ถึงเวลาที่เราจะพาตะลุยเมืองหอยใหญ่ ไปเช็คอิน 15 พิกัดเด็ด ทั้งกิน ทั้งเที่ยวแบบม้วนเดียวจบครบทุกรสชาติ ณ สุราษฎร์ธานี คราวนี้เราเก็บทั้งในเมืองและใกล้เคียงมาจัดเรียงให้ทุกคนได้ชมกันแบบ 3 วัน 2 คืน หลับแบบเต็มตื่น กินเที่ยวให้เต็มที่ แล้วมีรูปสวยมุมดีกลับไปโพสต์โซเชี่ยลแบบมาทริปเดียวลงได้ทั้งปี ถ้าพร้อมออกเดินทางไปกับเราทุกที่ก็ตามมาอ่านด้านในกันเลย
ไฮไลท์
สถานที่ : บ้านก๋วยเตี๋ยวซีฟู๊ด by ป้าทิ้ง
พิกัด : goo.gl/maps/raap7ua2oJbKSRKE6
ไฮไลท์
สถานที่ : สะพานศรีตาปี
พิกัด : goo.gl/maps/8AU2Hj6AoPbmxotRA
ไฮไลท์
สถานที่ : สะพานศรีสุราษฎร์
พิกัด : goo.gl/maps/KKiwT9KP2cXFKWr28
Day 1
การเดินทาง
บินมาถึงสุราษฎร์ปุ๊ป เราก็ไม่รอช้า เดินทางที่เคาน์เตอร์บริการของ Phantip ทันที เพราะทริปนี้เราจองที่นั่งในรถมินิบัสจากสนามบินเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ และใช้บริการรถตู้พร้อมคนขับเที่ยวตลอดทั้ง 2 วันในทริปนี้ ซึ่งจริง ๆ แล้วเนี่ยทาง Phantip เค้ามีรถให้บริการหลากหลายประเภทรองรับทุกเที่ยวบิน ที่ลงจอดภายในท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานีเลยนะ
FB : Phantip Travel
Tel : 093 582 3617
Web : www.phantiptravel.com
001 Common – Activity & Art Space
เข้ามาในเมืองเรียบร้อย ร่างกายเราก็แอบเตือนว่าต้องเอาคาเฟอีนเข้าเส้นเลือดสักหน่อย จากการทำการบ้านหาข้อมูลมาร้านนี้กาแฟดี แอคทิวิตี้เริ่ด เพราะที่นี่มีพื้นที่ติดแม่น้ำตาปีและมีลานกว้างทำให้สามารถเนรมิตกิจกรรมคูล ๆ อย่าง Sup board (Stand up paddle board) หรือว่าจะเป็นเซิร์ฟสเก็ต กีฬาทางน้ำและทางบกที่กำลังฮอตอยู่ตอนนี้ ซึ่งที่ร้านมีผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีไว้คอยดูแล จึงมั่นใจได้ว่า มาที่นี่จะไม่ได้สิ่งดี ๆ กลับไปแค่ขนมและเครื่องดื่ม แต่ยังได้ประสบการณ์และความประทับใจกลับบ้านไปเต็มกระเป๋ากันเลย
FB : Common – Activity & Art Space
พิกัด : g.page/commonthailand?share
บรรยากาศข้างนอกว่าดีแล้ว เข้ามาในร้านดีงามยิ่งกว่า ร้านเน้นสีขาวและปูนเปลือย มีต้นไม้ประดับอยู่บ้างพอให้สดชื่น ทุกโต๊ะวางไว้ห่างกันแบบมีระยะให้ความเป็นส่วนตัว มีมุมหลายมุมให้ถ่ายรูปได้แบบเพลิน ๆ
เมนูของเราวันนี้คือ เครื่องดื่มซิกเนอเจอร์ของที่นี่อย่าง ‘ตลาดล่าง’ แก้วนี้ ที่รสชาติอร่อยพอดี๊พอดี จิบพร้อมกับครัวซองต์หอม ๆ ที่ทางร้านมีพร้อมเสิร์ฟหลายรสชาติ
002 ตลาดบางใบไม้
จิบกาแฟกันจนพอใจแล้วเราจึงมุ่งหน้าไปจุดเช็คอินต่อไปที่ ‘ตลาดน้ำบางใบไม้’ ตลาดน้ำแห่งแรงของสุราษฎร์ธานี ที่นี่จัดตั้งขึ้นโดยความร่วมมือของชาวบ้าน บรรยากาศของตลาดอยู่ตามท้องร่องสวนมะพร้าว ป่าจาก ขนาบริมคลองในบาง ร่มรื่น เหมาะกับการพักผ่อน ภายในมีร้านค้ามากมายราคาน่ารักน่าซื้อ เดินเพลิน ๆ ชิมนั่นชิมนี่ โดยทั่วบริเวณจะมีซุ้มที่นั่งไว้นั่งทานอาหารได้ ตลาดเปิดวันอาทิตย์ เวลา 09.00 – 17.00 น.
