Journey to the unseen world เดินทางสู่โลกใบใหม่ที่น่าค้นหา ตามล่า InstagramableSpot และเช็คอินเท่ๆที่ศรีลังกา
เกาะเล็กๆ ที่คนทั้งโลกมุ่งหน้าไปเพื่อมุมถ่ายรูปฮอตๆ ตาม Hashtag Srilanka ในIG ที่มีนับล้านรูป
ไปค้นพบความต่างธรรมชาติที่ยังไม่เคยสัมผัส ทั้งความน่ารักของผู้คน ความงดงามของสถานที่
ความพอดีไม่ขาดไม่เกินจนทำให้เที่ยวเพลินลืมวัน ความดิบและสดของศรีลังกาบอกเลยว่าต้องมาโดน
ทริปนี้เริ่มขึ้นหลังจากไฟล์ทบินตรงของแอร์เอเชียแตะพื้นสนามบิน เราก็ตะลุยเมืองหลวง โคลัมโบ 1 วันเต็ม
แล้วก็ขึ้นทางเหนือไป Sigiriya พระราชวังลอยฟ้าอายุหลายร้อยปีอุทยานประวัติศาสตร์ที่ได้ขึ้นเป็นมรดกโลก
ต่อด้วย minneriya national park ชมสัตว์ในป่าแบบ Safari Zoo นั่งรถจีปเข้าไปสัมผัสสัตว์ตัวเป็นๆแบบเต็มตา
วันที่ 3 เรามุ่งหน้าสู่อีกหนึ่งไฮไลท์ Kandy Cylon Tea Plantation ไปดูแหล่งปลูกชาซีลอนที่ดีที่สุดในโลก
ต่อด้วยการนั่งรถไฟสายคลาสสิคกลับมาโคลัมโบเพื่อไปนอนที่เมือง Galle เมืองนี้ใครชอบทะเล หาดสวย วิวปังๆ ทะเลที่นี่เล่น Surf ได้อีกด้วยนะ
และกลับนอนคืนสุดท้ายที่ Elephant orphanage Pinnawala เพื่อวันรุ่งขึ้นจะถ่ายรูปกับน้องช้าง
ทั้งหมดคุ้มค่าในเวลา 5 วัน อ่ะ ถ้าอยากไปเที่ยวกัน ตามต่อด้านใน หรือหากทนไม่ไหว
อยากตามเราไปเที่ยวแล้ว ก็จัดตั๋วบินตรงสบายๆ กันได้เลยที่ www.airasia.com
Sri lanka is calling you.
“ศรีลังกาประเทศนี้ถูกใจคนไทย” กล้าพูดว่าที่นี่ไม่มีอะไรที่คนไทยไม่ชอบ ว่าไปนะศรีลังกา #อากาศดี ไม่ร้อนอย่างที่คิด
อาหารอร่อย อาหารศรีลังกาโดยเฉพาะอาหารทะเลสดอร่อยแถมถูกด้วย
คนน่ารัก ถ้าเอาปากกาไฮไลท์ขีดได้จะบอกว่านี่คือสิ่งที่ชอบที่สุด คนน่ารักจริงๆ ใบหน้าเปื้อนยิ้มกันทุกคน
ภาษาและการสื่อสาร ชาวศรีลังกาเกือบทุกคนสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ระดับดีมาก สบายใจเรื่องการสื่อสารได้เลย
ค่าครองชีพถูก ในภาพรวมค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวกับการจ่ายค่าเข้าชมสถานที่ ค่าเช่ารถ เราว่าค่ากินอยู่ ค่าที่พัก ไม่แพงเลย
ชอบถ่ายรูป เหมาะกับคนที่ชอบถ่ายรูปที่สุด ทำการบ้านดูมุมถ่ายรูปเท่ๆไว้ได้เลย สวยจริงอะไรจริง
นักท่องเที่ยวทุกแบบ จะสายชิลล์ สายสตรีท หรือสายกิจกรรม มีอะไรๆให้ทำเยอะมากๆ
ทริปศรีลังกาเรามีเวลา 5 วัน อาจจะเก็บที่เที่ยวได้ไม่หมด แต่ที่สำคัญมันเด็ดดวงพวงมาลัย
และอยากสะดวกสบายโปรด“เช่ารถแบบมีคนขับ” ถูกและดี (มีวาร์ปรูปถัดๆไป)
ส่วนการไปจากไทยสะดวกที่สุดในจักรวาลบินไปกับ แอร์เอเชีย เค้ามีบินตรงจากดอนเมือง 4 เที่ยว/สัปดาห์ จันทร์/พุธ/ศุกร์/อาทิตย์ คุ้มและครบสะดวกสบาย
Red Mosque of Colombo
ที่แรกของการล่าแหล่ง IG Spot คือ Jami ul-Alfar Mosque มัสยิดสีแดงลวดลาดลูกกวาด ตั้งอยู่ Main Street กลางกรุงโคลัมโบ เกริ่นก่อนว่าศรีลังกาเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางศาสนา ถึงแม้ชาวศรีลังกา 60% (ชาวสิงหล) จะนับถือพุทธและอีกส่วนหนึ่งคือชาวทมิฬ (นับถือฮินดู) แต่ชาวศรีลังกาไม่น้อยเป็นมุสลิม และมัสยิดแห่งนี้คือจุดศูนย์รวมจิตใจของมุสลิมในโคลัมโบ ในส่วนของมัสยิดแดงลายลูกกวาดแห่งนี้ เหมาะกับการไปถ่ายรูปเช็คอินเป็นอย่างมากจนเรียกว่า Must Visit ด้วยสีสันลายลูกกวาด (คล้ายๆที่รัสเซียเนอะ) เป็นเอกลักษณ์ หากภาพที่ถ่ายมีเราอยู่ในนั้นด้วยแล้วแจ่มแน่นอน ดูมุมถ่ายภาพกันดีๆ แล้วไปรัว
ชัตเตอร์กันได้เลย แต่ๆๆ ต้องไปแบบสำรวมนะฮะ เพราะยังไงก็ตามที่นี่คือศาสนสถาน
ไม่เชิงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ หากเค้าให้ใส่เสื้อคุลมก็ใส่ด้วยเน้อ เพื่อรักษาระเบียบอันดีงามของสถานที่
พิกัด : https://goo.gl/maps/Aq6jqCC9ja42
ค่าเข้าชม : ฟรี
Coconut Tree hill
