ถึงเวลาเพิ่มความทรงจำใหม่ด้วยการมานอนโดมใสแบบอิ่มหัวใจท่ามกลางลมหนาวและแสงดาวบนยอดดอยที่ BubbleSky Glamping Chiangmai อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จูงมือแฟน ลากเพื่อนมาเปิดประสบการณ์รับความประทับใจกลับไปแบบเปรมปรี เพราะความแสนดีของที่นี่เริ่มตั้งแต่เข้ามายันบอกลากันไปเลย ไม่ว่าจะเป็นห้องพักแบบโดมใสนั่งตรงไหนก็ได้ภาพปังแล้วยังมีบรรยากาศดี ๆ ให้ลงสตอรี่เป็นจุดไข่ปลา พ่วงมากับเซ็ตชา Morning Tea อาหารเช้าวิวดี ๆ ใกล้ชิดสายหมอก หรือหมูกระทะยามเย็นที่ขอบอกเลยว่าจัดเต็มให้นอนหลับสบาย จะรอช้ากันทำไม หน้าหนาวนี้ต้องมีทริปดี ๆ แล้วนะจะบอกให้ รีบตามไปจองตามรอยเรากันเร็ว ๆ เลย
ข้อมูลเพิ่มเติม
FB : BubbleSky Glamping Chiangmai บับเบิ้ลสกาย แกลมปิ้ง เชียงใหม่
Tel : 092-6248014
พิกัด : goo.gl/maps/KGQBkpfSCWCifnpq5
สำหรับราคาที่พัก 1 คืนของที่นี่ ปกติจะอยู่ที่ 4,500 บาท แต่สำหรับโปรโมชั่นเดือนตุลาคม จ่ายเพียง 2,990 บาทเท่านั้น!!
ซึ่งแม้ว่าจะจ่ายด้วยราคาเต็มเราว่าก็คุ้มมากนะสำหรับการพัก 1 คืน 2 ท่าน รวมอาหารเช้าแบบจัดเต็ม หมูกระทะมื้อเย็นแบบโคตรอิ่ม ชุด Morning Tea ชาดอกไม้และคุกกี้ยามเช้า พร้อมกับการบริการที่สุดประทับใจอยากได้อะไรทาง BubbleSky เค้าก็หามาให้ เอาใจเราสุด ๆ ทั้งสวยทั้งคุ้มแบบนี้ ไม่รีบจองตอนนี้แล้วจะจองตอนไหน
**โปรโมชั่นใช้ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ต.ค. 2021**
ที่นี่มีห้องพักแบบโดมใสั้งหมด 8 หลังด้วยกัน ซึ่งทุกหลังอยู่ห่างกันให้ความเป็นส่วนตัว มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ พร้อมด้วย อ่างอาบน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่น แอร์ ไฟฟ้า ปลั๊กสามตา ซึ่งทุกการจองจะรวมบริการอาหารเช้า อาหารเย็น(หมูกระทะ) และ Morning Tea ชาดอกไม้เกร๋ ๆ ไว้นั่งจิบฟิน ๆ ดูหมอกด้วย
มาตรการการเดินทางเข้าสู้จังหวัดเชียงใหม่ สามารถทำได้ด้วยการแสกน QR Code เพื่อกรอกข้อมูลใน CM Chana และคัดกรองตามระบบ ซึ่งผู้ที่สามารถเดินทางเข้าจังหวัดเชียงใหม่ได้ ได้แก่
ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ ตามที่ทางศบค.กำหนด
– Sinovac จำนวน 2 เข็ม
– Sino Pharm จำนวน 2 เข็ม
– Sinovac+ AstraZeneca จำนวน 2 เข็ม
– Johnson & Johnson และ AstraZeneca จะต้องฉีดเข็มแรกแล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน
– Moderna จำนวน 2 เข็ม
– Pfizer จำนวน 2 เข็ม
– Sputnik V จำนวน 2 เข็ม
หากเป็นกรณีผู้ที่เคยติดโควิดมาแล้ว “ไม่เกิน 3 เดือนนับจากการรักษาสิ้นสุด” สามารถใช้ใบรับรองแพทย์ที่ระบุว่าเคยติดเชื้อมานำมาแสดงได้
และหากยังไม่ได้รับวัคซีนก็สามารถใช้ผลการตรวจมายืนยันได้เช่นกัน ที่สนามบินเชียงใหม่ก็มีเคาเตอร์สำหรับ swab ฟรีด้วย หรือถ้าไม่อยาก swab สามารถแสดงหลักฐานการตรวจโควิด-19 แบบ Antigen Test Kit (ATK) ไม่เกิน 72 ชม. (ที่มีผลตรวจออกมาเป็นลบ) ง่ายมากเลยใช่มั๊ยล่ะ
แม้ว่าห้องทุกห้องจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนกัน แปลนห้องเหมือนกัน แต่ทำเลและที่ตั้งจะต่างกันออกไป สำหรับห้องของเราในทริปนี้คือ แคมป์ 1 ซึ่งอยู่สูงที่สุด มุมที่สุด หากอยากได้ห้องวิวสูงก็แนะนำให้จอง 1-3 ข้อดีคือจะได้วิวกว้าง ๆ กันไปเลย แต่ถ้าอยากได้ห้องใกล้ ๆ เปลและวิวสวนดอกไม้แนะนำให้เลือกแคมป์ 4-6 หรือหากอยากปลีกวิเวก ไม่ได้สนใจวิวอะไรมาก ก็ 7-8 ไปเลย แต่ยังไงๆ สำหรับเราก็รู้สึกว่า ทุกห้องก็วิวดีไม่ต่างกันนะ ห้องไหนก็สวย และไม่ต้องกลัวว่าห้องเป็นโดมใสแล้วจะไม่ส่วนตัว จากการที่อยู่แคมป์สูงสุดนั้นบอกเลยว่า ไม่สามารถมองเห็นห้องอื่นได้แบบชัดเจนแน่นอน
ในส่วนของบรรรยากาศโดยรอบ ก็จึ้งก็ต๊าซเอาเรื่องเลยล่ะ เพราะพื้นที่กว้างขวาง แต่มีห้องพักแค่ 8 ห้องเท่านั้น จึงทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด อีกทั้งการจัดสวนให้เสมือนเราได้อยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้และทุ่งหญ้ายิ่งทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหนก็ถ่ายรูปสวยทุกเวลา
แสงยามเย็นก็คือต๊าซมากกกกกกกกกกกกกก
ยามเช้าก็จะให้ฟิลชื้น ๆ สดชื่นแบบนี้
ภายในโดมก็คือสวยและได้ฟิลที่แปลกจากการไปพักที่อื่น ๆ แล้วไใ่ต้องห่วงเรื่องนอนไม่สบายเลยเพราะว่าเตียงเค้านุ่มและกว้างมากกกกกกก พวกพร๊อพในห้องก็สวยเก๋ลงตัว
สิ่งที่เราชอบมากก็คือ มาที่นี่ไม่ใช่แค่มานอนแล้วกลับเท่านั้น เพราะรอบ ๆ ที่พักเค้าจัดสวนจัดซุ้มให้ได้ถ่ายรูปแทบทุกมุม เดินสามกห้าวแวะถ่ายภาพ 30 ช็อต จนเมมเต็ม จนได้ภาพมาอวดมาโพสต์ให้เพื่อนอิจฉาเล่นเต็มคลัง
มุมโปรดอีกหนึ่งของเราคือชิงช้า มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเราคือเจ้าหญิง นั่งไกวตัวไปมา น่ารักน่าชัง
วิวสวย ๆ อยู่ตรงหน้าเราแบบนี้ไง