FB : ตลาดน้ำประชารัฐบางใบไม้
พิกัด : goo.gl/maps/PzbySMVdbrAuay91
นอกจากจะมีร้านอาหารต่าง ๆ ไว้คอยให้บริการสามารถนั่งทานได้ ไม่ว่าจะเป็นขนมจีน ข้าวยำปักษ์ใต้ ข้าวแกงใต้ แล้ว ตลอดระยะเส้นทางเดินตลาด ยังมีของกินเยอะมากทั้งอาหารและขนมไทยพื้นเมือง และที่น่ารักมาก ๆ คือ ที่นี่ใช้วัสดุจากธรรมชาติมาเป็นภาชนะใส่อาหาร หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์แปรรูปในชุมชน เช่น น้ำส้มจาก น้ำผึ้งจาก น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น สบู่มะพร้าว ก็มีวางขายด้วย
เดินเพลิน นั่งเพลิน ทุกจุดของที่นี่คือเพลินสุด ๆ
เดินเล่นชิมนั่นชิมนี่แล้ว ก็ถึงเวลาล่องเรือชมวิวรอบ ๆ คลองร้อยสายชิว ๆ กันแล้ว เพราะที่นี่มีจุดบริการล่องเรือแจว ชมอุโมงค์ต้นจาก เพื่อชมวิถีชีวิตและความงามวิถีชีวิตริมน้ำ ในราคาเพียงคนละ 20 บาทเท่านั้น
003 สะพานศรีสุราษฎร์
แดดร่วมลมตก เราก็มาแวะที่แหล่งชมพระอาทิตย์ตกยอดฮิตของชาวสุราษฎร์ธานี มาถึงนี่ทั้งทีต้องห้ามพลาดยืนเหม่อ ๆ ชมวิวแม่น้ำตาปีตัดกับแสงสีส้มของยามเย็น ‘สะพานศรีสุราษฎร์’ เป็นสะพานคอนกรีตสร้างขนานกันอัดแรงรูปกล่อง ความยาว 2.56 กม. และถนนยาว 3.24 กม. ที่สำคัญสะพานแห่งนี้ครองตำแหน่งสะพานที่สูงที่สุดในภาคใต้ด้วยน้าาาา
พิกัด : goo.gl/maps/KKiwT9KP2cXFKWr28
วิวยามเย็นบนสะพาน มองเห็นถนนทอดยาว ตัดกับแม่น้ำตาปี บวกกับแสงสีส้มมันให้ฟิลโรแมนติกมาก ๆ เลยล่ะ
ณ จุด ๆ นี้ มันดีมาก ๆ เลยน้าาาา
004 Day & Night of Suratthani
สำหรับมื้อเย็นของเราวันนี้ เรียกได้ว่าเป็นดั่งของขวัญที่คุ้มค่าของชีวิตเลยก็ว่าได้ กับร้านอาหารชั้นดีในดวงใจของเรา ที่มีสาขาแค่ภาคใต้เท่านั้นและที่นี่คือสาขาแรกดั้งเดิม ‘Day & Night of Suratthani’ ร้านอาหารกึ่งบาร์และคาเฟ่ที่รวบรวมเอาความหลากหลายไว้ครบ มีทั้งหมด 3 สาขา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต เรารับประกันได้เลยว่าหากเข้ามาที่ร้านนี้ ทุก ๆ นาทีของมื้อพิเศษ ณ ที่นี่จะเต็มไปด้วยความคุ้มค่า หรูหรา และประทับใจ สมกับสโลแกน Have A Good Day & Night Here
FB : DAY & NIGHT of Surat Thani
