นั่งทำงานวุ่นวายหน้าคอมอยู่ดี ๆ รู้ตัวอีกทีก็ปลายปีแล้วนะ
เอาล่ะ! นี่คือฤกษ์งามยามดีที่จะออกไปชาร์ตพลัง เติมไฟ ให้หายเหนื่อยกับทริปสั้น ๆ 2 คืน 3 วันแบบพอน่ารัก และเดสทิเนชั่นดี ๆ ที่อยากแนะนำก็ยังคงเป็น ‘เชียงใหม่’ ไม่เคยหลุดโผ เพราะนอกจากจะได้ความชุ่มฉ่ำ ดื่มด่ำธรรมชาติสุดปอดแล้ว ยังมีกิจกรรม คาเฟ่ แหล่งเช็คอินเก๋ ๆ ให้ได้อัพเดตไม่เคยเบื่อ รอบนี้เราขอพาไปทางเส้นแม่แตงกันบ้าง ออกเดินทางไปพัก 2 โฮมสเตย์ 2 คาเฟ่ และหนึ่งอาณาจักรน้องแมว ถ้าพร้อมกันแล้ว เก็บกระเป๋าเตรียมออกเดินทางไปใช้ชีวิตสโลวไลฟ์ที่เชียงใหม่กับเรากันเลย
และไปเชียงใหม่ง่าย ๆ ก็ต้องบินไปอย่างมั่นใจกับแอร์เอเชีย ทั้งสะดวก ปลอดภัย ตรงเวลา มีเส้นทางบินครอบคลุม บินตรงสู่เชียงใหม่ ทั้งจากกรุงเทพ (ดอนเมือง , สุวรรณภูมิ) และข้ามภาคจากขอนแก่น ภูเก็ต หาดใหญ่ สุราษฯ กระบี่ และหัวหิน
จองกันได้ที่ : app.airasia.com/F4uy/rua8wltt
และไปเชียงใหม่ง่าย ๆ ก็ต้องบินไปอย่างมั่นใจกับแอร์เอเชีย ทั้งสะดวก ปลอดภัย ตรงเวลา แถมยังมีเส้นทางบินครอบคลุม ให้เราสามารถบินตรงสู่เชียงใหม่ ได้ทั้งจากกรุงเทพ (ดอนเมือง, สุวรรณภูมิ) และข้ามภาคจากขอนแก่น ภูเก็ต หาดใหญ่ สุราษฯ กระบี่ และหัวหิน ง่ายขนาดนี้จะไม่บินไปได้ไงงงงงง
จองกันได้ที่ : app.airasia.com/F4uy/rua8wltt
พร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันเล๊ยยยยยย
Day 1
001 Magokoro Teahouse – มีใจให้มัทฉะ
ลงเครื่องมาไม่ทันไร ก่อนจะขับรถไปเส้นแม่แตง ขอแวะเสพบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นที่ร้านชาเขียวสุดป๊อปแห่งเชียงใหม่อย่าง Magokoro Teahouse – มีใจให้มัทฉะ ที่นี่เป็นร้านที่เอาใจสายชาเขียวโดยเฉพาะ มีทั้งเมนูเครื่องดื่มและขนมที่บอกเลยว่าน่ากินทุกเมนู ตัวร้านก็ตกแต่งดีมากกกก เหมือนพาตัวเองไปอยู่ในญี่ปุ่นทิพย์เลยก็ว่าได้ ทั้งการตกแต่ง บรรยากาศ ขนม เครื่องดื่มรับรองว่าทุกอย่างไม่ทำให้เราผิดหวังแน่นอน
ข้อมูลเพิ่มเติม
FB : Magokoro Teahouse – มีใจให้มัทฉะ
Tel : 064-117-0781
พิกัด : g.page/magokoro-tea?share
ตั้งแต่ทางเข้า หน้าร้าน เข้ามายันภายในร้านล้วนตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น อบอุ่น น่ารัก เน้นงานไม้คุมโทน ทุกมุมดูตะมุตะมิไปหมด กลางร้านมีโต๊ะชงชาให้เรายืนดูทุกกรรมวิธีในการรังสรรค์เมนูดี ๆ มาให้เรา
