Shanghai : You never go, You,ll never know.
ว่ากันว่าจีนครั้งแรกๆ ให้ลองเริ่มที่ #เซี่ยงไฮ้ เพราะที่นี่มีความจีนที่ไม่จีน มีความนิวยอร์กที่เกิดก่อนนิวยอร์กของจริงจนเมืองนี้ได้รับสมญานามว่า Newyork of the east เตรียมหา ref. ท่าถ่ายรูปและคอสตูมเริ่ดๆ ไปได้เลยเพราะมหานครที่ใหญ่ที่สุดของจีนแห่งนี้มีความชิค ความจีนที่ไม่จีน มันคือความลงตัวผสมผสานระหว่างจีนและโมเดิร์น มีความเก่าคลาสสิคผสมความชิคความคูล มีทั้งความเจริญ สะดวกสบาย คาเฟ่ มิวเซี่ยม ตลาด ย่านเมืองเก่า ย่านน่ารัก แสงไฟสีสัน ความทันสมัย ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย รับรองเลยว่าไม่ใช่จีนในมายาคติของหลายๆ คนแน่นอน ส่วนการเดินทางเที่ยวในเซี่ยงไฮ้นั้น เราใช้ MRT ตลอดทั้งทริป ง่ายและสะดวกสบายสุดๆ และทริปนี้เราเลือกบินตรงไปกับ AirAsia กดตั๋วบินไปกลับ 6000 นิดๆ แถมล็อกอิน Big point รับส่วนลดสมาชิกแถมยังสะสมแต้มไว้แลกนั่นนี่ได้เพียบสำหรับใครที่กำลังวางแพลน หาวันลา อยากรู้ราคา ก็ไปกดดูตั๋ว #AirAsia กันได้ที่
ชวนเที่ยวเซี่ยงไฮ้ Say hi มหานครไฮโซอันดับ 5 ของโลก เมืองที่พลิกมโนภาพเมืองจีนจากที่เคยมา ถ้ายกให้รีวิวเซี่ยงไฮ้ภายในหนึ่งประโยคขอพูดว่า Shanghai : You never go, You,ll never know. ทุกสิ่ง เอเวอรี่ติงคือว้าว
ความชิค ความลงตัวของมหานครแห่งนี้ไม่ว่าจะเดินไปซอกซอยไหนก็ได้มุมถ่ายรูปเอามาอัพลงโซเชี่ยลเท่ๆ แน่นอน
หาดไว่ทัน The Bund หรือ หาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้
Yuyuan Garden
ทริป 4 วัน 3 คืนของเราคราวนี้ ชิวๆ ไม่อัดแน่น ไม่มีเที่ยวหนักเที่ยวเหนื่อย เราเลือกบินตรงไปกับ AirAsia เวลาเดินทางดี๊ดี หลับเพลินๆ บนเครื่องแป๊บเดียว 3 ชั่วโมงก็ถึงที่สนามบินผู่ตง กดตั๋วบินไปกลับ 6000 นิดๆ แถมล็อกอิน Big pointรับส่วนลดสมาชิกแถมยังสะสมแต้มไว้แลกนั่นนี่ได้เพียบสำหรับใครที่กำลังวางแพลน หาวันลา อยากรู้ราคา ก็ไปกดดูตั๋ว #AirAsia กันได้ที่ https://bit.ly/2pia76s และถ้าหากใครอยากนอนหลับยาวๆ สบายๆ ก็เลือกใช้บริการ flat bed ได้นะเราว่าคุ้มค่าและสบายไม่แพ้ business class เลยล่ะ
Long Museum
สถานที่แรกที่มาตอกย้ำความชิค ความคูลของมหานครแห่งนี นั้นก็คือ Long Museum (อ่านว่า หลง ตอนแรกเราก็อ่านว่า ลอง พิพิธภัณฑ์ยาว)
เป็นมิวเซียมที่สร้างมาเมื่อไม่กี่ปีเอง ตัวมิวเซียมรีโนเวทจากโรงงานถ่านหินเก่า จะยังคงเห็นเครื่องจักร และโครงสร้างเดิมอยู่ ที่นี่เป็ศูนย์รวมเด็กวัยรุ่นที่มาเล่นสเก็ตบอร์ดกัน มานั่งเล่นริมแม่น้ำ ส่วนพิพิธภัณฑ์ด้านในก็จะเปลี่ยนธีมไปเรื่อยๆ เราว่ามันคุ้มค่ามากกับการต่ายค่าเข้ามาที่นี่ เพราะงานศิลปะบางชิ้นไม่สามารถประเมินราคาค่างวดได้เลยมันเหมาะมากกับการมาเสพศิลป์สร้างสุนทรียะ อารมณ์ความติสมาเต็มแน่นอน
แต่โดยรวมถือว่าเป็นนิทรรศการที่ดีมาก ใครมาเซี่ยงไฮ้ควรมาที่นี่ ภายในแบ่งการจัดแสดงเป็น 2 ส่วน คือ พิพิธภัณฑ์หมุนเวียน และ ถาวรส่วนหมุนเวียนจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ อีกส่วนที่เป็นงานถาวร จะมีแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ คืองานภาพวาดเขียนเกี่ยวกับเรื่องราวของท่านประธานเหมา
และอีกส่วนจะเป็นของสะสมโบราน พวกถ้วยชาม ภาพเขียน คือมาที่นี่แค่ชมสถาปัตย์ก็คุ้มแล้ว!