พิกัด : goo.gl/maps/53YG8WYXpuxRque56
ร้านแบ่งเป็น 2 โซนหลัก ๆ ได้แก่ โซนอินดอร์และโซนเอาท์ดอร์ ออกแบบและตกแต่งสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์ ให้กลิ่นอายของโรงนาแบบอังกฤษ ทั้งคลาสสิก เท่ และหรูหราในเวลาเดียวกัน สามารถนั่งชิลกันได้ทั้งวันตั้งแต่เช้าไปจนค่ำ นอกจากนั้นยังมีมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ จัดไว้ให้สำหรับสายอัพรูปด้วย
ในส่วนของเมนูอาหารนั้นมีหลากหลายมาก ตั้งแต่เมนูพื้นบ้านหาทานยากของไทย ไปจนเมนูนานาชาติ ทุกเมนูทั้งอร่อยถูกปากและมีความครีเอท ซึ่งเราต้องขอเอ่ยปากชมเชฟของร้านเลย ทุกเมนูของที่นี่มีความพิถีพิถัน ไม่ซ้ำกับร้านไหน ทำให้เราได้รสชาติที่แปลกใหม่ แถมวัตถุดิบทุกอย่างทางร้านสรรหามาอย่างดี พรีเมียม มีคุณภาพ ดูจากภาพอาหารบนโต๊ะเราแล้วไม่ร้องว้าวก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วววว
ซึ่งเมนูเครื่องดื่มของเราวันนี้มี ลาบอซั่มดิกานดา , เดอร์ตี้ , โรซี่เอสโทนิค , ช็อกโกแลตเย็น
และเมนูของคาวก็มี ลาบหมูแผ่นบ้านเชฟวี , พะโล้ต้มแซ่บ , พิซซ่า เดย์&ไนท์ , อ่องมันปู ,
หมูเต๋าคั่วเกลือ , สไปซี่มันกุ้งและกุ้ง , เนื้อซูวีฮ้อง , OMG! Day&Night Steak และ โทโมฮอกอิเบอริโค(หมูดำสเปน)
เครื่องดื่มของเราครั้งนี้
–ลาบอซั่มดิกานดา ( Le Boisson De Kanda ) เมนูซิกเนอเจอร์ระดับตำนานของที่นี่ เป็นกาแฟเอสเปรสโซ่เข้มข้น อโรม่าจาง ๆ ด้วยกลิ่นฟรุตตี้ รสชาติออกแนวซ่า ๆ ประทับจิต
-วินเทจแพสชั่น (Vintage Passion) กาแฟโคลบริวผสมกับน้ำผลไม้หลายอย่าง มีตัวนำคือ Passion Fruit ตามด้วยกลิ่นลิ้นจี่อ่อน ๆ ทั้งหวานทั้งเปรี้ยวตัดกับรสกาแฟให้มิติที่แปลกใหม่มาก ๆ
-โรซี่เอสโทนิค (Rosie Es Tonic) เป็นเครื่องดื่มที่เสิร์ฟโทนิคเลม่อนและกุหลาบแยกแก้วมา พร้อมกับเอสเปรสโซ่ช็อตเข้มข้น เทผสมลงเข้ากัน กลิ่นกุหลาบและความเปรี้ยวซ่าของเลมอนโทนิคตัดกับความเข้มข้นของกาแฟ มันทั้งละมุนซาบซ่าผสมกันดีมาก
–เดอร์ตี้ (Dirty) เมนูยอดนิยมของสายกาแฟยุคนี้ ที่นี่ก็มีเสิร์ฟนะจ๊ะ รสชาติดีไม่แพ้ใครเลย
-ช็อกโกแลตเย็น (Real Chocolate) ประทับจิตกลับไป ประทับใจจนยากจะลืมแน่ ๆ เพราะที่นี่ใช้ช็อกโกแลตแท้โฮมเมดแบบเข้มข้นมาชงให้เราดื่มแบบฟิน ๆ
