บางครั้งการมีโอมากาเสะรสเลิศจากวัตถุดิบพรีเมียมส่งตรงจากแหล่งชั้นดีแค่นี้ชีวิตอาจจะถึงจุดฟินสุดแล้วก็ได้ แต่จะดีกว่านั้นถ้าได้นั่งทานอาหารจากฝีมือของเชฟมากประสบการณ์กว่า 10 ปี ที่ Shichi Omakase ร้านหรู Kappou Style เสิร์ฟทั้งเมนู นึ่ง ต้ม ทอด ย่าง และของหวาน บวกกับบรรยากาศริมน้ำให้ฟิลลิ่งความเป็นญี่ปุ่นผสมผสานกับความเป็นสมัยใหม่เข้าไปตั้งแต่ก้าวแรกจนอดคิดไม่ได้ว่าเราหลุดมาถึงดินแดนอาทิตย์อุทัยจริงๆ
โปรโมชั่นช่วงนี้
-จองล่วงหน้า ลด 10%
-ไลค์และแชร์โพสนี้นำไปแสดงที่ร้านรับเมนูสุดพิเศษอีก 1 คอร์ส
เราเองก็ได้จัด Full Course 19+1 คำแบบจุก ๆ เช่นกัน จะฟินแค่ไหนก็ลองเปิดดูข้างในกันเล้ยยยยยยย
รายละเอียดเพิ่มเติม
FB : Shichi Omakase
Tel : 085 – 236 – 8686
พิกัด : goo.gl/maps/Pq9RSKnANzJ9cJHj9
SHICHI OMAKASE สาขาบางนา จัดเต็ม 19 คำ 3900++
เปิดให้บริการทุกวัน วันละ 3 เวลา คือ 12.00-14.00 , 18.00-20.00, 20.00-22.00
โปรโมชั่น
-จองล่วงหน้า ลด 10%
-ไลค์และแชร์โพสนี้นำไปแสดงที่ร้านรับเมนูสุดพิเศษอีก 1 คอร์สไปเล้ยยยย
อย่างที่บอกว่าภายในร้านตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นผสมผสานระหว่างสมัยเก่าและใหม่อย่างลงตัว ทำให้มุมถ่ายรูปภายในเยอะมาก สามารถโพสต์ท่าเก๋ ๆ ได้ทั้งก่อนและหลังทานอย่างเต็มที่
วัตถุดิบทุกอย่างเป็นเกรดแบบพรีเมี่ยมสดใหม่ บวกกับประสบการณ์กว่า 10 ปีของเชฟที่นี่ที่รังสรรเมนูในร้านในรูปแบบ Kappou Style ที่เสิร์ฟทั้งเมนูนึ่ง ต้ม ทอดและของหวาน รับรองได้เลยว่านี่คือเดอะเบสส์แห่งการทานอาหารญี่ปุ่นแน่นอน
Shichi Omakase ตั้งอยู่หน้าหมู่บ้าน Lake Side Villa 1 บางนา ตั้งอยู่กลางน้ำเด่นเป็นสง่าออกแบบมาให้เราได้ฟิลลิ่งความญี่ปุ่นจนแอบเผลอลืมไปว่าที่นี่คือกรุงเทพ แค่เห็นมุมต่าง ๆ สถานที่สวยๆ แค่นี้ก็มงลงแล้ว เรื่องที่จอดรถนั้นก็มีเพียงพอแน่นอนไม่ต้องห่วง
เดินเล่นนอกร้านจนหนำใจ เราก็เข้ามาด้านในเพื่อรอเมนูเด็ดกันเลย เนื่องจากที่นี่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีทั้ง Omakase และ Teppanyaki จึงแยกสัดส่วนกันอย่างชัดเจน โดยโซน Omakase จะมีที่อยู่แค่ 10 ที่นั่ง ทำให้รู้สึกถึงความเป็นส่วนตัว และใกล้ชิดระหว่างเรากับเชฟมากๆ
สิ่งหนึ่งที่เป้นเสน่ห์ของ Shichi Omakase คือ การได้เห็นลีลาของเชฟในการปรุงอาหารพร้อมดื่มด่ำกับความอร่อยและตื่นเต้นในบรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เหตุนี้ทำให้ Shichi เป็นที่ยอมรับว่าเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นอันดับ 1
001 Ankimo Tosazu เริ่มคำแรกสุดพิเศษกับอันคิโมะคือหรือปลาอังโกะ เจ้าของฉายา “ฟัวกราส์แห่งท้องทะเล” พร้อมกับซอสยูสุเจลลี่ โปรยดอกชิโสะเพื่อชูกลิ่นซอสให้เด่นขึ้น การจัดจานสวยงามใส่มาในวาฟเฟิลรูปน้องปลา เวลาทานนำมาประกบและกัดทาน เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยที่ว้าวสุด ๆ รสชาติความหอมมันของตับปลาตัดกับเจลลี่ที่เปรี้ยวและมีกลิ่นยูสุให้ความลงตัว กลมกล่อม อร่อยมาก
