ช่วงนี้แค่เห็นรายงานอากาศจากหน้าจอมือถือว่าช่วงนี้คือหน้าฝน ก็ปลุกแรงบันดาลใจในการออกเดินทางให้ไฟลุกโชนมาได้ แล้วถ้าให้มานั่งลิสต์หาที่ฉ่ำ ๆ เอาแบบฟาดหมด เก็บครบทุกสิ่งที่อยากได้ก็มีไม่พลาดเขาค้อเป็นแน่ เพราะนี่คือหนึ่งในโลเคชั่นสุดฮอต ที่ไปซ้ำไปย้ำได้ทุกปี ที่นี่เหมือนมีสเน่ห์หรือพลังงานบางอย่างที่ทำให้คนจำนวนไม่น้อยรวมทั้งเราไปมากกว่าหนึ่งครั้ง อาจจะเพราะว่าเราอยากเป็นคนอายุยืน เราเลยอยากตื่นมาเจอธรรมชาติของที่นี่ ถ้าอยากรู้ว่าดีแค่ไหนอยากให้ทุกคนลองตามเรามานะเออ
สถานที่ : De Capoc Resort Khao Kho
พิกัด : goo.gl/maps/tRnqDjwz7QfLWZYWA
สถานที่ : ทุ่งกังหันลม เขาค้อ
สถานที่ : Cedar ป่าสน cafe’ at เขาค้อ
พิกัด : https://goo.gl/maps/EPLX8MjGUk5CQ2v46
De Capoc Resort
ขับรถมาเรื่อย ๆ แบบไม่รีบ กว่าจะถึงก็ใช้เวลาพอที่จะทำให้ล้าไปทั้งตัวได้ เราเลยยังไม่ขออะไรทั้งนั้นนอกจากเข้ารีสอร์ท วางกระเป๋าแล้วเหวี่ยงตัวลงบนที่นอนนุ่ม ๆ ณ ห้องที่เราเลือกในทริปนี้ De Capoc Resort บอกเลยว่ากรี๊ดมาก เพราะห้องดี เตียงนุ่ม มุมถ่ายรูปเยอะ วิวก็ชนะเลิศ
พิกัด : goo.gl/maps/tRnqDjwz7QfLWZYWA
ตอนแรกก็กะว่ามาถึงที่พักแล้วจะของีบสักพักเอาแรงสักนิด แต่งื้อแก เจ้าโรงแรมสุดโมเดิร์น โดดเด่นแห่งนี้ ทำเอาเราไม่มีเวลาหยุดพักเลย เราต้องถ่ายรูปมุมนั้นมุมนี้ นั่งตรงนั้นเดินไปตรงนี้ เพราะตรงไหนก็ดี วิวดี อากาศดี ดีไซน์ก็ยิ่งดีไปใหญ่ กดชัตเตอร์รัว ๆ กันไป ลงสตอรี่ไอจีไป เพื่อน ๆ มากดเลิฟกันใหญ่เลยยยยย
Cedar ป่าสน cafe’ at เขาค้อ
ในเมื่ออยู่ที่รีสอร์ทก็เป็นการพักที่ไม่ได้พักแล้ว เราก็ต้องตัดใจ ออกมาข้างนอกหาอะไรเที่ยวเล่นสักนิดพอเป็นน้ำจิ้มดีกว่า แต่ร้านที่เราพุ่งตัวมา ไม่น่าจะเป็น้ำจิ้มถ้วยเล็กนะ เพราะ Cedar ป่าสน cafe คาเฟ่กลางป่าสนแห่งนี้ ตอนนี้เค้าฮอตกว่าใครเลยล่ะ ก็ทางร้านเล่นเนรมิตบ้านต้นไม้กลางป่าสน ทั้งชิลและลงตัว แถมยังมีมุมสวยๆ ไว้ลงโซเชี่ยลเพียบเบอร์นี้ ไม่ให้ชมว่าดีก็ไม่รู้จะชมว่าอะไรแล้ว
FB : Cedar ป่าสน cafe’ at เขาค้อ
พิกัด : https://goo.gl/maps/EPLX8MjGUk5CQ2v46
วัดผาซ่อนแก้ว
จิบกาแฟเพิ่มพลังพอให้หายเพลียกันแล้ว เราก็ต้องมากันต่อที่วัดผาซ่อนแก้ว หนึ่งในแลนด์มาร์คของเขาค้อและเพชรบูรณ์ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี่คือวัดที่โด่งดังชื่อเสียงเกรียงไกรอันดับต้นๆ ของเมืองไทยอีกหนึ่งวัดเลยด้วย สิ่งที่พลาดไม่ได้หากมาที่นี่คือ การได้มาสักการะมหาวิหารพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในมหาวโรกาสเฉลิมฉลองพระชนม์มายุ ๘๕ พรรษา ของในหลวงร.9
เมื่อเราาถึงเราก็ตะลึงกับพระพุทธรูปสีขาวประดิษฐานเรียงกัน 5 พระองค์ตระหง่านท่ามกลางขุนเขา สวยงามและยิ่งใหญ่อลังการมาก
พิกัด : https://goo.gl/maps/wJMtD9iWS7uZMLKE7