การเดินทาง
สถานี Middle Longhua Road ก็เปิด google map เดินตามไปเลย ระหว่างทางก็ถ่ายรูปไปด้วย วิวระหว่างทาง ค่าเข้า 50 RMB / Exhibition 100 RMB เดินจากสถานีเพียง 500 เมตร
Starbucks Reserve Roastery
Starbucks Reserve Roastery แห่งนี้ ปัจจุบันเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีพื้นที่ 2 ชั้น รวม 29,000 ตารางฟุต หรือประมาณสนามฟุตบอล 1 สนาม และใช้พนักงานทั้งหมด 400 คน แม่เจ้าทำไมเอี๊ยะเอาไอ้เจ้าร้านกาแฟอะไรนี้มาอยู่ในลิสต์เราบอกเลยว่าค่าครองชีพที่เซี่ยงไฮ้นี่ ท็อปไฟว์เอเชียเด้อ แกจะดื่มกาแฟธรรมดาๆในตลาด 40หยวน หรือจะมาสตาร์บัค 50 หยวนก็แล้วแต่นะ 555 เราเองก็ไม่ใช่ Starbucks’Lover อะไรนะ แต่อยากมาสัมผัสความใหญ่โตของสาขานี้ บอกเลยว่าเคาน์เตอร์ชา กาแฟ เบเกอรี่ ของฝาก แยกกันหมดและมีการคั่วกาแฟสดๆแพ็คใส่ห่อด้วยนะ
มีความดีงามจริงๆ เอาล่ะมันดีแกก็ต้องมานะ ถึงคนจะเยอะไปหน่อยแต่ควรมาสำหรับตามที่ได้โม้ไปตั้งเยอะตั้งแยะว่าเซี่ยงไฮ้ไม่ธรรมดา
แม้แต่สตาร์บัคก็ไม่ธรรมดาจ้า Shanghai Roastery ของสตาร์บัคส์แห่งนี้ ต้องการให้ใช้มือถือซึ่งติดตัวคุณอย่ตลอดเวลาสร้างปฏิสัมพันธ์ให้ได้มากที่สุดโดยได้ร่วมมือกับ Alibaba ช้อปปิงออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของประเทศจีนช่วยกัน สร้างการเยี่ยมชมแบบ interactive
ทำไมสตาร์บัคต้องลงทุนที่นี่ก็เพราะจีนคือตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดของ Starbucks ว่ากันว่ามีการเปิดสาขาสตาร์บัคส์ใหม่ทุกๆ 15 ชั่วโมง โดยตอนนี้มีทั้งหมด 27,000 แห่งทั่วโลกซึ่ง 3,000 แห่งอยู่ในประเทศจีน
และ 600 แห่งเฉพาะในเซี่ยงไฮ้ สตาร์บัคส์ประกาศนโยบายชัดเจนว่า จะมีสตาร์บัคส์ในจีนให้ได้ 5,000 สาขา
การเดินทาง
Starbucks Reserve Roastery สาขานี้สามารถเดินทางมายังสถานี Line13 NanjingWest แล้วออกทางออก 11 (จริงๆจะมา Line2/12 ก็ได้แต่ใต้ดินมันจะไม่เชื่อมกัน ต้องออกมาหนาวข้างนอก) ร้านจะอยู่ขวามือเป๊ะ
พิกัด : https://goo.gl/maps/T44HN9LHAez
เดินเล่นถนนหนานจิง
Nanjing Rd. ไม่ใช่ชื่อถนนที่รถวิ่งแต่เป็นย่านศูนย์กลางความเจริญของเซี่ยงไฮ้ มีความยาวประมาณ 5-6 กิโลเมตร คือ เดินกันจนเหนื่อยขาลาก แต่ส่วนใหญ่คนจะเดินฝั่ง The Bun ไปถึง People’s Square เพราะตรงนี้เป็นทางคนเดินครับ เป็นย่านช้อปปิ้งเก่าแก่ที่สุดของเซี่ยงไฮ้ เป็นตลาดซื้อขายของกันคึกคักตั้งแต่ทศวรรษ 1920 ถนน Nanjing