อยากเที่ยวเชียงใหม่แบบสบาย ๆ ไม่ต้องอัดแพลนแน่น แต่ทุกที่ต้องจึ้งตา ประทับใจ และได้รูปต๊าช ๆ มาลงไอจี วันนี้เรารวบรวมมาให้แล้วกับ 9 ที่กิน ที่พัก ที่เที่ยวแมส ๆ กินนอนสบายอุ่นใจกับมาตรการป้องกันโรคโควิดสุดปังที่ผู้ประกอบการเขาพยายามทำเพื่อเรา ซึ่งการแพลนเที่ยว ณ ตอนนี้นอกจากจะต้องหารีวิว เลือกโลเคชั่นอย่างละเอียดแล้ว เราต้องหาสถานที่ที่ปลอดภัยจากโควิดให้มากที่สุด ซึ่งเรามีทริคง่าย ๆ แค่สังเกตสัญลักษณ์ SHA โครงการที่จัดขึ้นเพื่อป้องกันและควบคุมโรคโควิดโดยเฉพาะ เป็นการร่วมมือกันของหน่วยงานภาครัฐ สร้างมาตรฐานให้แก่กิจการการท่องที่ยวให้เราเที่ยวได้อย่างอุ่นใจ และรีวิวครั้งนี้ทุกที่ได้รับมาตรฐาน SHA ทั้งสิ้นจะบอกว่าทั้งคุณภาพสินค้าและความสะอาดทำได้ดีมาก..
รับรองเลยว่าทริป 3 วัน 2 คืนนอกจากจะได้ฟอกปอดกับอากาศบริสุทธิ์ในอ้อมกอดขุนเขาแล้ว ยังเที่ยวได้ปลอดภัยห่างไกลโรคโควิดแน่นอน
ก่อนจะออกเดินทางเราขออธิบายคร่าว ๆ เกี่ยวกับโครงการนี้ก่อน SHA (Amazing Thailand Safety & Health Administration) ชื่อเต็มในภาษาไทยว่า “โครงการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย” เป็นการร่วมมือระหว่างททท. / กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา / กรมควบคุมโรค / กรมอนามัย / กรมสนับสนุนบริการสุภาพ / กระทรวงสาธารณสุข ฯลฯ โดยนำมาตรการความปลอดภัยด้านอนามัยมารวมกับการบริการด้านท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว โดยเขาจะแบ่งกิจการออกเป็น 10 หมวดคือ 1. ภัตตาคาร/ร้านอาหาร 2. โรงแรม/ที่พัก และสถานที่จัดประชุม 3. นันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยว 4. ยานพาหนะ 5. บริษัทนำเที่ยว 6. สุขภาพและความงาม 7. ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า 8. กีฬาเพื่อการท่องเที่ยว 9. โรงละคร โรงมหรสพและการจัดกิจกรรม และ 10. ร้านค้าของที่ระลึกและร้านค้าอื่นๆ
หากกิจการใดไม่สามารถรักษามาตรฐานได้ตามที่ SHA กำหนดก็สามารถถูกเพิกถอนตราสัญลักษณ์ได้ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นกิจการที่ได้ตราไปแล้วเขาก็มีการตรวจสอบกันอยู่เรื่อย ๆ นะจ๊ะ เราก็สบายใจไปอีกหนึ่งเปราะ!
ถ้าอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติมก็ไปดูได้ที่ https://thailandsha.tourismthailand.org กันเลยจ้า
ได้เวลาฟอกปอด ออดอ้อนธรรมชาติกับโลเคชั่นแมส ๆ
สถานที่ : หมู่บ้านแม่กำปอง
พิกัด : goo.gl/maps/C75krRoMtjnyQXA46
หาอาหารชั้นเลิศ กับบริการชั้นเยี่ยมจัดเสิร์ฟในจานสวยจนเพื่อน ๆ ร้องว้าว..