จากการเล่าต่อๆ กันมา ที่เรียกวัดนี้ว่า “ผาซ่อนแก้ว” เพราะว่าแถวนี้มีทิวเขาเรียงรายโอบรอบและบนยอดเขามีถ้ำอยู่ มีชาวบ้านทางแดงหลายคน ได้เห็นลูกแก้วลอยอยู่บนฟ้าและลับหายเข้าไปในถ้ำบนยอดผานั้น
ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา และต่างถือว่าเป็นสถานที่มงคล มีความศักดิ์สิทธิ์และเรียกตามๆ กันว่า “ผาซ่อนแก้ว” และกลายเป็นวัดนี้ขึ้นมา ดังนั้นที่วัดจะประดับประดาด้วยลูกแก้วสีสันต่างๆ มากมาย
ไร่สองเรา
มัวแต่ทำนั่นทำนี่ก็ผ่านเวลามาถึงช่วงเย็นแล้ว วันนี้เราต้องมาจัดมื้อเย็นที่ไร่สองเรา เพราะคราวก่อนพักที่นี่แล้วเกิดติดใจรสชาติอาหารของที่นี่ไม่เคยลืมเลย วันนี้ต้องขอมาย้อนวันวานความอร่อยสักหน่อยแล้ว
FB : ไร่สองเรา เขาค้อ
พิกัด : https://goo.gl/maps/X3LqwtjXXNFT9y576
ครัวไร่สองเรา
ท้าดาาาา หน้าตาอาหารของเราวันนี้ น่ากินทุกอย่างเลย นี่เราพิมพ์ไปยังหิวไปเลยเนี่ย ถ้ามาเขาค้อแนะนำทุกคนเลยว่าอย่าลืมมาจัดสักหนึ่งอิ่มกันที่ครัวไร่สองเราได้ ไม่ผิดหวังแน่นอนเชื่อเรา อ้อ!! แล้วที่ครัวเปิดบริการตั้งแต่เวลา 11.00 น. – 21.00 น. นะ ยังไงก็ลองโทรมาจองกันก่อนได้เลย
Tel : 093-323-8638, 056-750-356
นั่งตักนั่นนี่เข้าปาก จิบเครื่องดื่มเพลินๆ ิ้าว ค่ำแล้วสิ คิดได้ก็ต้องขอจรลีกลับรีสอร์ทโดยเร็ว เพราะใจอยากกลับไปตีฟองแช่น้ำอุ่นๆ แล้ว
อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เราชอบ De Capoc คืออ่างอาบน้ำกลางห้องที่เปิดเผยให้เห็นแสงดาวยามค่ำคืนนี่แหละ นอนแช่น้ำเงยหน้าขึ้นมองดาว มันฟินมากเลยเว้ย แล้วรู้มั้ยว่าการมาเที่ยวเขาค้อช่วงหน้าฝนแบบนี้อากาศเย็นมากเลย หากเป็นสถานที่เปิดทั่วไป การได้แช่อ่างดูดาวแบบนี้คงหนาวจนเป็นไข้กันพอดี แต่แช่ที่นี่ไม่ต้องห่วงเลย เพราะอ่างอยู่ในห้อง ทำให้เราไม่ต้องทนกับความเหน็บหนาวจากลมที่ผัดข้างนอกด้วย ดี๊ดี
เมื่อคืนกินอิ่มแช่น้ำอุ่นไปทำให้หลับสบายไม่ผันร้าย ตื่นมาไม่งัวเงียเลย ไม่รู้ใครเป็นแบบเราบ้างที่ตอนอยู่บ้านนะ กว่าจะแงะตัวจากที่นอนได้ต้องขอเลื่อนปลุกไม่รู้กี่รอบ แต่วันนี้ ตื่นมาก็เห็นน้องหมอกมาเยี่ยมตรงหน้า มำให้เราต้องรีบความผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำแล้วรีบแต่งตัวไปหาน้องหมอกโดยเร็ว
บรรยากาศดีมากกกกกก
ไร่ GB
หน้าฝนอ่ะเนอะ อากาศมันก็เย็น หมอกมันก็ฟุ้งๆ อากาศแบบนี้ถือเป็นฤกษ์ยามดีที่ดอกไม้หลากสีจะเติบโตมาต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งหลายกันแล้ว เราเลยปักหมุดมาที่นี่ตั้งแต่เช้าเลย
มีทั้งดอกกระเจียว ดอกเวอร์บีน่าและอื่น ๆ อีกเพียบ ทำให้คำว่าวิ่งเล่นในสวนดอกไม้ไม่ไกลเกินฝันไปเลยนะเนี่ย
ค่าเข้าคนละ 10 บาท
พิกัด : https://goo.gl/maps/AzjWL5SuNdygf1KBA
มี 2 เหตุผลเท่านั้ที่มาเที่ยวเขาค้อแล้วไม่เจอหมอก คือ 1.โชคร้าย และ 2. ตื่นสาย เพราะทุกๆ เช้าเราจะเห็นสายหมอกเยอะบ้าง บางๆ บ้างลอยทั่วไปทั้งเขาค้อ นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ผู้คนหลั่งไหลกันมาเที่ยวที่นี่ซ้ำแล้วซ้ำอีกละมั้ง