สิ่งที่เลิฟสุดคือโซนด้านนอกร้านที่เป็นสวนญี่ปุ่นสไตล์ zen เรียกได้ว่าตรงนี้คือไฮไลท์ก็ได้ การได้นั่งจิบชา ตักขนมเข้าปากท่ามกลางสวนสวย ๆ ฟังเสียงน้ำไหล มันทำให้ใจเราลอยไปไกลมากกกกกก
ทั้งชาและขนมของที่นี่ล้วนแต่เป็นของดี พรีเมี่ยม โดยเฉพาะชาของทางร้านจะเป็นเกรดพรีเมียม เป็นชาที่นำเข้าจากไร่ชาที่ได้รับรางวัลในประเทศญี่ปุ่นมา จึงรับรองได้เรื่องของคุณภาพและรสชาติที่ถูกใจแน่นอน
002 Yazama Homestay
ออกจากตัวเมืองช่วงบ่าย ๆ ขับรถตรงไปที่โฮมสเตย์คืนแรกของเรา ที่นี่เป็นที่พักสุดชิวแต่ไม่ชิว ก็แหมมมม จะพักผ่อนทั้งทีต้องมีความสเปเชี่ยลกันหน่อย รอบนี้เราเลยขอออกกำลังขาวัดใจขึ้นบันไดกว่า 180 ขั้นไปนอนดูดาวกลางป่าใหญ่ ที่ Yazama Homestay บ้านไม้ไผ่ทรงน่ารักในชุมชนอาข่า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ที่นี่มีบ้านพักเพียง 4 หลังเท่านั้นที่สำคัญทุกหลังมีระเบียงไว้ชมวิวสวย ๆ สัมผัสบรรยากาศดี ๆ กินหมูกระทะอิ่ม ๆ ตีฟองแช่น้ำอุ่น ๆ อัพสตอรี่โทนละมุน ถ่ายรูปแบบรัว ๆ ทำตัวให้ชิล ใช้ชีวิตให้ช้า แล้วกลับมาพร้อมรูปสวยเต็มคลัง
ข้อมูลเพิ่มเติม
FB : Yazama Homestay
Tel : 082-8906309 คุณนุ๊ก
พิกัด : goo.gl/maps/fsdAn3CYwyggaMjBA
Yazama เป็นชื่อภาษาอาข่าแปลว่า ‘ป่าใหญ่’
ข้อควรรู้สำหรับการมาพักที่นี่
– ต้องเดินขึ้นบันไดชัน ๆ บ้านหลังเล็ก 158 ขั้น บ้านหลังใหญ่ 188 ขั้น เพราะฉะนั้นเตรียมใจมาให้พร้อม แบกของมาเท่าที่จำเป็นก็พอน้า
– ที่นี่มียุงและแมลงตามธรรมชาติของป่า พกยากันยุงมาด้วยก็ดี
– มีขนม เครื่องดื่มและอาหารขาย ทีเด็ดคือน้ำแข็งก้อนกลมที่มาจากเครื่องทำน้ำแข็งส่วนตัวของที่พักเลย
– ถนนค่อนข้างแคบ มีบางจุดที่ดินถล่มบ้าง ต้องขับรถอย่างระมัดระวัง หรือใช้บริการรถรับส่งได้แต่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
– สัญญาณโทรศัพท์น้อย มีไวไฟให้ใช้แต่ก็เบาบาง ทางที่ดีควรเคลียร์ธุระให้เสร็จก่อนมาพัก
– มีไฟฟ้า มีเครื่องทำน้ำอุ่น แต่น้ำจะไหลแรงบ้างเบาบ้างตามประสาน้ำจากภูเขา
– มีชุดอาข่าให้เช่าไว้แต่งสวย ๆ ถ่ายรูปได้ ชุดละ 100 บาท
