ถึงเวลาพักผ่อน Staycatoin ในบางกอก แบบกินหรู อยู่สวีทที่ อมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ รับรองเลยว่างานนี้จะเต็มอิ่มทั้งกายทั้งใจ ยาวไปจนถึงอิ่มท้อง เพราะทริปนี้เรามาพร้อมแพ็กเกจ Staylicious ราคาดี นอนสบายห้องใหญ่สุด ทรีตเราประดุจเจ้าหญิงด้วยสปาร์คกลิ้งขวดโต ๆ ไว้จิบพร้อมดินเนอร์หรูและอาหารเช้ามื้อใหญ่เสิร์ฟถึงเตียง พิเศษไปกว่านั้นสำหรับคนชิลคือเค้าให้เช็คอิน 8 โมงเช้า เช็คเอาท์ 2 ทุ่มสุดคุ้ม 36 ชั่วโมงจัดเต็ม ส่วนในเรื่องของความสะอาดและปลอดภัยก็มั่นใจกับออนิกซ์ คลีน” (ONYX Clean) มาตรฐานการทำความสะอาดระดับโลก มีทั้งความหรูหรา คุ้มค่า อิ่มอร่อย สะดวกสบายระดับห้าดาวขนาดนี้ ถามจริง ถ้าไม่พักวันนี้แล้วจะพักวันไหน เตือนแล้วนะ ถ้าไม่รีบไป ระวังจะฟินไม่ทันใครเค้าน้า
ข้อมูลเพิ่มเติม
FB : Amari Watergate Bangkok
Tel : 02-653-9000
พิกัด : g.page/Amari-Watergate?share
สำหรับแพ็กเกจที่เราเลือกในคราวนี้ คือ แพ็กเกจกินหรู อยู่สวีท หรือ Staylicious
นอกจากจะได้พักสบายในห้องสวีทสุดหรูและใหญ่ที่สุดของโรงแรมแล้วยังได้ฟินกับประสบการณ์อิ่มอร่อยกับมื้ออาหารสุดพิเศษ
นั่นก็คือมื้อค่ำแบบ 3 คอร์ส สำหรับ 2 ท่าน เสิร์ฟพร้อมเครื่องดื่มซอฟต์ดริงก์และสปาร์คกลิ้งไวน์ 2 แก้วแบบเป็นส่วนตั๊วส่วนตัวในห้องพัก แถมด้วยการเติมความสดใสให้เช้าวันใหม่ด้วยอาหารเช้าที่ปรุงสดพร้อมเสิร์ฟตรงถึงเตียงนอน
ในราคาเริ่มต้นเพียง 3,500 บาท++ ( 4,120 บาทสุทธิ) สำหรับ 2 ท่าน
***พักมากกว่า 2 ท่าน เพิ่มท่านละ 900 บาท++ สำหรับผู้ใหญ่ / เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าพักและทานอาหารฟรี
นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษ พักเต็มอิ่ม 36 ชั่วโมง สามารถเช็คอินเข้าพักได้ตั้งแต่เวลา 8:00 น. และเลทเช็คเอาท์ไม่เกิน 20.00 น. พร้อมรับฟรี กาแฟหอมกรุ่นจากห้องอาหารคาสเคดได้ทุกเช้าตลอดการเข้าพักในห้องสวีทของคุณ รวมถึงบริการที่จอดรถฟรี ตลอดการเข้าพัก
จองแพ็กเกจสุดคุ้มและเข้าพักได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2564
ที่เว็บไซต์ Amari Watergate Bangkok https://bit.ly/3e4thqL
หรือซื้อเวาเชอร์ก่อน เข้าพักทีหลังได้ที่ https://bit.ly/3AouJxb
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร: 02-653-9000
อีเมล์: reservations.watergate@amari.com
ไลน์: https://lin.ee/lBHz2rL
เรืองของอาหารการกินต้องบอกเลยว่าคุ้มค่าสมคอนเซ็ปต์ Staylicious แน่นอน