สถานที่ : บ้านลันได BAAN Landai Fine Thai Cuisine
พิกัด : g.page/Baanlandai?share
พร่ำเพ้อกับบรรยากาศชวนฝัน หลงใหลในสายหมอกยามเช้า
สถานที่ : สวนป่าดอยบ่อหลวง
พิกัด : goo.gl/maps/oKXyXAT5EMxbQ6rT7
Day1
001 วัดโลกโมฬี
เมื่อถึงตัวเมืองเชียงใหม่ก่อนออกเดินทางเข้าป่าล่าสายหมอก เราขอมาไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัย ให้ปลอดภัยตลอดทริปกันที่วัดโลกโมฬี วัดทรงล้านนาอยู่คู่บ้านคู่เมืองนี้มากว่า 500 ปี นอกจากจะเป็นที่สืบสานพุทธศานาตั้งแต่สมัยพระเจ้านากือแล้วในสมัยนั้นยังเป็นที่ต้อนรับพระราชอาคันตุกะจากต่างเมืองด้วย
พิกัด : goo.gl/maps/PwMsa6wNZHnci3aH6
ภายในวัดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เรากราบไว้หลายจุด ที่โดดเด่นสุดก็คงจะเป็นพระวิหารที่ทำจากไม้สักศิลปะล้านนาสีน้ำตาลเข้ม-ดำน่าเกรงขาม มีงานสลักวิจิตรบรรจงจากเงินและติดกระจกวาววับขับกับความเข้มของพื้นผิวได้อย่างลงตัว ภายในเป็นที่ประดิษฐานของ “พระพุทธสันติจิรบรมโลกนาถ” โดยมีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุไว้ในพระเมาลี(มวยผม)
002 บ้านลันได BAAN Landai Fine Thai Cuisine
ไหว้พระจนอิ่มอมอิ่มใจกันแล้ว ก็ต้องมาหาอะไรเติมเต็มเพื่อความอิ่มท้องบ้าง มื้อแรกของทริปนี้เราขอฝากชีวิตไว้กับร้านอาหารฟิวชั่นที่ผสมผสานระหว่างอาหารพื้นเมืองไทใหญ่กับอาหารไทยและเทศ ทำให้รสชาติของอาหารที่ร้านโดดเด่นไม่เหมือนใคร ตัวร้านเป็นบ้านตึกแถวเพดานสูงตกแต่งได้อย่างสวยงามด้วยการเน้นสีขาวสว่างสะอาดตา แต่งแต้มด้วยต้นไม้และกรอบรูปสวยงาม ที่สำคัญที่นี่มีสัญลักษณ์ SHA ด้วย
FB : บ้านลันได BAAN Landai Fine Thai Cuisine, Chiangmai Thailand
พิกัด : g.page/Baanlandai?share
จากที่สังเกตที่ร้านมีการจัดวางโต๊ะไว้ห่างกันพอสมควร พนักงานทุกคนใส่แมสตลอดเวลา และมีการสแกนเช็คอิน ตรวจวัดอุณภูมิ เจลล้างมือก่อนเข้าร้านไว้ครบ ! ปลอดภัยมั่นใจได้ เรียกได้ว่าผ่านมาตรฐานได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว
ความดีงามของอาหารที่นี่ต้องยกนิ้วให้บอกว่าเยี่ยมจริง ๆ เยี่ยมจริง ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยวัตถุดิบเครื่องปรุงของชาวไทใหญ่แตกต่างจากทั่วไป ใส่ใจตั้งแต่วัตุดิบยันหน้าตาการจัดเสริ์ฟ ไม่เสียแรงที่ตามลิสมาจากมิชลินไกด์ ใครตามมารับรองเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