ที่สามารถเดินได้ยาวไปเรื่อยๆ ตลอดถนนNanjing จะเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย แบรนด์เนมทั้งต่างประเทศ และจีน ถ้าเทียบๆกับกรุงเทพที่นี่ก็คงประมาณว่าสยามสแควร์ที่เป็นศูนย์รวมแฟชั่น สินค้า ร้านอาหาร ถ้าใครอยากมาช๊อปร้านแบบแบรนด์ที่เรารู้จักกันต้องมาถนนเส้นนี้นอกจากช๊อปยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ แอบอยู่ตามซอยต่างๆอยู่มากมาย วันหยุดสุดสัปดาห์คนจะเยอะหน่อยแต่ควรมานะ ทำไมควรมา 5555 ก็เพราะมันอยู่กลางเมืองน่ะสิ ใครจะไป The Bund ก็ต้องขึ้นมาที่สถานีนี้แล้วก็โผล่มาที่ถนนหนานจิงเลย 555 ถ้าแนะนำให้ไปเดินเล่นกลางคืน โดยในช่วงเทศกาล ตรุษจีน ปีใหม่ และคริสต์มาส
ชาวเซี่ยงไฮ้และนักท่องเที่ยวจะมารวมตัวกันฉลองความสุขสันต์บนถนนสายนี้ พื้นที่ด้านตะวันออกของนานจิงอนุรักษ์เป็นถนนคนเดิน ถือเป็นอีกย่านที่น่าเดินน่าช้อปที่สุดในเซี่ยงไฮ้ เพราะมีร้านจีนๆซุกซ่อนอยู่สลับกับห้างหรูตลอดสองข้างทาง
พิกัด : https://goo.gl/maps/cXHhx1zHkmu
China Art Museum
ซึ่งจะอยู่ในส่วนของ Shanghai Expo โดยสามารถเดินทางด้วยรถไฟ ลงสถานี China Art Museum (line 8)
ด้านในจะจัดแสดงงานศิลปะเป็นหลัก ต่างจากพิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้ที่มีแต่ของโบราณๆ
ที่นี่เราขอบอกว่าถ้าคนไม่มาก็ไม่ต้องเสียดายแต่ที่เอามาอยู่ในลิสต์ก็เพราะว่า หน้ามิวเซียว มันสวยมาก เหมาะกับการมาถ่ายรูปจะรูปเดี่ยวหรือกลุ่มก็ได้ ถ้ามีเวลาขึ้น MRT มาโลด เป็นมิวเซียมแสดงงานศิลปะของชาวจีนตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
มีศิลปะหลายแขนง เป็นมิวเซียมที่ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างมาก ของจริงมันใหญ่มากๆ และสวยกว่าในรูปมาก
พิกัด : https://goo.gl/maps/8SMkGjtD1c72
Shanghai Museum
พิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้ เป็นพิพิธภัณฑ์เก่าแก่ถูกบูรณะในปี 1996 และเป็นพิพิธภัณฑ์ระดับโลกแห่งแรกของจีน
เก็บของที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เหรียญในยุคโบราณ
จนไปถึงเครื่องแต่งกายที่ทำให้เห็นถึงความเป็นอยู่ในยุคก่อน ถ้าเพื่อนๆดูตามรูปแล้วก็จะเห็นว่าคนรอคิวเข้าชมกันเยอะมากๆ
ข้างในเป็นเรื่องราวต่างๆของชาวจีนโบราณ พูดง่ายๆคือสถานที่ศึกษาประวัติศาสตร์อันยาวนาน กว่า 5000 ปีของ 1 ในประเทศที่ใหญ่
และประชากรมากอันดับต้นๆของโลก เพราะมีทั้งหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่มีทั้งวัตถุโบราณมากมาย