สำหรับเมนูอาหารมีดังนี้
-ลาบหมูแผ่นบ้านเชฟวี ปกติเราจะเห็นลาบหมูทอดปั้นเป็นก้อน แต่ที่นี่ทอดลาบหมูมาเป็นแผ่นเลยนะ กรอบนอกนุ่มในได้รสชาติที่เข้มข้น กินคู่กับผักเคียง อร่อยสุด ๆ
-พะโล้ต้มแซ่บ ทุกคนที่ได้ลองเมนูนี้ต้องบอกว่า เห้ยยย เกินคาดจริง ๆ ปกติเราจะได้ชิมรสพะโล้แบบหวาน ๆ หอม ๆ แต่เมนูนี้มีความแซ่บเพิ่มเข้ามาด้วย มันแปลกใหม่และอร่อยได้ใจจริง ๆ
-อ่องมันปู อ่องมันปูของที่นี่คือออ่องมันปูทะเลเชื่อสายสุราษฎร์แท้ ๆ รสชาติจะต่างกับอ่องมันปูนาโดยสิ้นเชิงทานคู่กัยข้าวเหนียวย่างและผักแกล้ม คือดีมาก
-หมูเต๋าคั่วเกลือ หมูสามชั้นหั่นเต๋าหมักเกลือทะเลสุราษฎร์แท้ ๆ แล้วนำมาทอดจนกรอบ เหมาะกับเป็นจานทานเล่นเป็นไหน ๆ
-สไปซี่มันกุ้งและกุ้ง สปาเก็ตตี้รสแซ่บที่คลุ้กเคล้ามาด้วยสมุนไพรบวกกับมั้นกุ้งและกุ้งท้อปด้วยกุ้งสดให้ความหอมมันนัวในปาก จานนี้เหมาะมากกับคนที่ชอบทานเมนูเส้น
-พิซซ่า เดย์&ไนท์ พิซซ่าซิกเนอเจอร์ของร้าน ผสมผสานออกมาจากวัตถุดิบชั้นดี ใช้แป้งและชีสนำเข้าจากอิตาลีแท้ ๆ เราอยากให้ลองเมนูนี้มาก เพราะรสชาติมันต่างจากพิซซ่าที่อื่น ๆ แน่นอน
-เนื้อซูวีฮ้อง เนื้อสามชั้นหมักเครื่องเทศจนนุ่มแล้วมาผ่านกรรมวิธีเดียวกับหมูฮ้อง
-OMG! Day&Night Steak เนื้อสันในพรีเมียมย่าง โรยด้วยไข่ปลาแซลม่อนและท็อปด้วยตับห่าน เนื้อนุ่ม ๆ หวาน ๆ เข้ากันมากกับตับห่าน
และเมนูที่เราขอยกให้เป็นที่หนึ่ง สุดแสนประทับใจของเราก็คือ โทโมฮอกอิเบอริโค(หมูดำสเปน) หมูดำสเปนเนื้อนุ่ม ย่างด้วยเนยจนหอม และโรยดอกเลือจากสุราษฎร์ นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ลองเนื้อหมูดำสเปนที่ว่ากันว่าราคาแสนแพงและรสชาติแสนเลิศล้ำ ซึ่งมันก็สมคำร่ำลือจริง ๆ และบอกได้เลยว่า ที่นี่คือหนึ่งเดียวในสุราษฎร์ที่มีเนื้อหมูดำไว้เสิร์ฟ ยังไงก็มาลองกันได้ เชื่อเรา ไม่ผิดหวังแน่นอน
005 Cbd2 Hotel โรงแรมซีบีดีทู