ถ้าถามว่าอะไรน่าสั่งบ้าง.. จากมื้อนี้ที่ลองเรามา 9 อย่างบอกเลยว่าอร่อยทุ้กกกกอย่าง แต่ที่พลาดไม่ได้เลยคือ
-แตงโมปลาแห้งของว่างแบบชาววังที่หาทานได้ยากมาก เป็นของกินเล่นแก้หิวแบบชื่นใจไป1
-ต่อด้วยเมี่ยงคำดอกไม้ ออเดิร์ฟสวย ๆ ของสาวสวยแบบเรา เป็นเมี่ยงบนกลีบดอกบัว รสหวานเปรี้ยวเรียกน้ำย่อยได้อย่างกลมกล่อม
-ยำส้มโอพริกเผากุ้งสด ใครไม่เคยลองยำส้มโอมาลองที่นี่ รับรองว่าครั้งต่อไปถ้าเจอเมนูนี้ที่ร้านไหนจะต้องติดใจสั่งมาอีกแน่นอน
-ซี่โครงอบซอสไวน์แดง เมนูนี้ทำให้เราและโต๊ะข้าง ๆ ถึงกับต้องประสานเสียงพร้อมกันว่า อร่อยมากกกกก
-สันคอหมูพะโล้ต้มยำ เมนูซิกเนเจอร์ที่รสชาติไม่เหมือนที่อื่นด้วยการทำน้ำพะโล้ที่มีรสชาติต้มยำเข้ากันได้ดี
-ผัดหมี่โบราณกุ้งทอดคลุกซอสมะขามเสิร์ฟครอบใบตองทรงเจดีย์มาเลยค่ะคุณ เลิศปังมากซอสมะขามหวานหอมเข้าเส้นเติมพริกไปอีกนิดคือฟินสุด
– ข้าวผัดปูก้อน อยากจะตั้งชื่อเมนูให้ใหม่เป็นปูก้อนผัดข้าวให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยแม่
-หมี่หุ้นแกงปูใบชะพลูนี่คือยกให้เป็นที่สุดใครว่าเมนูนี้จะมีดี ๆแค่ที่ทางใต้ เราขอเถียงค่ะ เพราะที่นี่ก็ไม่มีแพ้ใคร
-ตบท้ายด้วยห่อหมกปลาแซลม่อนที่เป็นเมนูสเปเชี่ยลของวันนี้ เครื่องแกงคือดี จัดจ้านถึงใจ เข้ากับเนื้อปลาได้แบบลงตัว
การันตีแบบเอาหัวเป็นประกันเลยสำหรับเรื่องอาหาร การจัดจาน ความสะอาด รสชาตินั้น 10 10 10
อิ่มกับของคาวแล้วก็ต้องมาต่อที่ของหวาน ซึ่งทางเราก็สั่งมาแบบจัดเต็มเหมือนชีวิตนี้จะไม่กินอะไรอีกแล้ว ทั้งไอติมมะม่วง สาคูแท้มันม่วง เปียกปูนกะทิสดมะพร้าวอ่อน พุดดิ้งมะพร้าวอ่อนไอติมกะทิ ตัดดับชาดอกไม้รวมหอม ๆ ก็คือดีย์ ขนมที่มีส่วนผสมของกะทิจากทางร้านเรียกได้ว่าสด แตกมันได้เนื้อเนียนกลมกล่อม สายกินคนไหนมาเชียงใหม่แล้วไม่ได้มาแม่บอกเลยว่าพลาด!!
003 ที่พักสวนป่าดอยบ่อหลวง องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
เติมพลังด้วยอาหารแบบจัดเต็มกันพร้อมเดินทางไกลมายังที่พักสุดป๊อปที่ขึ้นท๊อปสำหรับคนไทย ต้องจองกันข้ามเดือนข้ามปีกันเลยทีเดียว เพราะในสวยป่าดอยบ่อหลวงแห่งนี้เป็นแหล่งปลูกและวิจัยพันธุ์ไม้สน ทำมานานแล้วหลายสิบปี ทำให้เหล่าน้องสนขึ้นสูงใหญ่สวยงามอย่างที่เห็น บวกกับทางศูนย์สร้างที่พักเป็นบ้านไม้ตรงยุโรปเล็ก ๆ ไว้ตรงกลาง คล้ายบ้านพักกลางป่าเมืองหนาว เวลาถ่ายรูปลงไอจีแต่ละทีคนก็นึกว่าเราไปเที่ยวต่างประเทศตลอด ไม่ปังตรงไหนเอาปากกามาวง
FB : สวนป่าดอยบ่อหลวง องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ Doi Bo Luang FIO
