เข้าสู่ช่วงปลายปี อากาศเริ่มดี ลมเย็นๆ เริ่มพัดมา เป็นสัญญาณบอกว่า ถึงเวลาออกไปกางเต็นท์ริมน้ำชิลๆ จิบกาแฟแลรถไฟ ให้แคมป์ปิ้งเยียวยาจิตใจจากความเหนื่อยล้าที่ผ่านมาเสียที ซึ่งทุกอย่างที่พูดมา หาได้ที่นี่ ‘บ้านริมแควแพริมน้ำ’ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จุดเด่นของที่นี่นอกจากความชิลและสงบแล้ว เค้ายังมีทั้งลานกว้าง หาดทรายน้ำใสและวิวรถไฟผ่านไปผ่านมาให้ได้ภาพสวยจนเพื่อนอิจฉา เรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นก็มีครบครันเทียบเท่าลานกางเตนท์อื่นแบบไม่น้อยหน้า
และถึงแม้มาตรการคลายล็อคดาวน์จะทำให้พวกเราออกเดินทางได้ แต่ถึงอย่างไรพวกเราทุกคนก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี เว้นระยะห่างระหว่างเต็นท์ ใส่หน้ากาอนามัยเมื่อใช้พื้นที่สาธารณะ และล้างมือด้วยสเปรย์แอลกอฮอล์บ่อย ๆ ด้วยน้า
ว่าแล้วก็รีบหยิบอุปกรณ์ขึ้นรถ คว้าตะเกียงที่เพิ่งเอฟมา ถึงเวลาออกไปแคมปิ้งกันเล้ยยยยยย
ข้อมูลเพิ่มเติม
FB : บ้านริมแควแพริมน้ำ รีสอร์ท
Tel : 081-9440657, 081-9440613
พิกัด : goo.gl/maps/sMiFTg4euZJ11fJa8
ความชิลคือสามารถเอาเก้าอี้ลงไปนั่งแช่ขาในน้ำได้เลย
ข้อควรรู้
-ค่ากางเต็นท์คนละ 150.-
-ติดต่อลงทะเบียนที่ประชาสัมพันธ์ก่อนเข้าลานกางเต็นท์
-ที่นี่วิวสวยมากอยู่ตรงข้ามถ้ำกระแซเลย
-ห้องน้ำค่อนข้างเดินไกลแต่สะอาด และมีหลายห้องแบ่งชายหญิง น้ำแรงดี ไม่มีน้ำอุ่น
-เล่นน้ำได้สบาย ไม่อันตราย เป็นหาดหิน น้ำใสเย็นสบาย
-สามารถขับรถมาจอดเอาของลงที่จุดกางเต็นท์และขับไปจอดที่จอดรถได้
-อย่าลืมเตรียมปลั๊กไฟมาอย่างน้อย 20 เมตรในกรณีที่จะกางริมน้ำ
-สามารถทำอาหารทานได้ แต่ต้องใช้เตาห้ามก่อไฟกับพื้นหญ้าน้า
-มีจุดล้างจานใกล้ๆ ทิ้งขยะตามจุดที่เตรียมไว้ให้เท่านั้น
ถ้าอยากลองเปลี่ยนมุมจากลานกางเต็นท์มาเป็นฟากรางรถไฟบ้างก็ลองเดินทางด้วยรถไฟมาที่ถ้ำกระแซดู
ภาพมุมสูงของลานริมน้ำ จุดนี้เป็นโค้งน้ำพอดี ทำให้มีลานหาดทรายขึ้นมาและส่วนน้ำตื้นจะเป็นหินทำให้น้ำใสแจ๋วน่าเล่นสุด ๆ ไปเลย
จุดกางเต็นท์ตรงนี้วิวดีมาก อยู่ริมแม่น้ำตรงข้ามถ้ำกระแซเลย ทำให้เราได้วิวทางรถไฟทำให้นั่งดูรถไฟผ่านไปมาได้แบบชัด ๆ โดยปกติแล้ว บ้านริมแคว แพริมน้ำ มีทั้งห้องพัก กิจกรรมล่องแพและลานกางเต็นท์ให้บริการ แล้วแต่ใครจะชอบเลย
มาถึงเราก็เริ่มจัดแจงกางเต็นท์ กระจายอุปกรณ์ สร้างพื้นที่ส่วนกลางสำหรับทำอาหาร ช่วงวันธรรมดาที่นี่จะเงียบคนน้อยมากเป็นพิเศษ จึงทำให้เราสามารถเลือกโลเคชั่นที่ดีที่สุดได้
อีกหนึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกของที่นี่คือ มีปลั๊กไฟให้บริการสามารถใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ ช่วงกลางวันหรือตอนอยู่ในเต็นท์ก็เปิดพัดลมเย็น ๆ ได้ แต่หากเลือกนอนริมน้ำก็ต้องย้ำว่าควรมีปลั๊กพ่วงที่มีความยาว 20 เมตรขึ้นไปน้า
ช่วงสถานการณ์ปกติ สาย ๆ ไปถึงบ่าย ๆ เราจะเห็นกลุ่มล่องแพผ่านไป เห็นถึงความสนุกสนาน มันช่วยคลายร้อนบวกกับคลายเคลียดได้ดีเลยล่ะเราว่า
มาถึงพวกเราก็ไม่อยู่เฉย หยิบกล้องมาถ่ายรูปไป เฮฮากันไป ไม่ทันไรรู้ตัวอีกทีก็แดดร่มลมตกเสียแล้ว
จากกิจกรรมฟรีสไตล์กลายเป็นการรวมพลทุกคนให้เข้ามาล้อมวงทำอาหารเย็นสำหรับดินเนอร์สุดพิเศษคืนนี้ เสน่ห์อีกอย่างของการมาตั้งแคมป์คือการได้ทำอาหารง่ายบ้างยากบ้างแล้วแต่จะสร้างสรรค์เมนูกันไป แรก ๆ ก็เริ่มต้นด้วยเมนูง่าย ๆ พออิ่มหลับสบายก็พอ แต่พอออกแคมป์หลายครั้งเข้า อุปกรณ์เริ่มเยอะ เมนูเริ่มพิศดารขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้หลาย ๆ คนก็คือไปแคมป์ทีเหมือนห้องครัวเคลื่อนที่ไปแล้ว
ตื่นเช้ามาด้วยความสดชื่น น้ำใสๆ ร้องเรียกให้เราไปทำตัวฮิปๆ จิบกาแฟแช่น้ำ พร้อมหม่ำอาหารเช้าแบบง่าย ๆ มันชิลสุด ๆ ไปเลยล่ะว่ามั้ย
วิวนี้แหละที่ทำให้เราตัดสินใจมา มันเยียวยาจิตใจที่เหนื่อยล้าได้มากจริงๆ
ช่วงวันธรรมดาที่นี่คนน้อยมาก แต่หากเป็นช่วงที่มีคนอื่น ๆ มาร่วมกางเต็นท์ด้วยก็อย่าลืมรักษาความสงบและเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้อื่นกันด้วยล่ะ
หลากหลายมุมชิล ๆ ให้เราได้ปล่อยใจ
ลานกางเต็นท์ตรงนี้เป็นโค้งน้ำพอดี จึงทำให้มีทั้งส่วนน้ำตื้นและน้ำลึก สามารถลงเล่นน้ำได้แบบแค่พอเปียก หรือจะเต็มที่ลงทั้งตัวก็ได้ อีกอย่างก็คือเหมาะกับเด็ก ๆ มาเล่นด้วย
หากใครอยากได้ฟิลลิ่งก็ลองเดินทางด้วยรถไฟลงที่สถานีถ้ำกระแซได้น้า ระหว่างเดินทางก็สามารถเห็นวิวลานกางเต็นท์ได้เลย
การออกไปตั้งแคมป์ได้ออกแรงกางเต็นท์จัดนั้นทำนี่ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่หลายคนหลงไหล หรือหากใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากนอนโรงแรมทุกทริปมาเป็นแคมปิ้งแบบแนบชิดธรรมชาติก็มาลองกันดูได้ สุดท้ายมันก็คือการได้ออกไปใช้ชีวิตได้สัมผัสโลกภายนอก ได้ออกจากกรอบและผ่อนคลายจิตใจเช่นกันทั้งนั้น และไม่ว่าจะไปที่ไหน แคมปิ้งกับใคร ก็อย่าลืมใส่ใจ ดูแลรักษาสถานที่นั้น ๆ กันด้วยล่ะ คนต่อ ๆ ไปจะได้มาเห็นวิวสวย ๆ แบบเราไปอีกนาน ๆ
ด้วยรัก
บันทึกคนขี้เที่ยว