เราบอกไปแล้วว่าเราไปล่าแหล่งถ่ายรูปศรีลังกา ดูที่ภาพนี้ก่อนแล้วเราจะบอกว่า สวนมะพร้าวปลายแหลมชายหาดที่เมืองมิริสสาแห่งนี้ คือ Sri lanka Instagramable Spot ของชาว IG ทั่วโลกเลยนะ พูดไปก็จะหาว่า ขี้โม้ ใครไปศรีลังกาต้องไปถ่ายรูปคู่กับสวนมะพร้าวแห่งนี้ ภาพนี้เสมือนเป็นภาพจำศรีลังกาของใครหลายๆคน เตรียมเสื้อผ้า หน้าผม ให้เหมาะๆไปถ่ายกันได้เลยจ้า เดี๋ยวแปะพิกัดไว้ให้ไปตามกันนะ ใครจะไปรู้ว่าสวนมะพร้าวริมทะเลจะมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนได้มากขนาดนี้
การดินทางไม่ยากเลยห่างจากเมือง Galle แค่ 30 นาที จอดรถปุ๊บเดินไปที่นี่แค่ 5 นาที ก็ได้ถ่ายรูปเท่ๆกันแล้ว วันที่เราไปก็เจอแต่นักท่องเที่ยวต่างชาตินะ 555 ไม่เจอชาวศรีลังกาเลยล่ะ เด็ดจัดปลัดบอก
พิกัด : https://goo.gl/maps/E1LNvv8sm3U2
ค่าเข้าชม : ฟรี
เที่ยวซาฟารี : Mineriya National park
ที่นี่นอกจากมาถ่ายรูปเท่ๆแล้ว มันเป็น Unseen ของศรีลังกาที่แท้จริง เพราะใครจะไปคิดว่าศรีลังกามีการนั่งรถจีปดูสัตว์แบบนี้ด้วย สารภาพว่าที่นี่ไม่ได้อยู่ในแผนเดิมของเรา แต่คนขับรถบอกว่า You can deep to the nature. เราเลยโอเค มันทางเดียวกับทางกลับจาก Sigiriya พอดี อุยานแห่งชาติมินเนอริยา (Minneriya National Park) คือบ้านของโขลงช้าง กวางแซมบาร์ เสือดาว และนกป่านานาพันธุ์ ผู้ที่เข้าไปท่องเที่ยวจะได้เห็นสัตว์เหล่านี้มารวมตัวกันที่แหล่งน้ำบ้าง เล็มหญ้าตามทุ่งบ้าง ล้วนเป็นภาพวิถีชีวิตตามธรรมชาติ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 06.00-18.30 น.
แต่วันที่เราไปเป็นช่วงเวลาที่ไม่ค่อยพบสัตว์มากแต่ก็ตื่นเต้นกับช้าง ควาย กวางนกยูง อินทรี และบรรดานักต่างๆที่หากินกันตามธรรมชาติ
พิกัด : https://goo.gl/maps/LSnG7RZJrDq
ค่าเข้าชม : รถจีป คันละ 26 USD ค่าเข้าอุทยานคนละ 18 USD
บินตรงๆไปโคลัมโบ
ทริปนี้เราเลือกไปศรีลังกากับไฟล์ทบินตรงกับแอร์เอเชียจาก
ดอนเมือง-โคลัมโบ ขออัพเดทให้เพื่อนๆได้ทราบว่าสายการบิน
AirAsia เค้ามีบินตรงจากดอนเมือง 4 เที่ยวต่อสัปดาห์ จันทร์/พุธ/ศุกร์/อาทิตย์
กระซิบดังๆว่าวันบินไป-กลับของรูทโคลัมโบดีมากๆเอาใจนักท่องเที่ยวชาวไทยจริงๆ
และดีไปกว่านั้นคือเวลาบินคุ้มที่สุด ไม่ต้องลางานบินกลางวันให้เสียเวลาเพราะไฟล์ทนี้ เค้าบินกลางคืน
รายละเอียดเที่ยวบิน ดังนี้ ขาไป Flight FD140 จะออกจากดอนเมือง (DMK) เวลา 20.20 น. ถึงโคลัมโบ (CMB) ประเทศศรีลังกา เวลา 22.20 น.
ส่วนเที่ยวบินขากลับ Flight FD141 จะออกจากโคลัมโบเวลา 23.20 น. ถึงดอนเมืองเวลา 04.25 น. ในวันถัดไป (บินลงปุ๊บไปทำงานต่อยังไหว)
เวลาบินงีบแป๊บเดียว แค่ 3 ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงแล้ว เจ้านี้เค้าบอกว่าว่าบินคุ้ม คุณภาพครบ เราจะมาแนะนำเทคนิคไปโคลัมโบแบบคุ้มๆดีๆ
ตอนที่เพื่อนๆจองตั๋วอย่าลืม เลือกบริการเสริม #แพ็กสุดคุ้ม Add-on ไปด้วยเลยทีเดียวได้ทั้งโหลดกระเป๋าน้ำหนัก 20 กิโลกรัม
และยังได้ทานอาหารร้อนบนเครื่องอีกด้วย ใครอ่านรีวิวของเราแล้วอยากจิ้มจอง สามารถจองออนไลน์ในเว็บไซต์ www.airssia.com ได้เลย
ส่วนตัวแล้วเราเป็นแฟนคลับของแอร์เอเชียบินบ่อยมากๆ ไปฮะไปโคลัมโบกัน
Before You Go การเตรียมตัวก่อนไปเที่ยวศรีลังกา
หลังจากที่เราจองตั๋วเครื่องบินกันแล้ว ก่อนที่จะตามเราไป Journey to the unseen world ที่ศรีลังกา ขอแนะนำเกร็ดเล็กๆน้อยๆแต่สำคัญมากๆ กันซัก 5 ข้อ
วีซ่า เรื่องแรกหลังจากเราจองตั๋วเครื่องบินแล้วก็คือการทำวีซ่า สำหรับนักท่องเที่ยวที่ถือสัญชาติไทย สามารถขอวีซ่าได้ 2 แบบ คือ
1) Visa Online กรอกในเว็บไซต์แบบง่ายๆจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต เพียง 1 ชั่วโมงก็อนุมัติแล้ว
เข้าไปที่เว็บไซต์ www.srilankavisaonline.com ใช้เวลากรอกไม่เกิน 5 นาที
วีซ่าจะส่งมาทางอีเมล์ เพื่อนๆ Print แล้วนำไปยื่นที่ ตม. ได้เลย ราคาวีซ่าอยู่ที่ 35 USD.