และสำหรับที่พักของเราในทริปนี้ ต้องยกให้โรงแรมน่ารัก ๆ ริมแม่น้ำตาปี ‘Cbd2 Hotel‘ ซึ่ง Cbd มีทั้งหมด 2 สาขาด้วยกัน คือในย่านดาวน์ทาวน์และริมน้ำที่เรามาพักวันนี้นี่แหละ ที่เราเลือกที่นี่ไม่ใช่แค่เพียงวิวสวยติดแม่น้ำแล้ว ยังเพราะห้องกว้าง พื้นที่เยอะ เตียงนุ่มมาก หลับสบายตลอดคืน อาหารเช้าก็อร่อย แถมราคาถูกมาก ๆ ด้วย
FB : CBD2 Hotel Suratthani
พิกัด : g.page/cbd2-hotel-tambon-talad?share
ที่นี่มีห้องหลายรูปแบบให้เลือก ทั้งเตียงคู่ เตียงเดี่ยว วิวสวน วิวเมือง หรือจะเลือกวิวแม่น้ำ ที่เลิฟมากคือห้องกว้างเตียงนุ่ม อันนี้ไม่ได้อวยเกินจริง แต่เตียงนุ่มมาก ๆ จนอยากจะนอนหลาย ๆ คืนเลย
นอกจากห้องพักดี ๆ วิวสวย ๆ แล้ว ที่นี่ยังมีร้านอาหารที่สามารถรองรับงานจัดเลี้ยงสัมมนาต่าง ๆ ได้อย่างมืออาชีพ
Day 2
006 เสรีแต่เตี๊ยม
ตื่นเช้ามา บิดซ้ายบิดขวา ล้างหน้าแปรงฟัน แล้วรีบมุ่งหน้าไปยังร้านติ่มซำชื่อดังคู่สุราษฎร์ธานีมายาวนานกว่า 16 ปีที่ย่านตลาดศาลเจ้า ‘เสรีแต่เตี๊ยม’ ที่นี่มีทั้งอาหารเช้า ติ่มซำ โจ๊ก บ๊ะกุ๊ดเต๋ เสิร์ฟร้อน ๆ ถึงโต๊ะของเรา นอกจากอาหารที่สารพัดตามใจแล้วแต่จะเลือก เรายังได้สัมผัสบรรยากาศยามเช้า วิถีชีวิตของชาวเมืองสุราษฎร์ที่ครึกครื้นไม่เบา
พิกัด : goo.gl/maps/qpB8vS8qSF9pgyhe9
ไปถึงหน้าร้าน เราก็เข้าที่หยิบถาดเลือกได้ตามใจเข่งละ 18 บาทเท่านั้น ซึ่งเมนูจะมีให้เราเลือกเยอะมาก ตาลายจนเลือกไม่ถูกเลยล่ะ นอกจากติ่มซำละลานตาแล้ว ยังมีเมนูต้องห้ามพลาดด้วยอย่าง บะกุ๊ดเต๋ โจ๊กหมู จ๊อปู ปอเปี๊ยะทอด
ป่าวเลย เราไม่ใช่คนตะกละเลย ก็แค่เป็นสายกินให้พออิ่มแค่นั้น สั่งมาแค่นี้เองไม่เยอะเลยนะ
007 วัดพระบรมธาตุไชยาวรวิหาร
หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว เราก็นั่งหลับบนรถสบาย ๆ ให้น้าคนขับพาเราไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสุราษฎร์ธานี อย่าง ‘เจดีย์พระบรมธาตุไชยา’ ที่วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร ว่ากันว่าเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า เจดีย์พระบรมธาตุไชยาเป็นสถาปัตยกรรมแบบศรีวิชัยองค์เดียวที่ยังอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด บริเวณรอบองค์พระธาตุมีเจดีย์เล็ก 4 ทิศ ล้อมรอบด้วยวิหารคด ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ขนาดต่าง ๆ โดยรอบทั้ง 4 ด้าน สันนิษฐานว่ามีอายุกว่า 1200 ปีมาแล้ว