– ทุกการจอง โฮมสเตย์หัก 50 บาทไว้สำหรับพัฒนาชุมชน
ถ่ายรูปเล่นจนเหนื่อยก็ถึงเวลาของอาหารเย็นแล้ว เนื่องจากเราจองห้องใหญ่ไว้จึงได้หมูกระทะมื้อเย็นมาแถมด้วย ก็ฟินกันไปเลยสิค้าบบบบ สำหรับหมูกระทะที่นี่จะเป็นเตาไฟฟ้า ให้หมูและผักแบบจัดเต็ม รับรองความอิ่มหนำสำราญ
บอกแล้วไงว่านอนดูดาวที่นี่ฟินมากกกกก ตื่นเช้าดูวิวภูเขา สูดกลิ่นไอหมอก กลางคืนดูดาว ทุกอย่างได้จากหน้าบ้านของเราเท่านั้น ไม่ต้องไปไหนไกลเลย
Day 2
เมื่อคืนนอนดูดาวจนง่วงและหลับไปอย่างอิ่มใจ ตื่นเช้ามาแบบสดใส นั่งดูสายหมอกพร้อมถ่ายรูปรัวช็อตไม่ยั้ง ถ้าใครอยากได้ภาพสวย ๆ เราแนะนำให้ตื่นเช้ามารอมุมดี ๆ หน้าบ้านได้เลยน้า ไม่ต้องไปไหนไกลจริง ๆ
ถ่ายรูปเล่นเพลิน ๆ อาหารเช้าก็มาเสิร์ฟแล้ว ซึ่งที่นี่จะมีข้าวต้ม ไข่ลวก กาแฟ โอวัลตินร้อน และผลไม้ให้แบบอิ่ม ๆ
003 Stay Wild & Café
หลังจากบอกลาที่พักคืนแรกกันแล้ว เราขอมาฝากท้องมื้อเที่ยงที่คาเฟ่ริมลำธาร ท่ามกลางหุบเขาได้ฟิลลิ่งธรรมชาติเต็ม ๆ ที่นี่มีทั้งที่พัก ร้านอาหารและคาเฟ่ให้บริการเหมาะแก่การพักกาย พักใจ ส่วนสไตล์ของคาเฟ่ก็จะเป็นโอเพ่นแอร์นั่งรับลมธรรมชาติกันไปเลย มุมที่นั่ง มุมถ่ายรูปเยอะมาก นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมล่องแก่ง สำหรับขาลุยได้วัดใจด้วยนะ
ข้อมูลเพิ่มเติม
FB : Stay Wild & Café
Tel : 089-441-6365
พิกัด : goo.gl/maps/gRkGT3DMaR7xX1NU8
ที่นี่มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายไว้ให้บริการ รสชาติดีไม่ผิดหวัง และมีไวไฟให้ใช้ด้วย เพระว่าจุดนี้สัญญาณค่อนข้างจะน้อยหน่อยน้า
004 Cat Kingdom
และกิจกรรมที่ห้ามพลาดหากมาทางแม่แตงที่เราอยากให้ทาสแมวลองแบ่งเวลาแวะมาที่นี่ กับอาณาจักรแมวเหมียวกว่า 700 ชีวิตที่รับเลี้ยงทั้งแมวจร แมวโดนทอดทิ้ง แมวที่เจ้าของเสียชีวิตจากทั่วทั้งประเทศมารวมกันไว้ในสวนอันร่มรื่น โดย Cat Kingdom ตั้งอยู่ใน Elephant Nature Park อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
น้องแมวที่นีอารมณ์ดี กินอิ่มนอนหลับ ได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ฉีดวัคซีนแล้วทุกตัว สุขภาพแข็งแรง แถมยังเป็นมิตรและขี้อ้อนสุด ๆ เลย