2) Visa on arrival ไปทำวีซ่าหน้าด่าน ตม. ศรีลังกาที่สนามบินโคลัมโบ ถ้าเดินทางแบบจองปุ๊บไปปั๊บก็ไม่ต้องกังวลแค่เตรียมเอกสารไปให้ครบ รับรองผ่าน ตม.แบบสบายๆ เห็นนักท่องเที่ยวไป VOA กันเยอะพอสมควรเลยล่ะ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราแนะนำให้ทำวีซ่าออนไลน์ไปเลยจะได้ไม่เสียเวลาไปต่อคิว
การแลกเงิน สกุลเงินที่ศรีลังกาใช้เป็นหน่วย ศรีลังการูปี (LKR) เมื่อเทียบกับเงินไทย 1 บาท = 5.70 ศรีลังการูปี และที่เป็นข้อแนะนำสำคัญคือ ในไทยไม่ค่อยมีร้านไหนที่มีสต๊อกเงินศรีลังกาให้ ง่ายที่สุดคือแลกเงินดอลลาร์ไปแลกเงินศรีลังการูปีที่สนามบินโคลัมโบแต่ถ้าไม่ได้เตรียมดอลลาร์ไปเงินไทยเค้าก็รับนะฮะ ธนาคารเยอะมาก Rate รับได้ แบบนี้เข้าท่าที่สุด!!!
การเช่ารถ ทริปนี้เราเดินทางด้วยรถเช่าพร้อมคนขับ ข้อแนะนำคือ ต้องติดต่อและตกลงกันให้เรียบร้อย ส่งแผนการเดินทาง คอนเฟิร์มเรื่องค่าใช้จ่ายทุกอย่าง และเก็บหลักฐานไว้ยืนยันหน้างานด้วยนะ เผื่อไว้ในกรณีที่ไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ สำหรับบริษัทที่เราเช่ารถ เราใช้บริการของ www.carwayrentacarsrilamka.com เชื่อถือได้ตอบอีเมล์รวดเร็ว คนขับพูดภาษาอังกฤษคล่องปรื๋อ เออ..แนะนำสำหรับการเดินทางสั้นๆเช่น จากสนามบินไปในเมืองโคลัมโบ ที่ศรีลังกาเค้าก็มี Uber เหมือนกันนะ เปิด App เรียกได้เลยชิลล์ๆ
ระยะเวลาในการเดินทาง ตอนที่ทำแผนเที่ยวก็อาจจะทราบระยะเวลาการเดินทางด้วยรถว่าไปที่ไหนใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ ส่วนใหญ่เราดูตาม Google Map และก็วางแผนเที่ยว จะได้คำนวณระยะเวลาได้คร่าวๆ เราขอบอกเป็นไกด์เอาไปทำแผนเที่ยว ก็ประมาณนี้ Colombo – Sirigiya ประมาณ 3 ชั่วโมง Sigiriya – Kandy 2-3 ชั่วโมง จาก Colombo – Galle 2 ชั่วโมง และสุดท้าย จาก Galle – Pinnawala 4 ชั่วโมง ส่วนรถไฟ Kandy – Colombo ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง แอบบอกว่าในตัวเมืองแทบทุกเมืองของศรีลังการถติดพอสมควรเลยล่ะ เผื่อระยะเวลาเดินทางกันดีๆเน้อ
งบประมาณ เราเดินทางไปศรีลังกากัน 6 วัน 5 คืน ไปกันสบายๆหารกัน 4 คน ใช้งบคนละประมาณ 15,000 บาท แบ่งเป็นค่าที่พัก 3,300 บาท ค่าเช่ารถ 3,200 บาท ที่เหลือจะเป็นค่าใช้จ่ายในการเข้าชมอุทยาน ซาฟารีและวัดต่างๆ รวมถึงค่ากินและจิปาถะเรียกกันว่ากินกันแบบไม่อั้น ย้ำว่าราคานี้สำหรับ 6 วัน เราว่านักท่องเที่ยวไทยรับไหว เพื่อแลกกับประสบการณ์สุด Unseen ที่ศรีลังกา
เอาใจสายบุญ Gangaramaya Temple
ใครสายบุญยกมือขึ้น เริ่มต้นทริปด้วยความเป็นสิริมงคลกับวัดที่มีชื่อว่า Gangaramaya Temple หรือคนไทยคุ้นปากในชื่อ “วัดคงคาราม”
เป็นที่ตั้งของโรงเรียนพระพุทธศาสนาแห่งแรกของศรีลังกา วัดนี้เป็นวัดที่มีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของศาสนิกชนชาวโคลัมโบ
เราแนะนำให้ไปที่นี่เพราะตั้งอยู่ใจกลางเมือง และถือว่าได้ชื่นชมความศรัทธาของชาวศรีลังกาที่มีต่อศาสนาพุทธ
วัดตั้งอยู่ริมทะเลสาบบรรยากาศร่มรื่น ว่าไปก็คล้ายๆวัดในเมืองไทยเลยล่ะ
พิกัด : https://goo.gl/maps/V9TNFZNw9uw
ค่าเข้าชม (เรียกว่าค่าฝากรองเท้าจะดีกว่า) : 300 LKR
เอาใจสายบุญ Gangaramaya Temple
ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยและมีจุดเด่นที่ภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นรูปปั้นสามมิติมีความงดงามมาก นอกจากไทยและพม่าส่วนตัวเราก็ไม่ค่อยได้เห็นพิธีกรรมทางศาสนาพุทธในประเทศอื่นสักเท่าไหร่ ในการมาศรีลังกาในครั้งนี้ก็เลยเหมือนการเปิดโลกการเดินทางของเราอีกครั้ง วัดคงคารามเป็นทั้งวัดเป็นทั้งโรงเรียนสอนศาสนาและเป็นที่ที่ชาวศรีลังการรวมตัวกันทำบุญ นั่งสมาธิ รวมไปถึงการสวดมนต์อีกด้วย เข้าไปในวัดเราจะได้ยินเสียงสวดมนต์กันอื้ออึงเลยล่ะ
พิกัด : https://goo.gl/maps/V9TNFZNw9uw
Red Mosque of Colombo
ตามที่เกริ่นไปแล้วในรูปต้นๆอัลบั้ม ว่าที่นี่ต้องมาเพื่อถ่ายภาพ ในฐานะที่เราก็ไปตามคนอื่นมาที่นี่ และคาดว่าจะมีคนตามเรามาที่นี่เช่นกัน
และถ้าจะตามเรามาที่นี่ขอแนะนำว่าที่มัสยิดนี้มีทางเข้าทางออกหลายทางด้วยกัน