พิกัด : goo.gl/maps/42zEddUFPD1SnmvP9
ซึ่งที่นี่ก็ได้เข้าร่วมโครงการ SHA เช่นกันตั้งแต่หน้ารีเซฟชั่น วาง QR สแกนเช็คอิน ที่ล้างมือแอลกอล์ฮอล ที่กั้นระหว่างลูกค้าและพนักงาน ในทุกสัปดาห์ทางที่พักจะพ่นยาฆ่าเชื้อทุกห้องพัก และเปลี่ยนเครื่องนอนของใช้ส่วนตัวทุกวันด้วย
พักของสวนป่าดอยบ่อหลวงมีทั้งหมด 5 แบบ รับจองทางโทรศัพท์เท่านั้น
– บ้านเอเฟรม เป็นบ้านทรงเอที่ได้รับความนิยมที่สุดเต็มตลอดต้องจองกันแต่เนิ้น ๆ สามารถเข้าพักได้ 4 คน ราคา 1,500 บาท
– บ้านทิวสน บ้านสองชั้นทรงเก๋เข้าพักได้ 2 คน ราคา 1,000 บาท
– บ้านแฝด เป็นบ้านสองหลังมีระเบียงเชื่อมกัน เข้าพักหลังละ 2 คนราคา 800 บาท
– บ้านปูนเปลือย มีพื้นที่ใหญ่หน่อยเหมาะสำหรับครอบครัว เข้าพักได้ 4 คนราคา 2,000 บาท
– ตึกป่าสน ห้องพักบนตึกเข้าพักได้ 2 คน ราคา 500 บาท
และห้องของเราในทริปนี้เป็นบ้านปูนเปลือย มี 2 ชั้น 2 ห้องนอน กว้างขวาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ
เก็บของเสร็จก็ออกมาเดินเล่นสูดอากาศชื้นหมอกให้เต็มปอด จากนั้นก็มานั่งล้อมวงหมูกระทะอันเป็นกิจกรรมที่ต้องอยู่ในทุกทริป กินทุกคืนก็ไม่เบื่อ จนรู้สึกว่าหมูกระทะแทบจะเป็นอาหารประจำชาติไปแล้ว ก็มันคู่ควรกับการพักผ่อนที่สุดอะเนอะ
ที่นี่มีโรงอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย ซึ่งมื้อเย็นนั้นสามารถสั่งหมูกระทะและอาหารอื่น ๆ ไว้ล่วงหน้าได้ หรือจะไปสั่งตอนทานที่โรงอาหารเลยก็ได้ แต่สำหรับมื้อเช้าจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ หากต้องการอาหารเช้าต้องจองล่วงหน้า จ่ายคนละ 100 บาท ก้จะได้คูปองมาคนละใบสำหรับมื้อเช้าด้วย
อิ่มแปร้จนหลับสบายไปทั้งคืน ตื่นเช้ามาอย่างสดใสเพื่อมาเจอแสงนัวคละคลุ้งไปด้วยหมอก ทำให้ภาพป่าสนเบื้องหน้าค่อย ๆ ฟุ้งขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนอยู่ต่างประเทศยังไงอย่างงั้น เดินถ่ายรูปตั้งแต่ 6 โมงยัน 8 โมงยังไม่เหนื่อยเลยอากาศดีม๊าก ถ่ายกันไปเรื่อย ๆ จนถึงเวลาทานอาหารเช้ากันไปเลย
DAY2
004 ชมคาเฟ่
ออกมาจากที่พักเราก็รีบขับตรงเข้าเมืองอีกครั้ง และเลี้ยวเข้าร้านที่เรารักอีกร้านที่เป็นทั้งคาเฟ่และร้านอาหารเหมาะทานกับทั้งครอบครัว เพื่อนฝูง และเพื่อนที่ทำงาน จะบอกว่าทุกครั้งที่มาเชียงใหม่ เราจะพาทุกคนมาหย่อนใจ ฝากท้องฝากชีวิตไว้ที่นี่ทุกครั้ง เพราะทางร้านจัดสัดส่วนได้อย่างดีสวยงามมาก ก่อนถึงตัวร้านเขาให้เราเดินลัดเลาะเข้าไปตามสวนสวยดั่งป่าในจินตนาการ บ่อเลี้ยงปลารูปทรงเหมือนลำธาร มีน้ำตกจำลองไอน้ำฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ สวยจนต้องตบเรียกสติเพื่อนให้เข้าไปกินข้าวก่อนค่อยออกมาถ่ายรูปกัน