คำต่อไปมาต่อกันเลย
002 Kinmedai Sashimi เมนูเรียกน้ำย่อยที่ใช้เนื้อปลากินเมไดสดไม่ผ่านการแช่แข็งและเกรดดีมากมาแล่เป็นชิ้นบาง ๆ หมักกับใบซากุระ 6 ชม. เพื่อเพิ่มกลิ่นเพิ่มรสชาติให้เนื้อปลา 1 คำมีปลา 2 ชิ้นทานคู่กับวาซาบิ 1 ชิ้น และยูสุโคโซะ ผิวส้มผสมพริกไทยอีก 1 ชิ้นเพื่อให้ได้รสชาติที่แตกต่าง เนื้อปลามีความหนึบนุ่มและช่วงนี้เนื้อปลาจะมีความมันเป็นพิเศษ ไร้กลิ่นคาวใดๆ
003 Ezo Awabi หอยเป๋าฮื้อญี่ปุ่น รสชาติทั้งหอมและมันเข้ากับเนื้อฮื้อหวานกรุบ เมนูยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นที่ต้องใช้ความพิถีพิถันทุกขั้นตอนการทำ เชฟจะนำหอยเป๋าฮื้อมานึ่งสาเก 3 ชม. จนหวานนุ่ม แล้วนำมาราดซอสคิโมะหรือซอสตับเป่าฮื้อ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
004 Hotate nori yaki หอยเชลล์ย่างไซส์บิ๊กห่อสาหราย เนื้อหอยเชลล์แน่นมาก เต็มปากเต็มคำ มีรสชาติหวานๆ กลมกล่อม ตัดกับกลิ่นซอสและงาอ่อน ๆ นี่คือสุดยอดของเมนูหอยเชลล์ตั้งแต่เคยกินมาเลย
เมนูต่อมาเชฟน่าจะอยากให้เราเปลี่ยนมาซดน้ำคล่องคอกันบ้างด้วยการหยิบกาซุปมาเทลงในถ้วยคริสตัลใบน้อย ๆ พอให้ได้กลิ่นหอมโชยจนทำให้เรามองตาไม่กระพริบ
005 Saru somen บะหมี่เย็นที่ใช้เส้นโซเมนจากแป้งข้าวสาลีเส้นน้อย ๆ เรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบมาลวกให้พอนุ่มและคงความเหนียวเล็ก ๆ คีบขึ้นมาให้พอชุ่มน้ำซุปโชยุที่มีความหอมนวลเค็มนำเปรี้ยวตาม อร่อยลงตัว
หลังจากดูดเส้นหมี่เย็นเข้าปากจนหนำใจแล้ว เชฟก็เปิดเตาคีบเนื้อปลาชิ้นเด้งลงไปวนว่ายในซุปร้อน ๆ เพื่อรังสรรเมนูใหม่ให้เรา
006 Madai Shabu ชาบูปลามาไดหรือปลากระพงแดงตาโตญี่ปุ่น เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปกระดูกปลาร้อนๆ ที่หวานจากการเคี่ยวหลายชั่วโมง เนื้อปลาไม่แข็ง นุ่มพอดี พร้อมมีกลิ่นหอมของน้ำซุปลอยขึ้นมา สามารถยกซดทั้งถ้วย เพื่อให้ได้ลิ้มรสน้ำซุปมาแตะจมูกพร้อมกับทานเนื้อปลาไปด้วย
ถึงเวลาต้องตาลุกวาวอีกรอบเมื่อเชฟหยิบวัตถุดิบพีค ๆ ขึ้นมาอวดเราตรงหน้า ก็แหมมมมม คนรักการกินแบบเรา จะไม่ว้าวก็คงไม่ได้แล้ว
007 Sumi ika sushi มาเริ่มเข้าเมนูซูชิกันโดยชิ้นแรกที่เชฟเสิร์ฟจะเป็นหมึกกระดองที่ออนท็อปด้วยบาฟุนอูนิสด รสชาติหวานๆ ของปลาหมึกและความมันจากไข่หอยเม่นดีงามมาก เนื้อปลาหมึกหวานด้วยความสดเด้ง ๆ นุ่ม ๆ ละมุนลิ้นเกินต้าน
008 Kuromatsu sushi อีกหนึ่งเนื้อปลาที่หาทานยาก ถูกขนานนามว่าเป็นโอโทโร่ปลาเนื้อขาว เนื้อปลาอวบอ้วนอัดแน่นไปด้วยไขมันแสนหอม รสชาติเข้มข้นปะทะกับลิ้นแล้วบอกได้คำเดียว่า สุโค่ย
009 Kisu sushi ปลาเนื้อขาวหรือปลาทราย มีรสชาติหวานและกลิ่นหอม รสสัมผัสของเนื้อปลามีความกรึบเล็กน้อย ให้อรรถรสในการเคี้ยว