ภาพนี้เป็นทางเข้าบริเวณหน้า Main Street ปักหมุดแล้วเดินไปถ่ายตรงทางเข้าได้เลย
จะได้ยลความแกรนด์ ความใหญ่โตของมัสยิดสีแดงลายลูกกวาด
แนะนำการถ่ายรูปแบบอลังการของมัสยิดนี้คือการถ่ายมุมเสยขึ้นไปเพื่อเห็นความสวยงามของลวดลาดแดงขาวของมัสยิด
พิกัด : https://goo.gl/maps/Aq6jqCC9ja42
ค่าเข้าชม : ฟรี
Red Mosque of Colombo
ใครเช่ารถไปแบบเรา อย่าลืมนัดหมายเวลาและสถานที่กับคนขับรถให้ดีนะ เพราะย่านนี้เป็นย่านที่การจราจรหนาแน่นที่สุด พอๆกับจำนวนประชาชนแถวนั้น ให้จินตนาการว่าจำนวนคนในตลาดนัดจตุจักรอะไรทำนองนั้นแหละ เดินมาในเมนสตรีท จะเห็นภาพมัสยิดในมุมกว้างสวยและแปลกตามากๆ จะเห็นตัวอาคารสูง 6 ชั้น มัสยิดแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1909 และมีหอนาฬิกาอยู่ชั้นบน ที่นี่นับเป็นสถานที่ที่ต้องไปเก็บในโคลัมโบอีกแห่งหนึ่งจริงๆ แค่ที่เที่ยวแห่งที่ 2 สำหรับเราก็ Unseen แล้วนะ
พิกัด : https://goo.gl/maps/Aq6jqCC9ja42
ค่าเข้าชม : ฟรี
Main Street
ถ่ายรูปมัสยิดแดงกันเต็มที่แล้ว เราก็เดินเล่นกันที่ Main Street เพื่อถ่ายรูปเล่นกันบ้าง ช็อปปิ้งบ้าง ก็เดินเล่นเพลินๆกันไป
แหล่งท่องเที่ยวแถวๆนี้นอกจากมัสยิดแดง ก็มีโบสถ์ฮินดู และหอนาฬิกาที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโคลัมโบ
ที่นี่อาจจะวุ่นๆไปซักหน่อยเพราะเป็นตลาดและเสมือนแหล่งเศรษฐกิจของโคลัมโบ
หน้าตาของตึกรามบ้านช่องแถวนี้ก็ไม่ต่างจากเมืองใหญ่ๆ หลายๆเมือง
ส่วนตัวเราเราว่าโคลัมโบมีบรรยากาศคล้ายๆกรุงย่างกุ้งคือมีตึกสูง และย่านเศรษฐกิจอยู่เป็นโซนๆ ที่แยกออกจากโซนที่ชาวบ้านก็อยู่อาศัย
เราว่าน่าจะเป็นการรับอิทธิพลจากการจัดผังเมืองของอังกฤษ
King of Coconut
ถ้ามาศรีลังกาแล้วไม่ได้กินมะพร้าว Thambili (เต็มบิลี่) มะพร้าวพื้นเมืองศรีลังกาเปลือกสีเหลืองส้มสุกงามตา
มันไม่ธรรมดานะแก ขึ้นชื่อว่าเป็น King coconut ถ้าไม่กินถือว่ามาไม่ถึงศรีลังกา มีขายทั่วไปทุกสถานที่ในศรีลังกา เรากินมาแล้ว
จะผิดมั้ยถ้าบอกว่า เราชอบมะพร้าวน้ำหอมเมืองไทยมากกว่า เพราะมะพร้าวสีทองศรีลังกาน้ำไม่หวานมาก และเนื้อมะพร้าวลูกที่เรากินค่อนข้างแข็ง
เลยไม่แน่ใจว่าลูกอื่นเป็นยังไง แต่เราก็ recommended ให้ทุกคนชิมนะ ถือว่าเป็นอะไรที่หากินง่ายๆและไม่มีความเสี่ยงแต่อย่างใด
Dinner @Ministry of crab
วันนี้ในโคลัมโบ มื้อเย็นเราต้องไปร้านที่ใครๆก็แนะนำถ้าได้ไปเยือนโคลัมโบ ร้านนี้ชื่อว่า Ministry Of Crab เป็นร้านที่โด่งดังและขึ้นชื่อที่สุดในโคลัมโบ ใครมาประเทศนี้แล้วต้องหาทางมาลิ้มลองให้ได้ ย่านนี้เป็นย่านธุรกิจของโคลัมโบ ถ้านึกไม่ออกก็ประมาณย่านสาทรอะไรประมาณนั้น ดีไซน์ตึกแถวนี้เป็นตึกสไตล์โคโลเนียล ซึ่งเป็นอาคารเก่าที่ชาวดัตช์เคยสร้างไว้ก่อนที่ศรีลังกาจะถูกครอบครองโดยอังกฤษ แต่พอมาrenovateใหม่กลายเป็นตึกแถวเก๋ๆ ตกแต่งด้วยไม้ ร้านนี้ตามชื่อนั่นแหละเด็ดเรื่องอาหารทะเล เมนูแนะนำที่เราสั่ง
มาคือ ปูทะเลผัด อร่อย และเนื้อแน่นดี มีให้เลือกหลายขนาดตามราคา ส่วน
จะให้ร้านผัด เผา นึ่งก็ตามสบายเลยจ้า แต่ขอกาดอกจันทน์ไว้เลย ****ร้านนี้ต้องใช้งบระดับหนึ่งเลยนะจ๊ะ แต่รสชาติอร่อยมากๆ ถ้าไม่ติดอะไรไปกินได้
พิกัด : https://goo.gl/maps/NL68f6umD4K2
เว็บไซต์ : http://www.ministryofcrab.com/
เวลาเปิด-ปิด : Lunch 11.30 am to 03.30 pm
Dinner 05.00 pm to 11.00 pm
Dinner @Ministry of crab
ทำไมต้องไปกินอาหารทะเลที่ร้าน Ministry of Crab เพราะร้านนี้ไม่ใช่ร้านไก่กาที่ไหนนะฮะ ร้านอาหารชื่อดังของประเทศศรีลังกาแห่งนี้ เป็นร้านเจ้าของรางวัล 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชียปี 2015-2018 ก่อนมาถึงเราก็หาข้อมูลมาพอสมควรเลยไม่พลาดที่จะหิ้วท้องมาทานร้านนี้ รสชาติอาหารร้านนี้อร่อยถูกใจมาก เสิร์ฟในสไตล์ภัตตาคารหรู แอบคิดในใจว่าถ้ามีน้ำจิ้มซีฟู๊ดแบบไทยคงจะฟินสุดๆ 555 ใครตามเรามาเที่ยวครั้งก็แอบพกมาด้วยนะ 555 (ล้อเล่น…)
พิกัด : https://goo.gl/maps/NL68f6umD4K2
เว็บไซต์ : http://www.ministryofcrab.com/
เวลาเปิด-ปิด : Lunch 11.30 am to 03.30 pm