ให้เราได้ดูกันตั้งราชวงศ์นู้น ถ้าเพื่อนๆมีเวลา หรือจัดเวลาไว้ซัก 1-2 ชั่วโมง เพื่อเข้าชมมิวเซียมที่นี่นะ
เชื่อว่าจะซึมซับความเป็นเซี่ยงไฮ้ได้เยอะเลยล่ะ
การเดินทาง ลงสถานีรถไฟฟ้า People’s Square (Line 1) โดยให้ออกที่ทางออกหมายเลข 1 Exit 1 เมื่อออกมาจะเจอกับ Shanghai Museum ที่อยู่ด้านขวาให้เราข้ามถนนด้วยสะพานลอยที่เป็นลักษณะโค้ง ๆ หน่อย ๆ
พิกัด : https://goo.gl/maps/eutopwi4cg32
โรงแรม wassim hotel express shanghai
โรงแรมวัสซิม เซี่ยงไฮ้ การมาทริปเซี่ยงไฮ้ครั้งนี้แทบจะเป็นไม่กี่ทริปของเราที่อยู่ตั้งหลายวันไม่ได้เปลี่ยนที่พักเลย เพราะเราตั้งใจเที่ยวแต่ในเมืองไงล่ะ ก็เลยขอรีวิวที่พักซักหน่อย โรงแรมแห่งนี้เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว ข้อเด่นๆของที่นี่คือเดินทางสะดวก transportation hub และจะไปหาอะไรกินก็ไม่ยาก และเราเลือกโรงแรมที่พักระดับ 3 ดาว ด้วยโลเคชั่นที่ดี ก็เลยมีนักท่องเที่ยวมาพักทั้งปีเลยล่ะที่พักมีฟรี Wi-Fi ทุกห้อง แต่ข้อแนะนำคือ ถ้าจะใช้ Wifi ที่จีนต้องมีแอพ VPN ด้วยเด้อ
พิกัด : https://goo.gl/maps/FdBpD5jL53P2
Yuyuan Garden
Yuyuan garden หรืออีกชื่อหนึ่งชื่อว่า ตลาด100 ปี หวังเมี่ยว ที่นี่มาไม่ยากแถมของกินเยอะมากจริงๆ ต้องมาประสบพบเจอด้วยตัวเอง
เอาความพลาดของตัวเองมาแชร์ละกันเราว่าที่นี่ต้องมาวันสุดท้ายของทริปนะ เพราะของขวัญ ของฝากจากเซี่ยงไฮ้ได้รวมตัวกันที่นี่แล้ว คนมาเดินก็เยอะนะ ระแวดระวังกระเป๋าให้ดี สวนสวยใจกลางเมือง ที่จัดอยู่ในบ้าน คหบดีเศรษฐีเก่า สไตล์การจัดสวนจะเป็นแบบจีน Yuyuan Garden
จะนั่งรถมาก็ได้ หรือ ถ้าใครนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน ก็สามารถลงได้ที่ Yuyuan Garden Station ที่มีของฝาก ของที่ระลึกเพียบ ที่สำคัญคือ มีร้าน เสี่ยวหลงเปาชื่อดัง ใครไปเซี่ยงไฮ้แล้วไม่ลองกินเสี่ยวหลงเปาที่นี่บอกเลยว่า กลับเลยจ้า กลับบ้านเลยเพราะเหมือนไปไม่ถึงซังไห่ เด้อ
พิกัด : https://goo.gl/maps/FnUWLXji1LC2
17Cafe
เราเดินผ่านร้านนี้แล้วก็สะดุดตากับการออกแบบร้านและพอมารู้ว่าชั้นใต้ดินของร้านจะมีการตกแต่งเปลี่ยนตีมร้านทุก 3 เดือนก็ยิ่งทำให้ว้าวไปใหญ่
ตอนที่เราไปเป็นตีมหาดทรายมีพร๊อพนั่นนี่ให้ถ่ายรูปด้วยเราว่าร้านนี้เหมาะกับความมินิมอลมากแถมยังมีเมนูภาษาอังกฤษให้สั่งกันง่ายๆด้วย
