลองมาเล่นParagliding (โดดร่ม) ลงเหวดูวิวคอเคซัสสักครั้งในชีวิต ซึ่งสถานที่ที่เราแนะนำเลยคือบริเวณ Russian Georgian Friendship Monument หรือ Gudauri View Point ที่เมือง Gudauri ซึ่งถ้าเป็นช่วงฤดูอื่น ๆ ที่ไม่มีหิมะ ก็จะได้วิวภูเขาและทุ่งหญ้าสีเขียว และคนน้อยกว่าช่วงหน้ากิมะ เพราะเมืองนี้เป็นเมืองสกีที่โด่งดังของจอร์เจียด้วย
012. นี่คือประเทศตามแนวเทือกเขาคอเคซัสที่สวยและสูงที่สุดในโลก
ตอนเพื่อนชวนเรามาเที่ยวจอร์เจีย เพื่อนบอกเ้วยคำสั้น ๆ ว่า มึง เราจะได้ไปเห็นวิวคอเคซัสที่ราคาถูกและสวยที่สุดในโลกกันนะ ดังนั้นแลนมาร์คห้ามพลาดเลยคือ ‘เทือกเขาคอเคซัส’ เป็นเทือกเขาสูงขนาดใหญ่ ที่ทำหน้าที่แบ่งพรมแดนระหว่างทวีปเอเชียและยุโรปนั่นเอง
013. ผักผลไม้ กรอบ หวาน ฉ่ำและถูกมาก
อาหารของประเทศจอร์เจียส่วนใหญ่จะเน้นที่แป้ง, ชีส, แตงกวา และมะเขือเทศ รสชาติของอาหารจะติดเค็มสักหน่อย ตามนอกมืองยังพอมีเนื้อสัตว์ให้สั่งบ้างแต่น้อย แต่ใด ๆ คือแตงกวา มะเขือเทศ แตงโม แคนตาลูปฉ่ำหวานและอร่อยมากกกกกก ยิ่งผลไม้ตระกูลเบอรี่ พีช พลัม องุ่น ถูกมากจนอยากจะซื้อไปปาเล่น เราซื้อเชอรี่ได้ในกิโลกรัมละ 30-50 บาทเองงงง
014. มีหลายเมืองให้เลือกเที่ยว แต่ละเมืองก็สวยราวกับอยู่ในเทพนิยาย
ประเทศจอร์เจียเรียกได้ว่าครบเครื่องเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งศิลปะวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ ภูเขา ทะเล วิถีชีวิต ถ่ายรูปชิค ๆ ก็มีให้พร้อม จึงไม่แปลกที่บางคนมาจอร์เจียซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะที่เที่ยวเค้ามีเยอะมากจริง ๆ
015. ไม่ว่าจะฤดูไหน บางเมืองของจอร์เจียก็เย็นสบายทั้งปี
สำหรับคนไทยที่เจอกับอุณหภูมิร้อนถึงร้อนมากของบ้านเรานั้น ฤดูร้อนของจอร์เจียยังเป็นอากาศที่กำลังเย็นสบายของเราเลย
016. เที่ยวในเมืองหลวงเดินทางง่ายและสนุก
เมืองหลวงของจอร์เจีย คือเมือง Tbilisiเ เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 1,500 ปี เป็นเมืองที่มีความสวยงามมาก มีตึกรามบ้านช่องที่เป็นสถาปัตยกรรมเก่าๆ ให้เราดูและถ่ายรูปเต็มไปหมด นอกจากนี้ยังมีโรงละคร ร้านอาหาร จุดชมวิวที่น่าสนใจมาก ๆ อ้อๆ ตลาดของมือสอง ของแบกับดินของที่นี่สุดคลาสสิกเลย อยากให้ลองไปเดินเล่นกันมาก ๆ แล้วที่สำคัญเดินทางด้วย Metro ตลอดสายไม่ถึง 10 บาท หรือใช้ app bolt (เหมือน grab บ้านเรา) เริ่มต้นที่ 14 บาทเอง
017. คนที่นี่เริ่มต้นวันใหม่กันสายๆ