Dinner 05.00 pm to 11.00 pm
Sigiriya : มรดกโลก Must visit
IG Spot ช็อตแรก ณ Sigiriya ที่นี่แหละต้องมาเช็คอิน ถ้าจิ้มภาพ 10 ภาพของประเทศศรีลังกา เราเชื่อสุดใจว่า ภาพ Sigiriya หรือ Lion Rock จะเป็นภาพแรกที่ทุกคนรู้จักศรีลังกา ส่วนตัวเราบอกเต็มปากว่าที่นี่คือ Must visit
ที่ศรีลังกา ภูเขาหินที่มีซากพระราชวังโบราณตั้งอยู่ด้านบน คือความมหัศจรรย์
ที่สมควรเป็น 1 ใน 8 มรดกโลกของศรีลังกาจริงๆ ไฮไลท์ของที่นี่คือ
แท่งศิลาราชสีห์ รวมถึงภาพเขียนสีเฟรสโก อายุมากกว่า 2,000 ปี บนหน้าผา
ไม่อยากจะจินตนาการว่าอดีตตอนที่พระราชวังสมบูรณ์จะยิ่งใหญ่ขนาดไหน ขึ้นไปบนนั้นเตรียมตัวนิดนึงเด้อ เหนื่อยเอาเรื่องอยู่ ไปเยือน Sigiriya ต้องไปถ่ายรูปทางเข้า 1 ช็อต ที่เท้าสิงโต 1 ช็อต และกับวิวด้านบน 1 ช็อต ถึงจะเรียกว่า I am Instagramer! ตัวจริง
พิกัด : https://goo.gl/maps/3UkyAYhRhRD2
ค่าเข้าชม : 30 USD / คน
Sigiriya : มรดกโลก Must visit
เมื่อภาพแรกที่ต้องเช็คอินคือภาพแบล็คกราวน์เป็นภูเขาสิงโต ภาพบังคับที่ต่อมาต้องถ่ายให้ได้ จะต่อคิวคนเยอะขนาดไหนก็ต้องถ่ายคือ บันไดทางขึ้นภูเขา “สีหคีรี” หรือเขาสิงห์ ซึ่งพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ เป็นผู้ตั้งชื่อ จากลักษณะของหินรูปสิงโต ที่รู้จักกันดีในชื่อของ Lion Rock ซึ่งปัจจุบันเหลือแต่เท้าสิงห์ 2 ข้าง เราต้องไปถ่ายรูปคู่กับเท้าสิงโตมุมนี้เป็นอีกมุมที่โด่งดังของ พระราชวังสิกิริยา
พิกัด : https://goo.gl/maps/3UkyAYhRhRD2
ค่าเข้าชม : 30 USD / คน
Sigiriya : มรดกโลก Must visit
ที่นี่ไมได้มีดีแค่สวยงาม ตามที่เห็นในภาพเท่านั้น เมืองโบราณสิกิริยา แห่งนี้ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของประเทศศรีลังกา
องค์การยูเนสโกได้ยกย่องให้เมืองโบราณแห่งนี้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมในปี 1982 อีกด้วย ยิ่งใหญ่ สวยงาม และมีเสน่ห์จริงๆ
พิกัด : https://goo.gl/maps/3UkyAYhRhRD2
ค่าเข้าชม : 30 USD / คน
Sigiriya : มรดกโลก Must visit
แม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยมากแค่ไหนแต่เราก็มาถึงด้านบนพระราชวังกันจนได้ วิวด้านบน Lion Rock จะเป็นวิวแบบ Panorama 360 องศา
เรียกว่ามองไปมุมไหนก็ไกลสุดตา ภูเขาแห่งนี้มีรูปร่างหน้าตาที่ต่างไปจากภูเขาอื่นๆรอบข้าง
เราเชื่อว่านอกจากคนจะอยากมาถ่ายรูปเก็บความทรงจำที่นี่ หลายคนคงมีความใฝ่ฝันอยากจะมายลโฉมพระราชวังลอยฟ้ากันซักครั้งในชีวิต
และที่นี่แหละที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเที่ยวศรีลังกากันมากมายขนาดนี้
พิกัด : https://goo.gl/maps/3UkyAYhRhRD2
ค่าเข้าชม : 30 USD / คน
เที่ยวซาฟารี : Mineriya National park
หากเพื่อนๆชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ตามดูชีวิตสัตว์ป่า ชอบการผจญภัย ชอบเที่ยวที่แปลกๆ มาแนวบุกๆ ตะลุยๆ แอดเวนเจอร์
ไม่ว่าจะเป็นในไทยหรือ ต่างประเทศ คงจะนึกไม่ออกว่าศรีลังกาก็มีอะไรแบบนี้
ถ้ามีโอกาสมาเที่ยวที่ศรีลังกาเราว่าต้องจัดเวลามาส่องสัตว์ที่นี่ซะหน่อย
ที่ Mineriya National park มีความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ และพันธุ์พืช
ด้วยระบบนิเวศที่สมบูรณ์จึงเป็นที่มาของกิจกรรมการส่องสัตว์แบบ Safari
ส่องสัตว์เสร็จก็ถ่ายรูปบนรถจีปเท่ๆ แบบนี้ก่อน เช็คอินที่ “Safari @Srilanka” เท่สุดๆ
พิกัด : https://goo.gl/maps/LSnG7RZJrDq
ค่าเข้าชม : รถจีป คันละ 26 USD ค่าเข้าอุทยานคนละ 18 USD
บรรดาสัตว์ต่างๆ จากในรูปอาจจะไม่รู้สึก WOW อะไรมากมาย แต่เดี๋ยวก่อนนี่คือสัตว์ที่ออกหากินและอาศัยอยู่ในธรรมชาติจริงๆ
เราอาจจะชินหรือเคยได้ยินว่าถ้าไปเที่ยวซาฟารีต้องไปแอฟริกาอะไรทำนองนั้น
แต่ที่นี่ศรีลังกามีซาฟารีดีๆให้เราเข้าไปชมสัตว์แบบใกล้ชิด ใช้เวลาเพียง 1-2 ชั่วโมงเท่านั้นเอง (แนะนำให้ไปตอนบ่ายๆ)
บรรยากาศที่นี่ทำให้เราลืมไปเลยว่าศรีลังกาคือเมืองที่ล้อมรอบด้วยมหาสมุทรอินเดีย
ไม่คิดว่าจะมีกิจกรรมแบบนี้บนประเทศที่เป็นเกาะ บอกแล้วว่าศรีลังกานี่เค้าอุดมสมบูรณ์จริงๆ
นี่แหละคือ Journey to the unseen world ของพวกเราอีกหนึ่งที่