ถ้าหากจะพูดว่าเซี่ยงไฮ้คือนิวยอร์กแห่งซีกโลกตะวันออก ตรงนี้ก็คงเป็นอัพเปอร์อีสท์ไซด์นั่นแหละ เพราะความหรูหราผู้ดีแบบในซีรีส์ที่มีโลเคชั่นบนเกาะแมนฮัตตันมันทำให้เราอดเปรยมาไม่ได้ Xintiandi อ่านว่า ซินเทียนตี้ แปลว่าโลกใหม่ ย่านนี้ห้ามพลาด ขีดเส้นใต้สองเส้นเลย เพราะตรงนี้คือจุดที่เราคิดว่าฮิป ชิค แนว จ๊าบ เท่ระเบิดเหมาะกับวัยรุ่นอย่างพวกเราที่สุด ย่านที่มีบ้านเรือนของยุคเก่าของชาวไฮโซเซี่ยงไฮ้ มีความผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันออกและตะวันตก ประตูและกำแพงหินสวยงามคลาสสิค แค่ยืนถ่ายรูปกับกำแพงและประตูบ้านก็กลายเป็นเด็กแนวได้แล้ว แถมยังมีมุมโมเดิร์นให้ถ่ายแบบแหวกๆ เก๋ๆ และคาเฟ่ร้านอาหารก็มีไว้บริการครบครัน เดินเล่นไปมาทั้งวันก็ยังถ่ายรูปไม่จบแน่นอน
Lady M Signature
คาเฟ่เค้กทีโคตรจะดี ร้านเค้ก LadyM ชื่อดัง ส่งตรงมาจากอเมริกา มาเปิดสาขาที่เซี่ยงไฮ้ บอกก่อนว่า ไม่ว่าร้านนี้จะไปฮ่องกง สิงคโปร์ หรือที่เซี่ยงไฮ้ก็มีแต่บรรดา FC สายขนมหวาน ไปตามชิม ตามซื้อกันแบบไม่หวาดไม่ไหว “Lady M Signature” : เป็น Crepe Cake สีครีมนวลๆ ดูเหมือนจะออกจืดๆแต่พอทานคำแรกรู้สึกนุ่ม หวาน และมีความมันๆ และรสชาติความเข้มข้นของเนื้อเครป
การเดินทาง: นั่งรถไฟสาย 10 สีม่วง ทางออก exit 6 เลี้ยวซ้ายเดินเล่นไปเรื่อยๆซักร้อยสองร้อยเมตร จนถึงป้าย The site of the first national congress of cpc ก็เลี้ยวขวาไปโลดเลยจ้า
FB : Lady M Cake Boutique
พิกัด : https://goo.gl/maps/JQM7kzNptXt
S.Engine Coffee
เป็นอีกร้านที่เราชอบเพราะมีกาแฟหลากหลายแบบให้เลือกชิม ทั้งเมนูพิเศษที่ทางร้านครีเอทเอง กาแฟ drip และขนมเค้กหน้าตาน่ากินอีกหลายอย่าง การตกแต่งของร้านออกแนว Minimal เน้นสีเงิน/ขาว/ดำ มีจุดเด่นคือบันไดเวียนที่อยู่กลางร้าน ต้องบอกเลยว่าคอกาแฟไม่ควรพลาด
เพราะเมล็ดกาแฟของร้านนี้เขาคั่วเอง มีทั้งของนำเข้าและในประเทศ สามารถสอบถามพนักงานได้เลยว่าต้องการกาแฟรสชาติประมาณไหน พนักงานก็จะแนะนำเมนูตามความชอบของเรา ส่วนตัวเราชอบการออกแบบตกแต่งภายในร้านมากกกกก เป็นร้านหนึ่งในย่านซินเทียนตี้ที่ได้รับความนิยมของวัยรุ่น ลองคิดดูว่าอากาศเย็นๆการนั่งจิบกาแฟอุ่นๆคือเรื่องที่ดีที่สุดของชีวิตช่างนั้น ร้านเปิดทุกวัน 8.00 – 22.00 น.การเดินทาง : MRT South Huangpi Road Exit 2 เดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
ตึกรามบ้านช่องถนนหนทางของเค้าทุกอย่างคือสุดจริง เจริญรุ่งเรืองจริงๆเราว่าลบภาพติดตาจีนที่ทุกคนคิดไปได้เลย เพราะเซี้ยงไฮ้มีมากกว่าจีน