พิกัด : goo.gl/maps/uE9EecqF6GRUtaHn6
ตำนานเกี่ยวกับเจดีย์พระบรมธาตุไชยา มีอยู่ว่า เคยมีพี่น้องชาวอินเดียชื่อ ปะหมอ กับปะหมัน เดินทางโดยเรือใบเข้ามาถึง เมืองไชยา เจ้าเมืองมอบให้ปะหมอ ซึ่งเป็นนายช่างก่อสร้าง สร้างเจดีย์พระบรมธาตุไชยา พอสร้างเสร็จจึงสั่งตัดมือตัดเท้าปะหมอเพื่อไม่ให้ไปสร้างเจดีย์ที่อื่นได้อีก และปะหมอก็ตายเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหวในที่สุด เจ้าเมืองจึงหล่อรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรไว้เป็นเครื่องหมายแทนตัวปะหมอ ส่วนน้องชายที่ชื่อปะหมันได้ไปครองเกาะพัดหมัน และตึงรากอยู่ที่นั้นจนกระทั่งสิ้นชีวิต
แม้จะเป็นวัดเล็ก ๆ แต่มีประชาชนผู้มีจิตศรัทธาเดินทางมาสักการะบูชาอย่างไม่ขาดสาย
008 Homecoming cafe’
ถ้าพูดถึงคาเฟ่สุดฮอตของสุราษฎร์ยามนี้จะไม่มีร้านนี้ติด Top ไม่ได้ คาเฟ่เปิดใหม่ให้ความโฮมมี่อบอุ่นสุด ๆ เดินเล่นถ่ายรูปตามมุมต่าง ๆ ของคาเฟ่แอบให้ฟิลเกาหลีนิด ๆ บอกเลยว่าถ่ายรูปเพลินมาก ๆ
ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 7.30 – 18.00 น.
FB : Homecoming cafe
พิกัด : goo.gl/maps/V2UGKCK9GH5VNBmVA
บรรยากาศภายในร้านเน้นโทนเขียวและน้ำตาล มีสีดำมาตัดบ้างให้ดูเข้มขึ้น แม้ร้านจะไม่ได้กว้างมากนักแต่กระจกใสรอบ ๆ ร้านให้ความรู้สึกโปร่งสบาย มุมที่เราชอบที่สุดจะเป็นโต๊ะมุมร้านที่ด้านหลังเป็นบรรดาต้นยางพาราให้ฟิลนั่งจิบกาแฟในป่าแบบชิล ๆ ส่วนเครื่องดื่มและขนมหวานของที่นี่ก็ดีไม่แพ้ร้านอื่น ๆ เลย
009 บ้านก๋วยเตี๋ยวซีฟู๊ด by ป้าทิ้ง
มื้อเที่ยงของวันนี้ เราขอฝากชีวิตไว้ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวซีฟู๊ดเจ้าดังประจำเมืองสุราษฎร์ เมื่อก่อนร้านป้าทิ้งเป็นเพียงร้านขายอาหารเล็ก ๆ ที่ชาวสุราษฎร์อุดหนุนกันมาอย่างยาวนาน จนปัจจุบันร้านป้าทิ้งขยายสาขาไปทั่วเมืองสุราษฎร์และแตกแขนงประเภทอาหารออกไปเพื่อความหลากหลาย ซึ่งเราบอกได้คำเดียวเลยว่า มาสุราษฎร์ไม่แวะมาร้านป้าทิ้ง คือพลาดมาก
ร้านเปิดทุกวัน 9.30 น. – 19.30 น.