CastleRockSigiriya
หลังจากเที่ยวกันอย่างหนักหน่วงแล้ว เราก็มาพักกันที่โรงแรมน่ารักๆ ถูกอกถูกใจเรามาก
ที่พักในศรีลังกาแทบทุกที่ดีหมด พนักงานบริการดีเสมือนดูแลคนในบ้าน Castle Rock คืออีกที่ที่เราอยากแนะนำ ห้องกว้างมาก ห้องน้ำตีลังกาได้
แถมห้องยังหอม เหมาะกับการพักผ่อนมากๆ ส่วนอาหารเช้า เราออกจากที่พักเช้ามาก สต๊าฟเลยจัดใส่กล่องเตรียมไว้ให้เราอย่างเต็มที่ ประทับใจสุดๆ
เกร็ดที่อยากจะบอกสำหรับการจองทีพักในศรีลังกา ก็คือพยายามหาที่พักที่เดินทางไปสถานที่เที่ยวสะดวก จะได้ประหยัดเวลาในการเที่ยว
กลับมาเรื่องที่พักในศรีลังกากันต่อ ที่พักทุกแห่งที่เราไปพักไม่แพงเลยราคาเฉลี่ยแค่ คืนละ 700-1,200 บาท เท่านั้นเอง สามารถจองผ่านเว็บเอเจนซี่แบบสบายๆ
พิกัด : https://goo.gl/maps/HCtTnVnKzy92
ไร่ชาซีลอน @Kandy
ศรีลังกาต้องมาไร่ชา สำหรับชาวศรีลังกาหรือแม้แต่อินเดียจะชินกับการปลูก และดื่มชามากกว่าการดื่มกาแฟ ซึ่งอิทธิพลนี้มาจากการถูกครอบครองโดยอังกฤษเป็นร้อยปี แหล่งปลูกชาซีลอนก็เกิดจากการเลือกสภาพภูมิอากาศที่ดีที่สุดของเจ้าอาณานิคมอังกฤษ และร้อยปีต่อมาที่เมืองแคนดี้และเมืองรอบข้างคือแหล่งปลูกชาซีลอนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นชาที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
พิกัด : https://goo.gl/maps/svH14hEnth12
ค่าเข้าชม : ฟรี
ไร่ชาซีลอน @Kandy
เมืองแคนดี้ เป็นเมืองหลวงเก่าของศรีลังกา ในความเป็นจริงเมืองนี้มีอะไรมากกว่าไร่ชาอีกเยอะมากๆ แต่สำหรับทริปนี้เราอยากมาเห็นแหล่งปลูกชาซีลอน และอยากมานั่งรถไฟเท่านั้นเอง พอถึงไร่ชาพวกเราลงไปพบคุณป้าขอถ่ายรูป ขอเดินเล่นซึมซับบรรยากาศกันซักหน่อยไม่พลาดที่จะขอให้คุณป้า คุณยายสาธิตวิธีการเลือกใบชาและเด็ดใบชาให้พวกเราดู ได้ทีก็เลยลองเด็ดใบชากับคุณยายก้นซะเลย
พิกัด : https://goo.gl/maps/svH14hEnth12
ค่าเข้าชม : ฟรี
รถไฟศรีลังกามาขึ้นแล้ว
รถไฟศรีลังกาคือจุดหมายปลายทางนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งส่วนมากอยากจะลองสัมผัสการนั่งรถไฟเพื่อห้อยโหนขนาบไปกับไร่ชา
พูดไปมันก็คลาสสิคดีนะ แต่ว่ารถไฟสายที่คนไปดูไร่ชากันมันคือสายรถไฟ Kandy-Ella
แต่เราจะไม่ไปสายนั้น เราจะนั่งรถไฟกลับโคลัมโบ พี่คนขับรถจะไปรอรับเราที่นั่นและต่อไปยาวๆที่เมือง Galle
รถไฟออกเวลา 13.00 ถึงโคลัมโบเวลา 16.00 น. เพื่อความชิลล์เรานั่งรถไฟชั้น 3 แบบระบุที่นั่ง และการเดินทางก็เริ่มขึ้น…ปู๊นๆ
สำหรับทริคในการเลือกที่นั่งไม่มีอะไรมาก เพียงแค่ซื้อตั๋วชั้นใดก็ได้แบบระบุที่นั่งเพราะชาวศรีลังกายังเดินทางกันโดยรถไฟ
จึงทำให้ทุกขบวนรวมถึงขบวนที่เราไป เต็มไปด้วยคนและจะบอกว่าถ้ามีเวลาไปจองรถไฟไว้ก่อนล่วงหน้าก่อนวันเดินทางซัก 1-2 วัน
ที่สถานีรถไฟเท่านั้นไม่สามารถซื้อออนไลน์ได้นะจ๊ะ
พิกัด : https://goo.gl/maps/NoCgM3ARu7P2
ค่ารถไฟ : 105 LRK / คน
เว็บไซต์ : http://www.railway.gov.lk/web/
บรรยากาศในสถานีรถไฟและรูปร่างหน้าตารถไฟไม่ได้แตกต่างจากรถไฟไทยมากมายนัก แต่คนศรีลังกาบนรถไฟเป็นมิตรมากเหลือเกิน
ยังย้ำว่าคนที่นี่น่ารักและวิวข้างทางที่โคตรจะชิลล์ เริ่มเดินทางจากเมืองแคนดี้ที่อยู่ที่สูงผ่านภูเขา ป่า ไปสู่ทุ่งข้าว ก่อนที่จะเข้าเมืองโคลัมโบ
เราอย่าลืมว่าเรามาตามล่า IG SPOT เมื่อเราขึ้นรถไฟแล้วหาจังหวะดีๆ จัดการนัดแนะกับตากล้อง แอ๊คท่าเจ๋งๆ ถ่ายรูปกันซักช็อต
แต่อย่างไรก็ตามขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่งนะฮะ
สำหรับรถไฟในศรีลังกา เริ่มต้นในปี 1864 โดยรัฐบาลอังกฤษสร้างไว้เพื่อใช้ในการขนส่งใบชา และกาแฟจากยอดเขา มุ่งสู่เมืองหลวงโคลัมโบ
ดังนั้นระหว่างทางเราก็จะได้ผ่านไร่ชาบนเนินเขา ป่าไม้เขียวขจี สะพานข้ามแม่น้ำกลางหุบเขา และทิวทัศน์ชนบทแบบศรีลังกา
IG SPOT ท่าบังคับมาอีกแล้วจ้า ต้องถ่ายตอนไหนดีที่สุด ต้องเป็นช่วงที่รถไฟวิ่งไปบนรางโค้งๆ จะได้เห็นรถไฟยาวๆทั้งขบวน
ต้องเตรียมตัวดีๆเพื่อจะได้ภาพแชะเดียวจบเลย การได้มานั่งรถไฟมันก็ดีไปอีกแบบนะได้บรรยากาศแบบคนท้องถิ่นจริงๆ
สำหรับรถไฟสาย Kandy-Colombo แรกๆอยู่บนเขา หลังๆจะผ่านนาข้าวสวยงาม