กินก็เพลิน เที่ยวก็เพลิน ชมศิลปะก็เพลิน เสพอาร์ต เสพคาเฟอีนกันจนอิ่มแล้ว เอาล่ะ เรามีสถานที่ต้องห้ามหลาด เรียกว่ามาเซี้ยงไฮ้ต้องมาเช็คอิน ไม่งั้นตม.จะไม่ให้ออกจากประเทศแน่ๆ 555 จะมีที่ไหนบ้าง ตามเรามาชมได้เลยจ้า
Waitan The Best Romantic of Shanghai
พาทุกคนที่อาจจะเกิดไม่ทันในยุคนั้น ไปรู้จักสถานที่ที่มีชื่อเสียง กับบรรยากาศสุดโรแมนติคในเซี่ยงไฮ้แห่งนี้กัน ที่นี่แบบว่าโคตรจะดี แม้คนจะเยอะไปซักหน่อยแต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหา เพราะไม่แออัด และยิ่งใหญ่ตลามสไตล์พี่จีน
การเดินทาง ใช้ subway line 2 หรือ 10 ลงที่สถานีหนานจิงตงลู่ Nanjing Dong Lu หรือ Nanjing Road ออก exit 2 เดินตามป้าย The bund ไปประมาณ 500 เมตร
พิกัด : https://goo.gl/maps/RQ8Jt9QJca22
The Bund เป็นทางเดินเลียบแม่น้ำที่มีตึกทรงยุโรปเก่าๆขนาดใหญ่ โดยบริเวณรอบๆจะเต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องและอาคารที่มีอดีตกว่าร้อยปีตามที่่บอกไปตั้งแต่ต้นว่าเซี่ยงไฮ้ยิ่งใหญ่มานานพอสมควร การรับอิทธิพลจากต่างชาติจึงเห็นได้ชัดเจนลักษณะสถาปัตยกรรมที่สวยงามตามแบบยุโรป อีกทั้งย่านนี้เป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของเซี่ยงไฮ้ และที่คนไทยใฝ่ฝันจะมาเที่ยวเซี่ยงไฮ้เพราะหาดไว่ทาน เป็นฉากหลักของภาพยนต์ ทำให้หาดไว่ทาน ถูกคนไทยเรียกตามภาพยนต์ว่า
หาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้
การเดินทางใช้ subway line 2 หรือ 10 ลงที่สถานีหนานจิงตงลู่ Nanjing Dong Lu หรือ Nanjing Road ออก exit 2 เดินตามป้าย The bund ไปประมาณ 500 เมตร
พิกัด : https://goo.gl/maps/RQ8Jt9QJca22
Waitan The Best Romantic of Shanghai
ช็อตโรแมนติกโคตรๆ ของเมืองนี้มาชมแสงสียามค่ำคืน ดื่มด่ำไปกับอากาศที่แสนจะสบาย เราว่า ถ้าได้มากับคนรู้ใจ เดินจูงมือกันขึ้นไปชมไฟชมวิวนี้ หันมามองตากันที ตายกันไปเลยจ้า ใช้ subway line 2 หรือ 10 ลงที่สถานีหนานจิงตงลู่ Nanjing Dong Lu หรือ Nanjing Road ออก exit 2 เดินตามป้าย The bund ไปประมาณ 500 เมตร
พิกัด : https://goo.gl/maps/RQ8Jt9QJca22
สะพาน Wai Baidu
สะพาน Wai Baidu (Huang Phu River) เป็นอีกหนึ่งที่ที่ต้องมา เพราะจะได้เห็นจุดเริ่มต้นทริปล่องเรือชมจุดบรรจบของแม่น้ำ(แต่เราไม่ได้ไปนะ เวลาไม่ทันแต่จะเล่าให้ฟัง) “แม่น้ำสามสี” ซึ่งเป็นที่ที่แม่น้ำต่างสี อันได้แก่ แม่น้ำ Yangtze แม่น้ำ Huangpu และแม่น้ำ East Sea