FB : Chom Cafe and Restaurant
พิกัด : g.page/chomcafeandrestaurant?share
โซนของร้านอาหารจะเป็นอาคารติดแอร์ 2 หลัง ภายในตกแต่งเรียบง่าย แบ่งช่องจัดโต๊ะเป็นระเบียบสามารถจัดโซนสำหรับจัดเลี้ยงคนเยอะ ๆ ได้ อาหารมีให้เลือกทั้งคาว หวานและเครื่องดื่ม ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารไทยฟิวชั่น-อาหารเพื่อสุขภาพ รสชาตินี่ก็จัดจ้านถูกปากคนไทย เป็นอีกร้านที่อยู่ในโครงการ SHA เราเห็นเวลาพนักงานเขาเก็บโต๊ะจะฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อทุกครั้งเลย
005 วัดอุโมงค์
วัดดังประจำเมืองที่มีความเท่คูลไม่เหมือนใคร เต็มไปด้วยมนต์ขลัง และความน่าค้นหาเนื่องจากกำแพงวัดนั้นถูกสร้างให้เป็นลักษณะอุโมงค์ เพื่อเป็นที่วิปัสสนากรรมฐานตั้งแต่สมัยพญานากือ ด้านบนจะเป็นที่ประดิษฐานของเจดีย์ทรงล้านนาอายุ 700 ปี ผ่านกาลเวลามานาวนานจนรอบ ๆ กำแพงถูกปกคลุมไปด้วยมอสสีเขียวสร้างบรรยากาศใช้เย็นชื้น พร้อมต้นไม้สูงใหญ่ให้ร่มเงา แม้มาในช่วงกลางวันก็ไม่รู้สึกร้อนเลยสักนิด
พิกัด : goo.gl/maps/Rnf9CDfyUcGJ7oSy8
006 No.39 Cafe
คาเฟ่สุดสงบที่อยู่ห่างจากวัดอุโมงค์เพียง 1 กม.เป็นร้านค่อนข้างมีบริเวณ กลางสวนร่มรื่นก็จะมีบ้านไม้เล็ก ๆ 2 ชั้น มีสระน้ำกลม ๆ อยู่ด้านหน้า ซึ่งตรงนี้ก็คือมุมถ่ายภาพเช็คอินที่ใคร ๆ มาก็ต้องมารอต่อแถวขอนั่งห้อยขาถ่ายรูปเก็บไว้ลงโซเชียลกันแทบทุกคน เมนูของทางร้านก็มีทั้งขนมและเครื่องดื่ม เสิร์ฟในแก้วทรงคิ้วท์ส่วนหน้าจาขนมก็มินิมอลมาก ๆ
FB : No.39
พิกัด : goo.gl/maps/ns1jxxipxaKo55o8A
ร้านนี้ผ่านมาตรฐาน SHA มีตรวจวัดอุณหภูมิ เจลล้างมือ และจัดวางโต๊ะกระจายไปทั่วบริเวณเลยจ้ารักษาระยะห่างกันขั้นสุด เพราะนอกจากบ้านไม้สองชั้นแล้วเขาก็ยังมีโซนอินดอร์ ทรงเรือนกระจกนั่งจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ มองบรรยากาศชิล ๆ โซนศาลาริมน้ำให้นอนอ่านหนังสือได้อย่างสบายใจ
007 Fah Lanna Spa