FB : บ้านก๋วยเตี๋ยวซีฟู้ด By ป้าทิ้ง
พิกัด : goo.gl/maps/raap7ua2oJbKSRKE6
เมนูของเราในวันนี้ ได้แก่จัดหนักจอมพลัง+กุ้งแม่น้ำ มาม่าป้าทิ้ง หมึกไข่ทอด ยำไข่ปู ซึ่งทุกเมนูเด็ดจริงต้องยอม แถมราคาสบายกระเป๋าสุด ๆ
010 ริมแม่น้ำตาปี
จุดนี้คือลมเย็นมากกก เราเลยต้องชวนกันมานั่งเล่น ชมแม่น้ำ ฝั่งตรงข้ามเป็นเกาะลำพู ซึ่งจุดนี้ สามารถมองเห็นป้ายชื่อ ‘สุราษฎร์ธานี’ ตัวโตๆ ไว้ถ่ายรูปเช็คอินกันด้วย
พิกัด : goo.gl/maps/rSq7b6qfg2oNfVgYA
011 ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี
ย่านริมแม่น้ำก็มี ‘ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี’ ทรงสี่เหลี่ยมจตุรมุขย่อมุมมณฑปสร้างเป็นเจดีย์องค์ประธาน มียอดฉัตร 5 ชั้น สีขาวเด่นตระหง่าน รอบ ๆ ล้อมรอบด้วยสนามหญ้า ว่ากันว่าตอนกลางคืนจะตกแต่งสถานที่ด้วยไฟประดับสร้างความสวยงาม ส่วนด้านในศาลหลักเมืองมีเสากลมขนาดใหญ่ ยอดเสาบรรจงแกะสลักแบบศิลปะศรีวิชัยจากไม้ราชพฤกษ์ขนาดใหญ่ บนยอดมีพระพักตร์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรสี่หน้า หันพระพักตร์ไปทั้งสี่ทิศ และตรงมวยมวยพระเกศาสลักเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ พร้อมกับลงรักปิดทองอย่างวิจิตรสวยงาม ประชาชนนิยมมาขอพร สักการะบูชา
พิกัด : goo.gl/maps/ywwnjCV2SetzrCC89
ติดกับศาลหลักเมืองคือริมแม่น้ำตาปีที่เห็นสะพานศรีตาปีแบบชัด ๆ ตรงนี้ลมดี มีคนมานั่งพักผ่อนหย่อนใจ บ้างก็มาตกปลา ขับเจ็ทสกีเล่นกัน ซึ่งตรงนี้คืออีกที่ที่ชมพระอาทิตย์ตกได้ฟินมาก
012 ศลาเจ้าอ๋องฮกเกี้ยน
เดินมาเรื่อย ๆ เราก็ต้องหยุดอยู่ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ ที่โดดเด่นอยู่ตรงสามแยก ตรงนี้คือ ‘ศาลเจ้าอ๋องฮกเกี้ยน’ ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อใช้สักการะและเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้รำลึกถึงบรรพบุรุษ พร้อมทั้งได้อัญเชิญองค์เทพเจ้าแลฮู้อ๋องเอียกงมาจากมณฑลฮกเกี้ยน จำนวน 3 องค์ มาประดิษฐานเป็นเจ้าองค์ประธานในศาลเจ้าฮกเกี้ยน โดยภายหลังได้มีการอัญเชิญองค์เทพเจ้ามาร่วมศาลอีก 2 องค์ คือ เจ้าแม่กวนอิม และ เจ้าแม่ทับทิม นอกจากจะมีเทพเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์แล้วจุดเด่นของศาลอีกหนึ่งจุดคือ มังกรหน้าศาลที่สามารถพ่นน้ำได้ ซึ่งคนที่มากราบไหว้ถือกันว่าน้ำที่มังกรพ่นออกมานั่นคือน้ำศักดิ์สิทธิ์
พิกัด : goo.gl/maps/xvXUfZzmBnbksUbTA
013 ตลาดศาลเจ้าสุราษฎร์ธานี