Elita Restaurant
หลังจากที่หิวโหยกับการเดินทาง วันนี้เรามาขอจัดหนักจัดเต็มกับมื้อซีฟู๊ดสุดพิเศษ
ร้านอาหารทะเลร้านนี้ โดดเด่นและดูมีอะไรให้น่าเข้ามาก พอเราเข้าไปก็เซอร์ไพรส์เมื่อพบว่า เราเป็นที่สนอกสนใจของสต๊าฟในร้านทุกคน
เพราะนักท่องเที่ยวไทยไม่ค่อยมาเที่ยวศรีลังกาเท่าไหร่ แต่มีสต๊าฟคนหนึ่งกำลังจะเดินทางมาเที่ยวกรุงเทพอีกด้วยนะ
สำหรับเมนูอาหาร อร่อยมากกกกก เหมือนกินข้าวอยู่ที่บ้าน ผักที่ใช้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผักบุ้ง กระเทียม อะไรที่เราคุ้นเคย
แถมอีกอย่างคือ พนักงานบริการสุดๆ เราว่านี่เป็นจุดที่น่าประทับใจมากๆ ของการมาเที่ยวทริปนี้เลยแหละ
พิกัด : https://goo.gl/maps/Mzf8SQL7ovu
คนศรีลังกาน่ารัก
โปรยมาตั้งแต่ต้น และมาถึงตรงนี้ก็ยังพูดอีกครั้งว่าคนศรีลังกาโคตรน่ารัก ก่อนที่เราจะลงไปที่ชายหาด
ก็ถ่ายรูปเล่นกัน พี่ๆชาวบ้านก็พกรอยยิ้มสดใสเดินเข้ามาร่วมเฟรมกับแบบไม่มีเขิน
นี่จะเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของศรีลังกาที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเที่ยวซ้ำๆแน่นอน ขนาดเรายังอยากกลับไปซ้ำเลย…
The Palm Rope Swing @ Galle City
ที่นี่ก็เป็น IG Spot ของศรีลังกาเช่นกัน ชิงช้าจากต้นมะพร้าวนี่แหละ มันยากนะแก การโหนไปยังไงให้มันถ่ายแล้วเท่ๆ
แต่ก็ไม่มีอะไรเกินความสามารถของพวกเรา โหนไปเลยจ้า 4 ครั้ง ลงมาแขนสั่น ขาสั่นกันเลย
เดินเล่นริมชายหาด ทะเลศรีลังกาเราก็ไปมาแล้ว เมือง Galle เป็นเมืองตากอากาศของชาวอังกฤษเมื่อร้อยปีที่แล้ว
ที่นี่ชิลล์มากจริงๆ ลมเย็นสบายและชายหาดคนน้อยมาก เดินเล่นได้ยาวๆ เมือง Galle เหมาะกับคนที่ชอบเล่น Surf อีกด้วย เพราะคลื่นที่นี่ค่อนข้างแรง
พิกัด : https://goo.gl/maps/cQ4nZNgoVDC2
ค่าเล่น Rope Swing : 500 LKR
Stilt Fishing @Galle City
ตกปลาบนเสากลางทะเลที่ศรีลังกา (stilt fishing) มีเพียงไม่กี่เมืองทางใต้ของประเทศศรีลังกาที่จะได้เห็นการตกปลาแบบนี้
ซึ่งน่าจะเป็นเพียงแห่งเดียวในโลก ชาวบ้านริมทะเลกับวิถีชีวิตและอุปกรณ์ที่เรียบง่ายเห็นได้ทั่วไป
แต่ที่เราถ่ายรูปมาให้เพื่อนๆดูในครั้งนี้ชาวบ้านเค้าจำลองการตกปลาให้เราดูเพื่อถ่ายรูปเท่านั้น ไม่ได้มีการตกจริงแต่อย่างใด
พิกัด : https://goo.gl/maps/qhLXHkPDTt22
ค่าเข้าชม : 2000 LKR
ถ่ายรูปเช็คอินกันแบบเท่ๆแล้ว ใครอยากไปนั่งตกปลาทำท่าบนเสาก็ได้นะ
แต่วันที่เราไปคลื่นค่อนข้างแรงเลยไม่ได้ปีนขึ้นไปแอ๊คท่าเท่ๆ
เราจะบอกว่าการตกปลาพื้นเมืองแบบนี้ปัจจุบันไม่มีการตกปลาจริงๆ แบบนี้แล้ว
เพราะวิถีชีวิตที่ดูเป็นเอกลักษณ์ ประเพณีอันเก่าแก่ได้สาบสูญไปพร้อมกับคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี 2004
ถึงทุกวันนี้จะเป็นแค่การจำลองแต่เราก็ได้ซึมซับความเป็นศรีลังกาได้มากขึ้น
Coconut Tree hill
โดมต้นมะพร้าว นี่แหละคือมุมที่เราตามหา ถึงทริปนี้จะเที่ยวกันแบบแน่นๆ
แต่ก็ไม่พลาดที่จะมาเป็น Instagramer ที่ต้องมาเช็คอินกับต้นมะพร้าวปลายชายหาด ถึงบางคนจะเห็นแล้วไม่อิน
ซึ่งตอนแรกก็เฉยๆนะ แต่พอได้จับบรรดาต้นมะพร้าวทิวแถวนี้เข้าเฟรมเราก็เลยรู้ว่า
อ๋อ แบบนี้นี่เอง มันดีแบบนี้ มันสวยจริงๆ ใช้เวลาที่นี่ไม่ต้องนานมาก เลือกมุม หาทิศ หล่อๆสวยๆของตัวเองให้ได้ก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์
Must Visit อีกหนึ่งที่ที่ต้องมา
พิกัด : https://goo.gl/maps/E1LNvv8sm3U2
ค่าเข้าชม : ฟรี
พิกัดนี้คนไม่เยอะ ไม่ต้องแย่งกัน ชาวต่างชาติหลายๆคนมานั่งชิลล์ๆกันริมโขดหินบ้าง ริมทะเลบ้าง
เป็นอีกมุมหนึ่งที่ค่อนข้างสงบ ส่วนใครจะโพสต์ท่าถ่ายรูปก็ทำได้เต็มที่ไม่ว่าจะโยคะบนหิน จะเกาะหรือพิงต้นมะพร้าวก็เอาตามที่สบายใจได้เลยจ้า
กินอาหารทะเลริมหาด Ayam Zaman
ร้านอาหารทะเลดีๆ อีกที่ที่เราอยากนำเหนอ อยู่ริมชายหาด Unawatuna
ทะเลที่นี่แดดไม่แรงและไม่ร้อนแสบแบบไทยนะ ลมกำลังดี ทุกอย่างกำลังชิว
แถมอาหารทะเลก็ถูกมากกกกกกก เราว่าเราชอบที่นี่เพราะเหตุผลนี้
ด้วยอีกหนึ่งประการ
พิกัด : https://goo.gl/maps/6bPAHMHor5q
Dutch Culture @Galle City