เที่ยวมาก็เยอะ กินมาก็แยะ จึงต้องขอแวะเข้าสปานวดตัวคลายเส้นให้ฟินทั้งร่างก่อนจะไปเที่ยวกันต่อ อย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้นว่า SHA เขาครอบคลุมกิจการท่องเที่ยวถึง 10 หมวดนอกจากที่พัก ร้านอาหารแล้วเราก็ได้แพลนสปาสวย ๆ มาอีกหนึ่งกรุบ ที่สปาระดับพรีเมี่ยม “ฟ้าล้านนาสปา” มีโปรแกรมให้เลือกหลากหลาย เราชอบบรรยากาศตั้งแต่เดินเข้ามาพบกับแมกไม้นานาชนิด มีเสียงน้ำไหลแว่วมาตลอด พร้อมกลิ่นอโรมาสมุนไพรไทยหอม ๆ ลอยแตะจมูกให้รู้สึกผ่อนคลาย
FB : Fah Lanna Spa
พิกัด : https://g.page/fahlannaspa-old-city?share
การตกแต่งของที่นี่จะเน้นใช้ของพื้นมือง มีให้เลือกทั้งสปาหลากหลายโปรแกรม นวดไทย นวดน้ำมัน ตอกเส้น นวดประคบ ทรีตเม้นผิวและหน้า แว็กจุดต่าง ๆ เรียกว่าเป็นสวรรค์ของคนชอบนวด รักสวยรักงาม ราคาก็ไม่แรงด้วยลองเข้าไปดูได้ที่เพจเลย
ก่อนนวดมี Welcome Drink หลังนวดมีน้ำขิงร้อน ๆ ให้เลือดลมไหวเวียนและขนมพื้นเมืองมาให้รองท้อง บริการทุกระดับประทับใจจริง ๆ
008 The Inside House
และสำหรับคืนที่สอง เราก็จองที่พักสุดต๊าชใจกลางเมืองเชียงใหม่ที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัวมากถึง 12 ห้อง และห้องนอนพร้อมอ่างอาบน้ำกึ่งกลางแจ้งอีก 16 ห้อง พร้อมสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียล เน้นสีขาวสะท้อนกับแสงแดดแล้วยิ่งดูสว่างสดใส รายละเอียดการออกแบบผสมระหว่างตะวันตกและลายฉลุล้านนามีความปราณีตสวยงาม ทุกห้องตกแต่งอย่างสวยหรู โทนสีเรียบง่ายเข้ากับยุคสมัย
FB : The Inside House
พิกัด : goo.gl/maps/zSif8xt7yQsWG65S6
นอกจากสถานที่จะสุดปังแล้วที่นี่ก็ผ่านมาตรฐานของ SHA เช่นกัน มีการพ้นเสปรย์ฆ่าเชื้อในห้องพัก เช็ดทุกจุดสัมผัสในห้องด้วยแอลกอฮอล์ สระว่ายน้ำทำความสะอาดก่อนและหลังการเข้าพัก พนักงานใส่แมสตลอดเวลา พักผ่อนได้อย่างปลอดภัยจะเดินลัดเลาะไปถ่ายรูปจุดไหนของโรงแรมก็สบายใจหายห่วง ความจึ้งที่กระแทกตาเราตั้งแต่แรกเห็นคือทรงตึกสีขาวตัดสลับเขียวอ่อน ๆ ดูคลาสสิค ยามแสงตกกระทบก็จะเห็นเงาต้นไม้พาดบนตัวตึกพอดิบพอดี ถ่ายภาพมุมไหนก็สวย
ด้วยความห้าดาวของโรแรมบูติคแห่งนี้ เรื่องอาหารการกินก็ไม่ว่างเว้น เพราะเขามีร้านอาหาร “GRIN” เป็นอาหารฟิวชั่นผสานระหว่างอาหารเมืองกับอาหารตะวันตก ตอนเช้ามาเสิร์ฟอาหารเช้ากันในสระ กลางวันออเดอร์อาฟเตอร์นูนทีมาสวย ๆ แทบไม่ต้องออกไปเที่ยวไหนก็ฟินได้
DAY3
009 หมู่บ้านแม่กำปอง