ที่นี่เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นระบบ ต้องจองล่วงหน้ามาก่อนเท่านั้นเพราะเค้าจำกัดรอบละไม่เกิน 25 คน เปิดให้เข้าชมทุกวันวันละ 2 รอบคือรอบเช้า 10.00-12.00 และรอบบ่าย 13.00-15.00 ที่สำคัญเข้าชมฟรี สามารถบริจาคค่าอาหารน้องได้ตามศรัทธา หรือจะซื้ออาหารและขนมไปฝากน้อง ๆ ได้
ข้อมูลเพิ่มเติม
FB : Elephant Nature Park
Tel : 053-272855
ที่นี่แบ่งออกเป็น 3 โซน ซึ่งเราไม่แน่ใจว่าเค้าแบ่งโซนเลี้ยงน้องกันยังไง แต่มีข้อห้ามอยู่ว่า ห้ามอุ้มน้องข้ามโซนเด็ดขาด ซึ่งหลังจากที่เราจองคิว ลงทะเบียนเข้าชมเรียบร้อย พี่สต๊าฟจะมาเรามายังที่พักของน้อง ๆ เมื่อน้องเห็นมนุษย์เดินเข้ามา ทุกตัวที่ไม่ได้หลับก็จะกรูกันเข้ามาหา มารุมมาตุ้มมาเล่นด้วยจนเราเลือกรักไม่ทันกันเลย อ้อ!! อย่าลืมล้างมือให้สะอาดก่อนเข้ามาเล่นมาอุ้มน้องด้วยน้า
ทุกตัวชอบแย่งซีน ชอบกล้อง อยากมีรูปมาก ๆ เลย สำหรับการเช้ามาหาน้อง ๆ จะมีกฎให้ปฏิบัติอยู่ดังนี้
1. ล้างมือและสวมหน้ากากอนามัยเข้าในบริเวณบ้านแมว (สามารถถอดได้เฉพาะเวลาถ่ายภาพและดื่มน้ำเท่านั้น)
2. การเยี่ยมชมสามารถอยู่ได้รอบละไม่เกิน 2 ชั่วโมงยกเว้นเจ้าหน้าที่อาสาและคนที่ได้รับอนุญาต
3. อย่าปลุกหรืออุ้มแมวที่กำลังหลับ ให้น้องที่กำลังนอนได้พักผ่อนไป เพราะยังมีน้องที่ตื่นอยู่พร้อมเล่นกับเราอีกหลายร้อยตัว
4. ถ้าเจอน้องที่แสดงอาการกลัว หรือลนลาน อย่าไปบังคับจิตใจน้อง
5. หากพาบุตรหลานหรือเด็กเข้าเยี่ยมชมน้อง ต้องควบคุมและดูแลบุตรหลานไม่ให้วิ่งไล่หรือทำร้ายน้องแมว
6. ห้ามอุ้มหรือย้ายน้องแมวข้ามโซนเด็ดขาด
7. ห้ามป้อนหรือให้อาหารแมว สามารถนำอาหารและขนมมาฝากไว้กับทาง Cat Kingdom เพื่อให้เจ้าหน้าที่จัดสรรให้น้องแมวตามความเหมาะสม
8. ในพื้นที่จะมีน้องแมวที่ไม่เชื่องและกลัวคน เราก็อย่าไปกวนใจน้อง อย่าเข้าไปใกล้โซนน้องที่ดุ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากน้อง
9. หากเกิดกรณีถูกแมวกัดข่วนจะถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เข้าชมเอง
005 ห้วยกุ๊บกั๊บจะฟู โฮมสเตย์