เดินเล่นในซุ้ม ถ่ายรูปคู่ชิงช้าเสร็จแล้ว ก็ไม่ลืมที่จะลงไปถ่ายภาพสวย ๆ คู่กับดอกไม้ให้สมใจเสียหน่อย ที่ BubbleSky เค้ามีโซนสวนดอกไม้ให้เราไปเดินเล่น แชะภาพ แบบส่วนตั๊วส่วนตัวกันด้วยน้า
อากาศเริ่มเย็น พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า เรามายืนชมวิวบนดาดฟ้า รับลมเย็น ๆ มันฟินสุด ๆ ไปเลย
มาพักผ่อนแบบนี้ มันคงไม่มีอะไรฟินไปกว่าการนั่งปิ้งหมูกระทะยามเย็นอีกแล้วล่ะ
จบมื้อเย็นไปพร้อมกับแสงตะวันของวันนี้ เงยหน้าจากเตามาอีกทีก็ค่ำแล้ว บรรยากาศตอนนี้แตกต่างจากช่วงเย็นอย่างชัดเจน ทุกอย่างมืดลง ดาวเริ่มชัดขึ้น อากาศเย็นไปค่อนถึงหนาว มันคนละฟีลกับตอนกลางวันแต่ก็ดีไม่แพ้กันเลย
ต้องยอมรับว่าแสงสีส้มของโดมมันสร้างความรู้สึกอบอุ่นและโรแมนติกได้ขึ้นมากเลย
ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืนแล้ว ก็ต้องตื่นมาสูดไอหมอกยามเช้าให้เต็มปอดด้วย ยามเช้าของที่นี่ชุ่มฉ่ำไม่ต่างจากบนดอยที่อื่น ๆ เลยนะจะบอกให้
แสงยามเช้ากับไอน้ำที่ลอยมาเกาะโดม มันบอกให้รู้เลยว่าข้างนอกอากาศดีแค่ไหน
จัดหนักจัดเต็มแชะภาพบรรยากาศยามเช้ากับโดมใสจนพอใจแล้ว เราก็เดินมาที่ห้องอาหาร เพื่อทานอาหารเช้า ซึ่งที่นี่จัดอาหารเช้าให้แบบเต็มที่มาก ทั้งกาแฟ น้ำผลไม้ สลัดผัก ข้าวต้มหมูกุ้ง อเมริกันเบรคฟาสต์ เซ็ตผลไม้ และขนมหวาน
จัดหนักจัดเต็มมากกกกกก
หลังจากอิ่มมื้อเช้าแล้ว ก็กลับมาจิบชาอุ่น ๆ ช่วยย่อยกันหน่อย มันฟินไม่ใช่น้อยเลยนะ ที่ได้มานั่งรินชาดอกไม้จากกาหอม ๆ พร้อมกับกัดคุกกี้เบา ๆ เข้าปากท่ามกลางบรรยากาศแบบนี้
แม้ว่าจะเริ่มสายแล้ว แต่หมอกก็ยังไม่หายไปไหน จะรอช้าอยู่ทำไม ถึงเวลาหยิบบิกินี่มาใส่แล้วตีฟองแช่น้ำกลางสายหมอกให้ได้รูปสัก 10-20 ช็อตพอกรุบกริบ
สีหน้าคนฟินมันก็ต้องแบบนี้แหละ
แม้จะสายแล้ว หมอกก็ยังมาไม่หยุด บางวันแม้จะบ่ายแล้ว หมอกยังฟูอยู่เลย
การมาพักผ่อนด้วยการลองประสบการณ์ใหม่ ลองนอนโดมใสแบบที่ไม่เคยมาก่อน นอกจากจะทำให้เราตื่นเต้น อดรีนาลีนพุ่งพล่านแล้ว ยังเพิ่มความสุขและความทรงจำได้อีกมากมาย อย่างน้อยก็ไปพูดได้ว่าครั้งหนึ่งเราเคยไปลองนอนโดมใส บอกใคร ๆ ว่ามันดีแค่ไหน ทำไมถึงต้องลองได้อีกยาว ๆ แถมด้วยภาพสวย ๆ ไว้ในคลังอีกเพียบ แล้วที่สำคัญ สิ่งที่เราได้กลับมา ไม่ใช่แค่ความสุขหรือประสบการณ์แต่ยังเป็นความประทับใจจากการบริการที่สุดแสนจะเปผ็นเลิศของที่นี่อีกด้วย
ด้วยรัก
บันทึกคนขี้เที่ยว