010 Shimaji sushi ปลาทูน่าหางแข็งที่ได้สมญานามว่าราชาแห่งปลาทู เนื้อนุ่มกรอบมัน หอม ไม่มีกลิ่นคาว ก่อนเสิร์ฟ เชฟจะท้อปด้วยเนงิโชหงะคือต้นหอมกับขิงเพิ่มความแซ่บขึ้น
011 Boton Ebi Sushi กุ้งโบตานอีบิจากโอกายามะ ทาด้วยซอสหอมฉ่ำ มีความนุ่มฟูในลิ้น ความรู้สึกแรกที่เข้าปากคือความสดเด้งของเนื้อกุ้งเลยทีเดียว
012 Akami Sushi ปลาทูน่าเนื้อสดแน่น ซึ่งส่วน Akami เป็นส่วนหนึ่งของปลา maguro คือส่วนที่ไม่มีไขมันเป็นส่วนที่แข็งที่สุดของปลา ทำให้เนื้อปลามีสีแดงล้วนทั้งชิ้น หมักมาในอะกามิสุเกะ ซอสหมักซอสได้ความเค็มกลมกล่อม เชฟทาโซยุมาให้แล้ว และขูดวาซาบิสดโรยข้างบน
013 Kamatoro Sushi เนื้อปลาส่วนคางซึ่งมีชั้นไขมันเยอะกว่าส่วนอื่น ๆ มีความมันและหวาน เนื้อเด้งฉ่ำละลายในปาก
014 Otoro sushi มาต่อกันที่ไฮไลท์สุดปังที่ใคร ๆ ก็ต้องกรี๊ดให้กับเมนูนี้ กับราชาแห่งปลาดิบ เนื้อปลาทูน่าส่วนท้องลายหินอ่อนห่อด้วยสาหร่ายที่ย่างไฟอ่อน ๆ บวกกับซอสพิเศษของทางร้าน บีบมะนาว ละลายในปาก
มาถึงอีกหนึ่งเมนูไฮไลท์ที่ใคร ๆ ก็ต้องใจบาง กับเจ้าอูนิหรือไข่หอยเม่น
015 bafun uni sushi ที่หนึ่งในดวงใจใครหลาย ๆ คน ที่นี่ใช้อูนิบาฟุนสด ๆ เน้น ๆ แน่น ๆ สีเหลืองทอง เนื้อเกาะกันแน่น มาท้อปบนข้าวห่อสาหร่ายคำโต หอมหวานเต็มปากเต็มคำ
016 Sujiko ไข่แซลม่อนดองโชยุ โดยทางร้านจะคัดไข่ปลาที่สดพิเศษมีลักษณะติดกันเป็นแพเพราะยังอยู่ในถุงเยื่อไข่ จะมีสีแดงเข้มกว่าและหนึบกว่า มีรสกลมกล่อม
017 Beef kamameshi เมนูหนักที่สุดของมื้อนี้ก็คงเป็นข้าวอบเนื้อวากิวคามะเมชิร้อนๆ ในหม้อดิน ด้วยข้าวญี่ปุ่นพันธุ์ดีอบมันเนื้อและน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิลร้อน ๆ ท้อปด้วยเนื้อวากิวย่างถ่านความสุกระดับMedium Rare ตักข้าวพร้อมเนื้อและทุกอย่างเข้าปากพร้อมกันคือสวรรค์จริง ๆ มันมีความหอมของเตาถ่านบวกกับความมันของเนื้อมีกลิ่นไหม้หน่อย ๆ เพียงแค่คำเดียวรับรองว่าจะทำให้ความทรงจำทั้งหมดของข้าวอบเนื้อที่เคยทานหายไปสิ้นแน่นอน
018 ซุปแก้มปลา กินข้าวกันจนอิ่ม เชฟก็จัดซุปแก้มปลาร้อน ๆ มาให้ซดเพื่อความคล่องคอและล้างปากก่อนไปต่อที่ของหวาน ซุปใส ๆ แต่รสชาติอร่อย มีความหวานของเนื้อปลามาแซม เป็นการล้างปากปิดท้ายได้อย่างดีเยี่ยม
019 matcha ice cream จบของคาว มาต่อกันที่ของหวาน homemade ของทางร้าน ไอศครีมรสชาติชาเขียวเข้มข้น เนื้อเนียนละเอียด
020 yuzu sherbet และสุดท้าย ท้ายสุดมาปิดท้ายกันจริงๆ กับเมนูเกล็ดไอศกรีมรสส้มยูสุ มันเปรี้ยวหวานจี๊ดจ๊าดสดชื่น ถือเป็นการจบแบบบริบูรณ์ทีเดียว
ก่อนกลับเราขอมาโพสต์ท่าสวย ๆ ที่สวนด้านข้างที่ให้บรรยากาศเหมือนเดินเล่นในสวนญี่ปุ่น เพื่อผ่อนคลายความแน่นท้องสักหน่อย สำหรับการเลือกคอร์สโอมากาเสะคราวนี้ของเรา สร้างความประทับใจในการทานอาหารอีกครั้ง ทั้งเรื่องของความใส่ใจทุกรายละเอียด ทั้งวัตถุดิบชั้นดี ทุกอย่างพรีเมียม จึงไม่แปลกใจที่ Shichi จะเป็นร้านยอดนิยมในใจของสาวกอาหารญี่ปุ่น
ด้วยรัก
บันทึกคนขี้เที่ยว