สำหรับ Amari Watergate Bangkok แห่งนี้ ได้รับการออกแบบให้ความอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน มีสระว่ายน้ำ มีสวนหย่อม ให้นั่งรับลมชมวิว ทุกพื้นที่ใช้ไฟวอร์มไลท์ให้แสงที่เหมาะกับการพักผ่อน และยังเน้นเอกลักษณ์เดิมที่มีกลิ่นอายความเป็นไทยสไตล์อมารีมามิกซ์กับความสดใสทันสมัยวัยรุ่นมากขึ้น
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ขาดเสียไม่ได้คือ Afternoon Tea Set สุดอลังการในธีม 𝐋𝐮𝐱𝐮𝐫𝐲 𝐓𝐫𝐚𝐯𝐞𝐥𝐥𝐞𝐫 𝐇𝐢𝐠𝐡 𝐓𝐞𝐚 ที่ขอเอาใจสายเที่ยวทิพย์ไว้ถ่ายรูปชิค ๆ กับเซ็ตกระเป๋าเดินทางที่เปิดออกมาเป็นเมนูอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากประเทศต่าง ๆ นับสิบเมนู
ล็อบบี้ของที่นี่กว้างขวางโอ่อ่ามาก ๆ เพราะช่วงสถานการณ์ปกตินั้นจะต้องรับแขกนับร้อยต่อวัน ช่วงนี้คนน้อยหน่อย เลยทำให้เราเห็นความกว้างขวางและความใส่ใจรายละเอียดตั้งแต่ทางเข้าได้ชัดเจนมากขึ้น ที่นี่มีห้องพักถึง 564 ห้อง โดยพื้นที่ภายในห้องทุกห้องกว้างขวาง สบาย เน้นความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน
เช็คอินเสร็จแล้ว เราก็ยืนมองโคมไฟระย้าหนึ่งในแลนด์มาร์คของที่นี่สักนิดก่อนจะขึ้นลิฟต์ไปยังห้องพัก เรารู้มาว่าคอนเซ็ปของห้องโถงล็อบบี้มีกิมมิกเก๋ ๆ คือเจ้าโคมไฟทรงหยอดน้ำแฮนด์เมดห้อยระยินบระยับอยู่ทั่วทั้งเพดานให้เข้ากับสาขาประตูน้ำไงล่ะ สวยงามมากทีเดียว
ออนิกซ์ คลีน (ONYX Clean)
สำหรับนโยบายความปลอดภัยและความสะอาดเพื่อให้เราเข้าพักอย่างมั่นใจไร้กังวลของที่นี่ ใช้มาตรฐานเดียวกันกับโรงแรม ONYX Group ทุกที่ เป็นการยกระดับมาตรฐานการบริการด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยด้วยโครงการ “ออนิกซ์ คลีน” (ONYX Clean) เตรียมความพร้อมต้อนรับและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและแขกที่เดินทางมาเข้าพักและใช้บริการที่โรงแรม รีสอร์ท และเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ในเครือฯ ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับแขกผู้เข้าพักตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินทางมาถึงโรงแรมจนถึงวันเดินทางกลับ เราจึงเห็นมาตรการด้านความปลอดภัยในทุก ๆ พื้นที่ของโรงแรม
ท้าดาาาา เข้ามาในห้องปุ๊ป ก็ต้องร้องกร๊ดปั๊ปกับการต้อนรับแบบน่ารัก ๆ ของที่นี่ มีทั้งข้อความต้อนรับ รูปถ่าย มาลัย พร้อมทั้งกาแฟแคปซูล ของว่างและผลไม้วางไว้ครบเซ็ต