เวลาที่ประเทศจอร์เจียจะช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง สมมุติไทยเที่ยง ที่จอร์เจียก็ 9 โมงเช้าแถมพระอาทิตย์ของที่นี่ตกช้าราวๆ 3 ทุ่ม จึงทำให้คนจอร์เจียเริ่มต้นวันใหม่กันค่อนข้างช้า 10-11 โมงจะเป็นเวลาตื่น แล้วค่อยทำกิจกรรมอื่น ๆ กันต่อ สโลวไลฟ์กันได้ชิล ๆ เลย
018. ไวน์ที่จอร์เจียอร่อยและถูกมากกกกกกก
สำหรับเรา รสชาติของไวน์จอร์เจียมันหอม นุ่ม หวานแบบหาที่ไหนเหมือนไม่ได้เลยนะ แล้วซื้อไวน์ที่จอร์เจียขวดละ 150-250 บาทเท่านั้นเอง อาจจะเป็นเพราะว่าจอร์เจียนี่เป็นหนึ่งในชาติที่ผลิตไวน์เก่าแก่และมีหลักฐานการทำไวน์ที่เก่าแก่กว่า 8,000 ปี อาจจะพูดได้เลยว่า ที่นี่คืแแหล่งผลิตไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกหรือ เป็น ‘The birth place of wine’ หรือ ‘The Cradle of Wine Making’ ไปเลย
019. ผู้คนยิ้มแย้มและอัธยาศัยดีมาก
คนจอร์เจียส่วนใหญ่จะตัวใหญ่ หน้าดุ และเสียงดัง จึงทำให้บางคนกลัวและคิดว่าเค้าดุ แต่จริง ๆ แล้ว ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศจอร์เจียยิ้มแย้มและมีอัธยาศัยดีมาก และด้วยความที่ประเทศนี้มีประชากรประมาณ 4-5 ล้านคน ดังนั้นการดำเนินชีวิตประจำวันของเค้าจึงค่อนข้างชิล ๆ ไม่เร่งรีบ เค้าจึงมีความชิลติดมาใช้กับนักท่องเที่ยวด้วย และในจอร์เจียมีคนไทยอาศัยอยู่ค่อนข้างเยอะ สามารถไปหาคนไทยในจอร์เจีย แวะไปทานอาหารไทย ร้านนวดไทย แวะไปทักทายทุกคนได้ คนไทยที่จอร์เจียยินดีต้อนรับสุด ๆ
020. หน้าหิมะต้องมาสกีให้ได้
สุดท้าย อาจจะเข้าไม่ถึงคนไทยเท่าไหร่ เพราะบ้านเราไม่มีหิมะเลยทำให้ไม่ถนัดกีฬาสกีและสโนวบอร์ดเท่าไหร่เนอะ แต่บอกเลยว่าการมาสกีที่นี่ตอนหน้าหิมะคือสิ่งที่ต้องทำเพราะที่นี่มีภูเขาให้สกีได้แบบยาวๆ และมีสกีรีสอร์ทหลายเมืองมาก เช่น Mestia ได้ความฟินแบบราคาถูกและสนุกมากแน่นอน
เท่าที่เราบอกมา ยังหาเหตุผลที่ควรมาจอร์เจียได้ไม่ครบหรอก เราว่าสิ่งที่จะให้เหตุผลได้ดีที่สุดคือการออกไปเจอด้วยตัวเองมากกว่า ตอนนี้จอร์เจียเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศแล้วนะ ช่วงนี้กำลังเป็นหน้าหิมะที่เริ่มละลาย กลางปีไปจะเป็นสีเขียวพร้อมพรั่งไปด้วยดอกไม้สีสันต่าง ๆ และเริ่มมีสีส้มตอนใบไม้ร่วง ความสวยงามแตกต่างกันออกไปตลอดทั้งปี แล้วจะไม่มีสักครั้งเหรอที่พวกแกคิดจะอยากไปเยือนประเทศนี้ กดดูตั๋วให้ไว รีบไปตั้งแต่ยังมีแรง รีบไปตั้งแต่ตอนนี้ แล้วจะได้ประสบการณ์และความประทับใจดี ๆ กลับมาแน่นอน
ด้วยรัก
บันทึกคนขี้เที่ยว