Dutch Culture ณ เมือง Galle อีกหนึ่งจุดชมวิวยอดนิยม ถ้าหากคุณไม่มาก็เท่ากับว่าคุณยังมาไม่ถึง Galle เป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เพราะเคยถูกปกครองโดยเจ้าอาณานิคมฮอลันดา (ในอดีต) และถูกปกครองจากอังกฤษกว่า100 ปี ทำให้ที่นี้มีมรดกยุคอาณานิคมหลงเหลือให้เยี่ยมชมมากมาย เช่น ป้อมปราการเมืองกอลล์ (Galle Fort) หนึ่งในแหล่งมรดกโลก หรือ Dutch Reformed Church หนึ่งในโบสถ์นิกายโปรเตสแตนด์ที่เก่าแก่ที่สุดในศรีลังกา
พิกัด : https://goo.gl/maps/E1LNvv8sm3U2
ค่าเข้าชม : ฟรี
Dutch Culture @Galle City
รู้หรือไม่เมือง Galle พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยแวะพักที่เมืองกอลล์ระหว่างเสด็จประพาสยุโรปครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2440
แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ Galle Fort สร้างขึ้นครั้งแรกโดยชาวโปรตุเกสสมัยเข้าปกครองศรีลังกาในปี คศ. 16
ซึ่งเป็นยุคล่าอาณานิคม บรรยากาศในเมืองนี้เป็นชุมชนฝรั่งแบบจริงจังมากๆๆ ไม่แปลกใจว่าทำไมเป็นมรดกโลก และยังคงสภาพสมบูรณ์มากๆ
พิกัด : https://goo.gl/maps/E1LNvv8sm3U2
ค่าเข้าชม : ฟรี
ดูช้างเล่นน้ำ @ Pinnawala
Instagramable Spot จุดสุดท้ายของศรีลังกาในทริปนี้
ไม่มาไม่ได้นะที่นี่ไฮไลท์สำคัญของการมาเที่ยวศรีลังกาอีกอย่างกนึ่งคือการมาใกล้ชิดเจ้าช้าง
ที่เดินพาเหรดมาทุกวัน วันละ 3 รอบ จะบอกว่ามาครั้งละหลายสิบตัว
เดินมาแบบน่ารักๆ เป็นการเที่ยวศรีลังกาอีกรสชาติหนึ่งที่จะได้เจอฝูงช้างจำนวนมากๆ
หากนักท่องเที่ยวอยากอาบน้ำช้างหรืออยากเข้าไปใกล้ชิดก็ต้องจ่ายค่าเข้าไปอีกนิดหน่อย
เราแนะนำว่าจองที่พักติดริมน้ำไว้เลยจะได้ไม่ต้องเดินทางไปไหน เช้ามาปุ๊บถ่ายรูปปั๊บ
แนะนำว่ารอบที่ช้างมาเยอะที่สุดคือรอบ 10.00 น. บรรยากาศฟินนะบอกเลยช้างเล่นน้ำในลำธารฝั่งตรงข้ามเป็นภูเขา Relax สุดๆ
พิกัด : https://goo.gl/maps/2nk1KNJWXtS2
เวลาช้างเล่นน้ำ : 8.30 / 10.00/16.00 น.
ค่าอาบน้ำช้างแบบใกล้ชิด : คนละ 700 LRK
พาเหรดช้างอาบน้ำช้างที่เราเห็นมาจากแคมป์ช้าง elephant orphanage
ที่จะลงมาอวดโฉมทุกวันวันละ 3 รอบ ที่นี่น่ารักมากจริงๆได้เห็นบรรยากาศที่นักท่องเที่ยวหลายๆคนตื่นเต้นที่ได้เห็นช้างอาบน้ำ เล่นน้ำกัน
อาบน้ำน้องช้างกันเถอะ เราว่าคนไทยหลายๆคนเคยขี่ช้าง
อาบน้ำช้างที่ไทยกันอยู่แล้วแต่นี่คือประสบการณ์สำคัญของเราที่ได้เล่นกับช้าง
อาบน้ำช้างที่ต่างประเทศ 555 การจ่ายเงินเพื่ออาบน้ำแบบใกล้ชิดทำให้เราถ่ายรูปกันแบบไม่อั้นกันเลย
และที่เราแนะนำจริงๆอีกหนึ่งอย่างก็เพราะที่นี่ไม่ไกลจากสนามบินมาก จึงเหมาะเก็บไว้เป็นที่เที่ยวสุดท้ายก่อนกลับไทย
เอาล่ะ มาถึงวันที่เราจะต้องกลับบ้านแล้ว ยังไม่อยากกลับเลย
รวมๆแล้วศรีลังกาถูกจริตการเที่ยวของเรามากๆ บรรยากาศดี มีสตอรี่เด็ดๆ มีมุมถ่ายรูปสวยๆเยอะ
ไม่งั้นเราคงไม่เที่ยวในธีมตามล่า IG Spotสถานที่เที่ยวต่างๆก็สวยสมคำร่ำลือ ศรีลังกาเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกแบบ
สรุปง่ายๆว่าที่นี่แหละสด ใหม่ และดีจริงๆ ธรรมชาติที่สมบูรณ์และสวยงาม
ประวัติศาสตร์ของศรีลังกาที่ยาวนาน ผสมผสานวัฒนธรรมของตะวันตกทำให้ศรีลังกาเป็นประเทศที่มีความลงตัวในหลายๆด้าน
อีกทั้งค่าครองชีพไม่แพง การสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษก็สะดวก ยิ่งไฟลท์แอร์เอเชียบินตรงบินมาแค่แป๊บเดียวลงโคลัมโบกันได้เลยจ้า
รู้แบบนี้แล้วล่ะก็มากันเลย ศรีลังการอต้อนรับอยู่ อย่ารอช้า รีบกดจองตั๋วเลยจ้า
เราลอง ไปค้นพบความต่างธรรมชาติที่ยังไม่เคยสัมผัส กันที่ศรีลังกาเหมือนที่เรามาสัมผัส
และนี่แหละคือ Journey to the unseen world ที่ศรีลังกาของเรา
แล้วไว้เจอกันรีวิวหน้า เราจะเอาที่ไหนเด็ดๆ มาฝากกันอีก อย่าลืมติดตาม บะบายยยยยย
.
.
ด้วยรัก
บันทึกคนขี้เที่ยว
Propecia Kidney Damage http://buyciaonlinex.com/# – Cialis 12 Amps Of Keflex For Nauseating cialis canada Cialis Brand 10mg
Generic Propecia 20mg http://abcialisnews.com – Buy Cialis Acquista Propecia cialis 5mg Buy Amoxicillin Amazon 252