และห้องของเราในทริปนี้เป็นห้องคอร์เนอร์ สวีท ขนาด 114 ตร.ม. ที่เพิ่งปรับปรุงโฉมใหม่ มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่นและ 1 ห้องครัว การตกแต่งภายในสัมผัสได้ถึงความพิถีพิถัน มีกลิ่นอายของความเป็นไทยผสมผสานกับความโมเดิร์นได้อย่างลงตัว มันทำให้การพักผ่อนสำหรับครอบครัว คู่รัก หรือเพื่อนสนิทมีคุณภาพมากขึ้นได้จริง ๆ
และห้องนอนโฉมใหม่ทั้ง 2 ห้องของเราซึ่งประกอบไปด้วย ห้องนอนมาสเตอร์ ห้องนอนขนาดใหญ่ ได้เพิ่มความสดใสในบรรยากาศอบอุ่น ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนได้พักผ่อนอยู่ที่รีสอร์ท วิวสวย เตียงนอนนุ่ม เพิ่มมุมผ่อนคลายด้วยชุดโซฟาเบดริมหน้าต่าง
และห้องน้ำในมาสเตอร์เบดรูมนั้นเป็นอะไรที่เราชอบมาก เพราะนอกจากไฟสวย แสงดี กระจกที่ส่องแล้วดูดีกว่าตัวจริง 100 เท่า ยังตกแต่งทันสมัยด้วยหินอ่อนสีสบายตา มาพร้อมฟังก์ชั่นที่จัดสรรอย่างลงตัวแยกส่วนอ่างอาบน้ำและส่วนฝักบัวอาบน้ำ อ่างล้างหน้าแบบคู่ กระจกในห้องน้ำที่ตกแต่งด้วยไฟแอลอีดี เก๋อย่าบอกใคร
อีกโซนที่เราใช้เวลามากที่สุดคือส่วนห้องครัวและห้องนั่งเล่น บอกเลยว่าครบมาก ทั้งโซฟาแสนสบาย ทีวีที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ แถมในครัวยังมีอุปกรณ์ครบเซ็ตทั้งมีเตาและเครื่องครัว เครื่องทำกาแฟหอมกรุ่น ตู้เย็น โต๊ะอาหารเก๋ๆ สำหรับทานข้าว หรือแม้แต่เครื่องซักผ้ายังมีให้เล้ยยย เรียกได้ว่าตอบโจทย์ความสะดวกสบายของผู้เข้าพัก
สำรวจห้องจนเหนื่อย ก็ถึงเวลาของ Afternoon Tea สุดชิคที่มาพร้อมธีม 𝐋𝐮𝐱𝐮𝐫𝐲 𝐓𝐫𝐚𝐯𝐞𝐥𝐥𝐞𝐫 𝐇𝐢𝐠𝐡 𝐓𝐞𝐚 รังสรรค์กระเป๋าเดินทางและขนมต่าง ๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารขึ้นชื่อจากทั่วโลก รวมของว่างทั้งคาวและหวานแสนอร่อยมากมาย จับคู่กับชาสุดพรีเมี่ยมจาก TWG กับรสชาติที่จะทำให้คุณหวนรำลึกถึงการออกเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง
ให้บริการแล้ววันนี้ ตั้งแต่เวลา 14.30 – 17.30 น.
ณ ห้องอาหารคาดเคส ในราคาชุดละ 𝟖𝟗𝟗++ บาท สำหรับ 2 ท่าน รวมชาพรีเมียมจาก TWG หรือกาแฟ
สำหรับเมนูต่าง ๆ ของเซ็ตอาฟเตอร์นูนทีที่เป็นเสมือนตัวแทนของประเทศที่โดดเด่นด้านอาหารทั่วโลก ดังนี้
Vietnam – Fresh Vegetable Spring Roll
France – Salmon Rilleter & Smoked Salmon Open Sandwich
England – Coronation Chicken
Italy – Caprese Quiche, Mozarella & Tomato Basil
Mexico – Ceviche Style Prawn Cocktail
China – Black Sesame Choux
Japan – Matcha Macaron
Thailand – Mango Roll Cake
Singapore – Fruit Tartlet
Tahiti – Vanilla Bourbon Tea Scones
France – Orange Bon Bon
ส่วนลิสต์ชาที่มีให้เลือกจาก TWG Tea นั้นได้แก่
English Breakfast
French Earl Grey
Geisha Blossom