อีกหนึ่งที่ที่ห้ามพลาดเมื่อมาสุราษฎร์ธานีคือที่นี่ ‘ตลาดศาลเจ้า’ หรือ Night Market แห่งเมืองสุราษฎร์นั่นเอง ก่อนมาต้องเตรียมท้องให้ว่าง เตรียมตังค์ให้พร้อม แล้วเดินตะลุยหาของกินแบบนอนสต๊อป เดินรัว ๆ ชิมไปทุกร้านเลยจ้า ภายในตลาดจะเป็นตรอกซอยเล็กๆ มีรถเข็น ร้านรวงละลานตาตั้งอยู่เต็มสองข้างทาง ประดับประดาด้วยของกินของอร่อยแบบพื้นเมือง นับเป็นตลาดของกินที่มีความหลากหลายมาก
FB : ตลาดศาลเจ้าสุราษฎร์ธานี
พิกัด : goo.gl/maps/NHEWm9mLCrNpcY4a7
สองข้างทางมีของกินวางขายละลานตาไปหมดแถมราคาก็เป็นมิตร ทั้งเห็ดชุบแป้งทอดทอด ไส้ย่าง ผัดไทยเจ้าดัง ทอดมันย่างที่หาทานที่อื่นไม่ได้ หรือขนมจีนน้ำยาหลากรส และอาหารท้องถิ่นอื่น ๆ อีกมากมาย โอ้ย ตาลายท้องตึงไปหมดดดด
014 สะพานศรีตาปี
เดินเล่นตลาดศาลเจ้าเสร็จแล้ว เราก็เดินเรื่อยเปื่อยชมเมืองสุราษฎร์และสองฝั่งแม่น้ำตาปียามค่ำคืน เดินดูร้านรวงจนมาถึงริมสะพานศรีตาปีที่เดิม ซึ่งเพิ่มเติมคือแสงสีจากดวงไฟประดับประดากว่า 6 พันชุด แสดงสีสันสะท้อนพื้นน้ำสวยงามสุด ๆ
พิกัด : goo.gl/maps/8AU2Hj6AoPbmxotRA
Day 3
ตื่นเช้ามาล้างหน้าล้างตา แล้วลงมาห้องอาหารของโรงแรม ที่นี่มีบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าไว้คอยให้บริการผู้เข้าพักด้วย มีทั้งไข่ดาวแฮมไส้กรอก และอาหารท้องถิ่นภาคใต้มากมายหลายเมนู เรียกได้ว่า มื้อเช้าของที่นี่ อิ่มหนำสำราญกันไปเลย
015 ไก่ย่างจีราพันธ์
ก่อนจะจบทริปนี้เราต้องขอแวะร้านไก่ย่าง ร้านข้าวหมกไก่ชื่อดังของสุราษฎร์ธานี ข้อดีของการใช้รถตู้แบบมีคนขับรถเป็นคนท้องถิ่นคือเราจะได้มากินร้านอาหารที่คนพื้นที่มากินจริง ๆ ร้านนี้น้าคนขับบอกเราว่าอร่อยที่สุดในเมืองสุราษฎร์ห้ามพลาดเลยนะ เราจึงต้องจัดเป็นมื้อสุดท้ายก่อนลาเมืองนี้ไป
FB : ร้านไก่ย่างจีราพันธ์ สุราษฎร์ธานี
พิกัด : goo.gl/maps/speutmBsN2sX4cKq7
และมื้อนี้เราได้ลองข้าวหมกไก่ สะเต๊ะไก่ ซุปเนื้อ ซึ่งเด็ดมากและไก่ย่างของเขาก็ดีงาม เราสั่งกลับบ้านให้น้าคนขับรถไว้ด้วย แกบอกว่าเอากลับไปกินที่บ้านยังอร่อยอยู่เลย
จบทริปกันไปด้วยการเดินจากดี ๆ จาก Phantip ทริปนี้ถือว่าคุ้มมากและไม่ต้องเหนื่อยขับรถเองเลย ไว้รอบหน้า ถ้าเรามากับเพื่อนหลายคน เราจะใช้บริการรถตู้ส่วนตัวพร้อมคนขับอีกแน่ ๆ
ผ่านไปแล้วกับทริปเมืองสุราษฎร์ของเรา ไม่น่าเชื่อว่าใช้เวลาถึง 3 วันแล้ว ยังเที่ยวไม่หมดยังมีอะไรอีกมากมายให้เราได้เที่ยวได้ค้นพบ และนอกจากที่เที่ยวจะเยอะ มุมถ่ายรูปจะแยะแล้ว ที่สำคัญคือของอร่อยเยอะมาก ๆ สัญญาเลยว่า คราวหน้าเราจะพาทุกคนมาค้นหาของดี ที่เที่ยวเด็ด ร้านอาหารสุดยอดของสุราษฎร์กันอีกแน่นอน
ด้วยรัก
บันทึกคนขี้เที่ยว