วันสุดท้ายของทริปเราก็ขอวิ่งเข้าสู่อ้อมกอดธรรมชาติเป็นการส่งท้าย ที่หมู่บ้านสุดแมส แต่ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง “แม่กำปอง” หมู่บ้านกลางหุบเขาที่มีโครงสร้างชุมชนที่แข็งแรง ดูแลการท่องเที่ยวควบคุมเรื่องระบบกันเอง ทำให้เราได้พบกับกิมมิกน่ารัก ๆ ของหมู่บ้านไม่ว่าจะเป็นการออกกฎห้ามส่งเสียงดังประกาศตามเครื่องขยายเสียงหมู่บ้านยามเย็น ที่พักโฮมสเตย์มีมาตรฐานชั้นเยี่ยม มีอาหารแบบพื้นเมืองให้ทั้งเช้า-เย็น และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมายให้เราได้เยี่ยมเยือน อยากเที่ยวให้ครบต้องมาอยู่ตั้งแต่เช้ายันค่ำไปเลย
ถ้าถามเราว่าแลนด์มาร์กเช็คอินของแม่กำปองคือที่ไหนเราบอกเลยว่าไม่มี เพราะทุกจุดคือสิ่งที่ห้ามพลาดตั้งแต่เส้นถนนที่ตัดผ่านหมู่บ้าน ยามเย็นถูกเปลี่ยนให้เป็นถนนคนเดิน มีร้านค้าร้านอาหารของชาวบ้านมาเปิดอย่างคึกคัก วันนี้เราฝากท้องไว้ที่ร้าน ไส้อั่วแม่นิ่ม สารพัดอาหารเหนือแบบชาวบ๊านชาวบ้าน อร่อยแบบไม่ประดิษฐ์ ฟีลโลคอลสุด ๆ กินเสร็จก็พากินเดินไปถ่ายรูปเล่นกันต่อ
ร้านกาแฟลุงปุ๊ดป้าเป็งก็เป็นอีกหนึ่งจุดยอดฮิตที่หากใครมาถึงแม่กำปองก็ต้องมีภาพคู่บ้านหลังนี้
มาเรื่อย ๆ เราก็จะเจอกับวัดคันธาพฤกษา หรือที่รู้จักกันในชื่อวัดแม่กำปอง ที่อยู่คู่หมู่บ้านนี้มานานกว่า 90 ปี ตัววิหารทำจากไม้สักทองออกแบบเป็นทรงล้านนา มีสวดลายการแกะสลักสวยงามเป็นเอกลักษณ์ และอีกหนึ่งสิ่งที่ถือเป็น UNSEEN เลยคือโบสถ์กลางน้ำ ที่ตั้งอยู่กลางลำธารแม่กำปอง เพราะต้องการสร้างตามพุทธหลักการที่ต้องมีน้ำล้อมรอบอุโบสถกแทนใบเสมาเพื่อทำพิธีทางศาสนานั่นเอง
เราเดินขึ้นเขาต่อเพื่อไปชมวิวหมู่บ้านมุมสูงในร้านกาแฟ ถือเป็นจุดชมวิวยอดนิยมซึ่งมีให้เลือกหลายร้าน เหมาะสุดคือช่วงพระอาทิตย์ตกดิน จากนั่นค่อยเดินกลับลงมาเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศยามพลบค่ำของแม่กำปอง ที่เริ่มเปิดไฟส้มละมุนไปทั่วหมู่บ้านอีกสักรอบ
ถ้าใครเป็นสายเดินป่าลุย ๆ ความจริงเขามีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้เราเข้าไปชมน้ำตก สะพานแขวน และต้นไม้ยักษ์แหล่งกำเนิดของลำธารแม่กำปองด้วยนะ สามารถติดต่อหาไกด์ได้จากชาวบ้านเลย
รู้ตัวอีกทีก็หมดวันหยุดดี ๆ ไปอีกแล้ว ความจริงการท่องเที่ยวในยุคนิวนอร์มอลมันก็อาจจะทำให้เราเป็นกังวลอยู่บ้าง แต่ถ้าเราได้เจอกับตัวเลือกที่ดี การดูแลที่ดีตามมาตรฐานอนามัย มันก็คงจะช่วยให้เรามั่นใจขึ้นอีกเยอะ ใครกำลังจะเดินทางก็ลองหาบริการที่มีเครื่องหมาย SHA ดูนะ สามารถไปดูร้านที่เข้าร่วมได้ใน https://thailandsha.tourismthailand.org เขารวมรวบกิจการจากทั่วประเทศไว้ให้แล้ว เชื่อว่ามันดีสำหรับเพื่อน ๆ และผู้ร่วมทริปแน่นอน
ด้วยรัก
บันทึกคนขี้เที่ยว