มาบรรจบพบกัน ในยามค่ำคืนซึ่งคุณจะได้เห็นอาคารและทางเดินริมน้ำที่สว่างไสวขึ้นมาให้บรรยากาศโรแมนติกขึ้นไปอีก ที่หยิบเอาสะพานนี้มาเป็นสถานทีที่ 2 ของทริปนี้ก็เพราะ สะพานนี้อยู่ติดกับ The Bund สามารถเดินเลยมาถ่ายรูปได้ แต่ส่วนตัวเราขอแนะนำว่าให้ไปสะพานนี้ช่วงเย็นๆถึงค่ำๆ เพราะไฟจากฝั่งหอไข่มุก ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ตรงข้ามสะพานแห่งนี้จะเปิดไฟสวยเป็นพิเศษ
พิกัด : https://goo.gl/maps/C1SMYmHs6bn
ถ้าจำไม่ผิดไฟโชว์นี้จะเปิดประมาณ 19.00 น. เราว่ามันสวยมาก ไม่ใช่เฉาะสะพานอย่างเดียวที่น่าไปถ่ายรูป ยังมีตึกใกล้ๆบริเวณนั้นที่สวยงามมาก พกขาตั้งกล้องไปด้วยนะ จะได้ถ่ายรูปไฟได้สวยๆ ถ้าไปตั้งกล้องถ่ายรูปแบบเราที่สะพานแห่งนี้ จะเห็นทัศนียภาพโดยรวมของ The Bund
และฝั่งตรงข้ามที่ประดับประดาไฟไว้สวยงามมาก อีกทั้งเราจะได้เห็นหอไข่มุกแลนด์มาร์คสุดอลังการของเซี่ยงไฮ้อีกด้วย
ช่วงกลางวันสะพาน Wai Baidu ก็สวยดูดีไม่แพ้กลางคืนนะพิกัด : https://goo.gl/maps/C1SMYmHs6bn
ถึงเวลาต้องบอกลาเมืองศิวิไลซ์แห่งนี้แล้ว ก่อนจากกันไป ต้องขอขอบคุณสายการบินคุ้ม คุณภาพครบอย่างแอร์เอเชียที่พาเราบินสบายตรงมายังมหานครแห่งนี้เราชอบที่ราคาดีและมีแพ็กเก็ตต่างๆ ให้เลือกเดินทางเยอะแยะ แถมยังสะสมคะแนนบิ๊กเพื่อไว้แลกตั๋วตอนโปร 0 บาทได้ด้วย (เราทำบ่อย มือไวใจเร็วตลอด)
เอาล่ะ จบทริป 4วัน 3 คืน เบาๆ ที่เซี่ยงไฮ้ของเราแล้ว ทริปนี้ได้ทั้งความประทับใจ ได้เห็นจีนในรูปแบบที่โคตรเจริญและไฮโซซึ่งเราไม่ได้จะมาแนะนำให้พวกแกทำตัวหรูหราไฮโซเกินความพอเพียงนะแต่เราก็อยากให้มาลองดูความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมืองอื่นๆ ดูบ้าง เพราะการเที่ยว มันไม่ใช่แค่เที่ยวแล้วจบไป แต่เราว่า เรามักจะได้อะไรกลับมาจากแต่ละทริปที่เราเดินทางเสมอ เซี่ยงไอ้คราวนี้นอกจากจะลบภาพเมืองจีนที่เสียงดังคนเยอะวุ่นวายไปได้แล้ว เรายังได้ซึมซับวิถีความคลาสสิคความเจริญที่ยังคงหลงเหลือความเป็นตัวตนของคนที่นี่มาให้เราได้นึกถึงการซื้อประสบการณ์คราวนี้ที่จีนจะเป็นสารตั้งต้นให้เราถลำลึกไปสู่จีนอีกหลายๆ เมืองแน่นอน แล้วต่อๆ ไป เราจะไปเอาประสบการณ์ ความประทับใจที่ไหนมาเล่ากันต่อ ต้องรอตามและให้กำลังใจเราด้วยล่ะสำหรับทริปนี้ ต้องบอกลากันแล้ว แล้วเจอกันใหม่จ้า
ด้วยรัก
บันทึกคนขี้เที่ยว