และที่พักคืนที่สองของเราก็ยังไม่พ้นธรรมชาติสุดอลังเช่นเดิม เพิ่มเติมคือความสนุกที่มาพร้อมกับความธรรมดากับหมู่บ้านกลางป่าบนยอดดอย ณ หมู่บ้านชาวมูเซอ ‘ห้วยกุ๊บกั๊บจะฟูโฮมสเตย์ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่’ ตอนกลางวันนั่งกินขนมคุยสัพเพเหระ หรือว่าจะไปเดินเล่นในหมู่บ้านออกกำลังขา ตกกลางคืนก็มาล้อมวงผิงไฟ เงยหน้าไปดูดาวนับล้านดวง ตื่นเช้ามาแชะภาพดริปกาแฟคู่ทะเลหมอกที่มากองถึงหน้าบ้าน ใช้เวลาวันหยุดให้ค่อย ๆ ผ่านไป ปล่อยใจให้กลืนไปกับความเรียบง่าย
ข้อมูลเพิ่มเติม
FB : ห้วยกุ๊บกั๊บจะฟูโฮมสเตย์
Tel : 097-1522849
พิกัด : goo.gl/maps/8L6eYpUG4w2Rn1B48 (ลานจอดรถลุงคำปัน)
หลังจากที่จอดรถ ณ ลานจอดรถบ้านลุงคำปันแล้ว เราก็นั่งรถชาวบ้านต่อมายังห้วยกุ๊บกั๊บ ซึ่งทางลำบาก แคบ ชันมากเลยนะ อย่าได้ขับรถขึ้นมาเองเด็ดขาด
ที่นี่มีบ้านของชาวบ้านไม่กี่หลังคาเรือนเอง ยังคงซึ่งความธรรมดาและธรรมชาติสุด ๆ ไปเลย และที่สำคัญที่นี่เพิ่งจะมีไฟฟ้าใช้เมื่อไม่นานมานี้ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลม ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น มีแต่ความประทับใจที่จะทำให้คุณคิดถึงไปอีกนาน
ในส่วนของห้องพักจะเป็นห้องธรรมดาไม่กว้างมาก มีฟูกนอนปูให้ พร้อมหมอนและผ้าห่ม ทุกอย่างสะอาดและหอม ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้เลย แต่ถ้าคาดหวังในเรื่องของความสะดวกสบายเหมือนอยู่บ้านหรือในเมือง ก็ไม่ใช่น้า
นั่งเล่นนอนเล่นดูวิวสวยๆ โพสต์ท่าถ่ายรูปจนหนำใจ แดดก็เริ่มหายไป ฟ้าก็เริ่มสีเข้มขึ้น สักพักอาหารเย็นก็มาเสิร์ฟที่ระเบียงบ้าน เป็นสัญญาณว่าถึงเวลาอิ่มกันแล้ว อาหารของที่นี่เป็นเมนูบ้าน ๆ ง่าย ๆ แต่ได้ใจและอร่อยมาก ยิ่งน้ำพริกยิ่งเด็ด เราขอเติมกันหลายรอบเลย
ข้อมูลควรรู้
– เปิด GPS ไปยังลานจอดรถบ้านลุงคำปัน เพื่อทิ้งรถไว้ที่นั่น มีค่าฝากรถ 50 บาทต่อคัน แล้วนั่งรถชาวบ้านขึ้นไปบนดอย
– ค่าบริการที่พักคนละ 800 บาท ราคานี้รวมที่พัก อาหารเช้า+อาหารเย็นและรถรับส่งจากจุดนัดพบไปยังโฮมสเตย์
-อาหารเย็นจะเป็นอาหารพื้นบ้าน ส่วนใครอยากสั่งหมูกระทะสามารถสั่งเพิ่มได้ ชุดละ 400 บาท อาหารเช้าเป็นข้าวต้ม
– ที่พักไม่มี wi-fi และบนดอยไม่ค่อยมีสัญญาณอินเตอร์เน็ต มีแบบขาด ๆ หาย ๆ
– ห้องพักไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลมนะ แต่อากาศดี เย็นสบาย ช่วงกลางวันก็ออกมานอนเล่นรับลมตรงระเบียงได้