Silver Moon
Paris-Singapore
Singapore Breakfast
Vanilla Bourbon
อีกหนึ่งจุดเด่นของห้องพักทุกห้องคือ กระจกใสบานใหญ่ที่ทำให้เราสามารถมองวิวด้านล้างได้แบบชิล ๆ จะนั่งจิบชา กาแฟ แชะภาพโพสต์โซเชี่ยลเยอะแค่ไหนก็ได้ เพราะห้องพักทุกห้องของที่นี่ได้รับการออกแบบให้มีหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานเพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่
Pool & Pool Bar
ว่าแล้วก็แอบแวะไปยังชั้น 8 ตรงสะรว่ายน้ำ พูลยาร์ และสปาสักหน่อยดีกว่า แม้ว่าช่วงนี้ยังต้องปิดไว้ตามมาตรการของสถานการณ์โควิด แต่สามารถแวะไปชม เอาบรรยากาศฟิน ๆ รับลมชิล ๆ ได้
Executive Lounge
หลังจากนั่งเล่นเดินเล่นจนอิ่ม ก็ขอแปลงร่างเป็นสาวกรุยกรายเพื่อมานั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศยามเย็น บอกลาแสงตะวันที่ชั้น 32 ซึ่งเป็นเอ็กเซ็คคิวทีฟ เลานจ์ ของที่นี่ การได้นั่งจิบเครื่องดื่มดี ๆ กับของกินเล่นเบา ๆ เคล้าไปกับลมเย็นในบรรยากาศแสงสุดท้ายของวัน มันช่างโรแมนติกเสียเหลือเกิน
Private Dining Experience
อ่าแก กินของว่างเล็ก ๆ บนเลานจ์พอกรุบ เราก็ต้องวิ่งกลับมารับดินเนอร์สุดหรูที่ห้องโดยไว เพราะแพ็กเกจที่เราจองไว้มันรวมดินเนอร์ด้วยนี่ไงล่ะแก๊
อาหารเย็นของที่นี่เสิร์ฟเป็นคอร์ส สามารถเลือกได้ทั้ง ขนมหวาน เครื่องดื่ม appetizer และ main course สามารถสั่งได้ 3 คอร์ส สำหรับ 2 ท่าน ที่ว้าวคือ เค้าเสิร์ฟพร้อมเครื่องดื่มซอฟต์ดริงก์และสปาร์คกลิ้งไวน์ 2 แก้วด้วยจ้า
อันนี้แค่บางส่วนของอาหารที่เอามาอวดนะ ของจริงคือปังมาก เริ่ดมากกกกก
Bathtub
อิ่มท้องกันแล้วก็ขอฟินต่อในอ่าง ก็เราบอกแล้วไงว่าเราชอบแสงไฟในห้องน้ำมาก ถ่ายยังไงก็สวยก็เด็ดขนาดนี้ จะปล่อยให้ว่าง ๆ เคว้งคว้างได้ไงล่ะ
Breakfast in Bed
เมื่อคืนกินอิ่มแช่น้ำอุ่นจนหลับฟินจนตื่นมาพร้อมความสดใสเบอร์10 บิดขี้เกียจได้แปปเดียวอาหารก็มาส่งถึงห้องแล้ว สำหรับเซ็ตอาหารเช้าก็มีหลากหลายให้เราได้อิ่มกัน ทั้งข้าวต้ม ไข่คน ไข่เบเนดิก แพนเค้ก ขนมปัง ชา กาแฟ นมสด และอีกมากมาย
Lunchtime
ก็บอกแล้วว่าที่นี่เค้าให้เช็คเอาท์ได้ถึง 20.00 น. เลยนะ ทำให้เราได้นั่งทานมื้อเที่ยงฟิน ๆ ได้อีก 1 มื้อโต ๆ
จบแล้วสำหรับทริปเบา ๆ ใช้วันหยุดในกทม.แบบทั้งนอนทั้งอิ่มทั้งฟิน เป็นทางเลือกสำหรับใครที่อยากออกไปใช้วันหยุดในช่วงนี้ แต่ยังไม่มีที่จะไป บางทีการพักผ่อนก็ไม่จำเป็นต้องไปไหนไกล แค่เปลี่ยนสถานที่ หาบรรยากาศใหม่ ๆ ก็ได้ความสุขเช่นกัน เอาไว้คราวหน้าเราจะมาใหม่น้าาา
ด้วยรัก
บันทึกคนขี้เที่ยว