Le Bonheur
ยังไม่จุใจ ทำยังไงก็ละสายตาจากสายหมอกและความเขียวไม่ได้เลย เราเลยต้องแวะมาชมวิวกันต่อที่นี่ Le Bonheur คาเฟ่ขนมสัญชาติฝรั่งเศสบรรยากาศดีงาม รอบ ๆ ปลูกต้นไม้จัดสวนทั่วบริเวณ แต่มีความโล่งสบาย ไม่บังทัศนียภาพ
FB : Le Bonheur khaokho
พิกัด : goo.gl/maps/PmKcEXzaNneh1P6RA
ตัวร้านเป็นสไตล์โมเดิร์นลอฟท์ สำหรับเครื่องดื่มและขนมนั้น มีหลากหลายให้เราเลือก จะกินเล่นกินจริงจัง หรือแค่จิบกาแฟก็ได้ ขนมสัญชาติฝรั่งเศสตามชื่อร้านก็มาให้ลองชิมเยอะเลย
ทุ่งกังหันลม บ้านเพชรดำ
จะไม่มาที่ ทุ่งกังหันลม แหล่งผลิตพลังงานสะอาดที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวแทบทุกคนจนกลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่ต้องแวะเมื่อมาเยือนเขาค้อก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะกลายเป็นว่ามาไม่ถึงขาค้อโดนเพื่อนล้อเอาได้ มาถึงเราก็ต้องตะลึงกับความใหญ่โตของกังหันทั้ง 24 ต้นที่มีความสูงกว่า 100 เมตร เรียงรายกลางทุ่ง มันสูงมากๆ จริงๆ ผมนี่อึ้งไปเลย
พิกัด : บ้านเพชรดำ ตำบลทุ่งสมอ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
ล่องแก่งลำน้ำเข็ก
เห้ยยย นี่มันหน้าฝนนะเว้ยยย เรามาเขาค้อ เที่ยวสุข กินอิ่ม นอนหลับไปแล้ว แล้วเราจะพลาดอีกหนึ่งกิจกรรมสุดมันของหน้าฝนอย่างล่องแก่งลำน้ำเข็กไม่ได้ ที่ขับรถจากสามแยกแคมป์สนไปเพียงครึ่งชั่วโมงเราก็จะได้พบกับกิจกรรมมันหยด จนคุ้มค่าน้ำมันรถแน่นอน เพราะลำน้ำเข็กเปิดให้ล่องแก่งได้แค่เดือนกรกฎาคม-ตุลาคมของทุกปีเท่านั้น ลิมิเต็ดอิดิชั่นขนาดนี้ พลาดไปก็รออีกปีเลยนะ
กิจกรรมล่องแก่งลำน้ำเข็กนั้นมีระยะทางประมาณ 9 กม. มีแก่งทั้งหมด 15 แก่ง มีแก่งไฮไลท์ 4 แก่งคือแก่งซาง แก่งโสภาราม แก่งนางคอย และแก่งยาว เพราะฉะนั้นเราว่ามันเหมาะสำหรับนักผจญภัยมือใหม่มากเลยนะ ใครที่อยากลองก็มาลองที่นี่ได้เพราะไม่ต้องเดินเท้าเข้าป่า ไม่ต้องแบกหามเรือยาง ไม่ต้องเตรียมเสบียง จุดเริ่มต้นสามารถขับรถเข้าไปถึงได้ง่าย ช่วงของการล่องจะมีระยะให้พักและเตรียมตัวก่อนที่จะเจอแก่งยาก ๆ เป็นระยะๆ ทำให้ไม่เหนื่อยมาก ล่องแก่งเสร็จเราก็ถือว่ามิชชั่นคอมพลีทแล้วสำหรับเช็คอินฤดูฝนที่เขาค้อรอบนี้
ฤดูฝนที่ใคร ๆ หลายต่างก็เบื่อหน่าย กลัวเที่ยวไม่ได้ ผ้าไม่แห้ง รถก็เลอะ ต่าง ๆ นานา แต่สำหรับเรา หน้าฝนที่เขาค้อมันตอกย้ำคำว่า นอนเขาค้อหนึ่งคืนอายุยืนหนึ่งปีได้ชัดเจนมากขึ้น เพราะมันทั้งสดชื่น ชุ่มฉ่ำจนหาคำไหนมาบรรยายไม่ได้ ยิ่งกิจกรรมสุดท้ายที่ต้องหน้าฝนเท่านั้นถึงจะมันสุดอย่างล่องแก่งด้วยแล้วล่ะก็ ต่อให้รถจะเลอะ ผ้าจะเปียกแฉะ เราก็ยอมและเต็มใจ มาเที่ยวเขาค้อไม่ว่าครั้งไหน เราก็ได้ความสุขใจ ประทับจิตกลับไปทุกที แล้วคราวหน้าเราจะพาไปเที่ยวที่ไหน ก็อย่าลืมติดตามกันได้น้าาาา
ด้วยรัก
บันทึกคนขี้เที่ยว