– แมลงและยุงมีตามปกติของดอยของป่า เตรียมยากันยุงส่วนตัวมาด้วยก็ดีนะ
– เตรียมอุปกรณ์อาบน้ำ ผ้าเช็ดตัว ของใช้ส่วนตัวไปเอง ที่โฮมสเตย์ไม่มีให้
– ห้องน้ำเป็นแบบใช้รวมกัน
– สามารถนำอาหารและเครื่องดื่มจากข้างนอกขึ้นมาเองได้
– กลางคืนหนาว เตรียมของกันหนาวมาให้พร้อม
– งดส่งเสียงดังหลัง 4 ทุ่มนะ จะได้ไม่รบกวนคนที่ต้องการไปพักผ่อน อันที่จริงอยากให้ลองงดใช้เสียงแล้วฟังเสียงธรรมชาติ ผิงไฟ ดูดาวมากกว่า ฟินมากเว้ยแก
– ที่นี่เพิ่งมีไฟฟ้าใช้ แต่ไม่สามารถใช้งานหนักได้ ชาร์ตแบตโทรศัพท์ได้ปกติ แต่ไดรฟ์เป่าผม โน๊ตบุ๊ค ไม่สามารถใช้ได้น้า ใช้ปุ๊ปไฟตัดปั๊ป อ้อ! เตรียมปลั๊กสามตามาด้วยก็ดี
Day 3
เมื่อคืนผิงไฟนอนดูดาวแล้วเข้านอนแบบหลับสนิทยันเช้า พอเริ่มมีแสงตะวันลอดมาในห้อง เราก็รีบลุกขึ้นมานั่งผิงไฟพร้อมชื่นชมสายหมอกเลย ที่นี่มีทะเลหมอกเกือบทุกวันเลยน้า
สำหรับอาหารเช้าก็จะมีให้พร้อม ก่อนจะถึงมื้อเช้าก็สามารถนั่งดริปกาแฟ ชงโอวัลตินร้อน ๆ ก่อนได้ และเมื่อถึงเวลาของอาหารเช้า เค้าก็จะเอามาเสิร์ฟถึงหน้าระเบียงบ้าน แม้จะเป็นแค่ข้าวต้มกับไข่ลวก แต่หมูเน้น ๆ และฟินมาก ๆ เมื่ออยู่กับวิวสวย ๆ แบบนี้
ในที่สุดก็ถึงเวลาต้องบอกลาเชียงใหม่กันแล้ว ขากลับเราก็ยังเลือกบินกับสายการบินคุณภาพอย่างแอร์เอเชียเหมือนเดิม เพราะนอกจากจะขยันมีโปรฯ ดีๆ ออกมาบ่อย ๆ และมีเที่ยวบินให้เลือกเยอะ ตรงเวลา มีบินตรงสู่เชียงใหม่จากหลากหลายจังหวัดให้เลือก จะมาเชียงใหม่ตอนไหนก็ง่ายสุด ๆ
ทริปชาร์ตพลังสั้น ๆ กับเวลา 3 วันของเราก็จบไปแบบให้มีความประทับใจแบบยาว ๆ ช่วงใกล้สิ้นปีแบบนี้ เราว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับการออกเที่ยวมากเลย ไม่ต้องลางานเยอะ ไม่ต้องออกทริปยาว ใช้แค่ช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ เพิ่มวันลาอีกหนึ่งวันแค่นั้นก็ให้ความสุขกลับมาแบบเต็มอิ่มแล้ว และยิ่งถ้าเลือกบินไปเชียงใหม่ยิ่งได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่มากี่ครั้งก็ไม่ซ้ำ ไม่แปลกใจที่จะเป็นหนึ่งในลิสต์จังหวัดแนะนำตลอดกาลของไทย นี่เราเชียร์ถึงขนาดนี้ จะนั่งรอรีไม่จองตั๋วบินไปเช็คอินเชียงใหม่รัว ๆ กันอีกเหรอ
ด้วยรัก
บันทึกคนขี้เที่ยว