ชวนเพื่อนสาวตัวแสบมาใช้ส่วนกลางสุดปัง เดิน ๆ นั่ง ๆ อยู่บ้านก็ได้คอนเทนต์เหมือนพักรีสอร์ทหรู ใช่สิ! ก็นี่มันคอนโดของคนคูล Aspire Erawan Prime ไงล่ะ นอกจากเรื่องทำเลแสนดีที่อยู่ติด BTS สถานีช้างเอราวัณแบบ 0 เมตร ที่นี่ยังมาพร้อมกับ Facilities ที่มีให้เราได้ใช้กว่า 30 กิจกรรม รูปแบบห้องก็มีให้หลากหลาย ดีไซน์ทันสมัยสามารถใช้งานได้คุ้มค่าในทุกพื้นที่ ที่สำคัญยังเป็น Smart Living และ Standard Hygiene ตอบโจทย์ชีวิตคนรุ่นใหม่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเก๋แบบชาวเราเป็นที่สุด ที่สำคัญแบบเอาไปเลยสิบนิ้วโป้งคือ 1 ห้องนอนใหญ่ เริ่ม 1.99 ล้าน* เท่านั้น
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ : https://bit.ly/3D4Qdkf
Add LINE @apthai หรือ https://lin.ee/jZw1jJH
โทร : 1623
BTS Chang Erawan
สำหรับที่ตั้งของโครงการ Aspire Erawan Prime นั้น จัดว่าเป็นทำเลศักยภาพเลยก็ว่าได้ เพราะแวดล้อมไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ไปจนถึงโรงพยาบาลและโรงเรียนชื่อดัง แถมยังอยู่ติดถนนสุขุมวิท หนึ่งในถนนเส้นหลักของสมุทรปราการ พร้อมมีจุดขึ้นลงทางด่วนบางนา (เฉลิมมหานคร) และใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษก รอบนอก ที่เชื่อมต่อโซนพระราม 3-สาทร ไม่ว่าจะเข้านอกออกเมืองหรือแม้แต่จะไปสนามบินสุวรรณภูมิก็เป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกมาก ๆ แต่ที่ถูกใจเราที่สุดคือตัวโครงการอยู่ติดรถไฟฟ้า BTS สถานีช้างเอราวัณเพียงแค่หนึ่งก้าวเท่านั้น! นั่งรถไฟฟ้าเพียงต่อเดียวก็ไปถึงใจกลางเมืองอย่างสุขุมวิท – สยามแล้ว ซึ่งก็ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตคนรุ่นใหม่แบบเราได้เป็นอย่างดี
Grand Lobby
ไม่ใช่แค่โดดเด่นในเรื่องของทำเลเท่านั้นนะ จะบอกว่าดีไซน์ที่นี่เค้ายังเป๊ะปังตั้งแต่รูปลักษณ์อาคารภายนอกที่ดูทันสมัยในสไตล์โมเดิร์นแต่แฝงกลิ่นอายของความหรูหราเอาไว้ในหลาย ๆ จุดให้สมกับคำว่า Prime ที่ถูกเติมเข้ามาให้ดูว้าวกว่าเดิม ที่สำคัญยังนำ Standard Hygiene เข้ามาใช้ในโครงการ รองรับการใช้ชีวิตแบบ New Normal เพิ่มความปลอดภัยและความสบายใจในหลาย ๆ จุด อย่างประตูหลักก็เป็นประตูอัตโนมัติเพื่อลดการสัมผัส และเมื่อเข้ามาภายในอาคารจุดแรกเราก็จะพบกับ Grand Lobby พื้นที่ต้อนรับที่ออกแบบเพดานให้ดูสูงโปร่งให้ฟีลลิ่งเหมือนเดินเข้ามาเช็คอินในโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวเลยก็ว่าได้ เพราะดูสวยงาม โอ่อ่าและทันสมัย ทั้งยังโอบล้อมด้วยกระจกใสบานใหญ่ที่รับแสงธรรมชาติแบบเต็ม ๆ แถมยังมองเห็นสวนสวยด้านนอกชัดแจ๋ว พร้อมจัดวางชุดโซฟาเก๋ ๆ ไว้หลายมุม บอกไว้เลยตรงนี้ว่าหนุ่มสาวคนไหนที่ชอบไปพักโรงแรมหรือรีสอร์ทสวย ๆ เพื่อทำคอนเทนต์ปัง ๆ ต้องถูกใจแน่นอน
Serene Pavillon & Sunken seat
มาถึงจุดที่ทำให้เราได้ว้าวกันต่อแบบไม่ต้องพักกับพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ท่ามกลางบรรยากาศสุดร่มรื่นเหมือนมาพักรีสอร์ทต่างจังหวัดเลยกับ Serene Pavillon & Sunken seat พื้นที่สวนสวยให้ได้เดินเล่นรับลมชิล ๆ หรือถ้าใครอยากนั่งชมวิวเพลิน ๆ ก็มี Sunken seat รองรับอยู่หลายจุดเหมือนกัน อีกทั้งยังมีสนามเด็กเล่นเพื่อเสริมจินตนาการของเด็ก ๆ รวมไปจนถึงพื้นที่ออกกำลังกายแบบเอ้าท์ดอร์บนสนาม Multi-sport และ Running loop ให้เราได้ยืดเส้นยืดสายกันได้ทุกวันแบบไม่มีเบื่อ
Semi outdoor lobby
และสำหรับเหล่าอินสตาแกรมเมอร์ที่ชอบไป Hopper ตามคาเฟ่ก็ต้องห้ามพลาดกับ Semi outdoor lobby พื้นที่นั่งเล่น พูดคุย ทำงาน หรือใครจะมานั่งจิบกาแฟ ชิมขนมเมนูโปรดที่ตักเข้าปากแล้วอารมณ์ดีขึ้นมาทันทีไปพร้อม ๆ กับการคุยงานก็ไม่ติดเลยสักนิด เพราะบริเวณนี้ถูกออกแบบให้เป็น Co-working แบบเอ้าท์ดอร์ มีที่นั่งให้ลูกบ้านได้เลือกจับจองหลายมุม ที่สำคัญคือถ่ายรูปออกมาดูดีเหมือนไปฮอปคาเฟ่ในสวนสวยเลยนะแก
Co Working Space
ส่วนใครที่เบื่อกับการนั่งอุดอู้อยู่ในห้องและไม่อยากออกไปเสียเงินที่คาเฟ่กลางเมือง เราว่าโครงการนี้ตอบโจทย์มากกกก เพราะมี Co-working Space ดีไซน์เรียบหรูดูแพงที่ฉีกแนวคิดการออกแบบพื้นที่เพื่อการทำงานเดิม ๆ มาในรูปแบบใหม่สไตล์คาเฟ่ชวนต๊าช ท่ามกลางบรรยากาศสุดชิล ซึ่งทางโครงการมีการติดตั้ง Partition กระจกกั้นเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวตามมาตรฐานของ New Standard Hygiene แม้จะอยู่ในพื้นที่ส่วนกลางก็ยังรู้สึกปลอดภัยกับวิถีชีวิตยุค new normal และยังสะดวกกับบริการจองพื้นที่ทั้งแบบคนเดียวและแบบกลุ่ม เรียกว่าลูกบ้านโครงการนี้สามารถสร้างสรรค์ไอเดียบรรเจิดได้ตลอดเวลา แถมยังมีมุมถ่ายรูป ถ่ายคลิปลงไอจีสตอรี่ได้แบบไม่มีสะดุด เพราะสวยจึ้งทุกมุมจริง ๆ
Grand Pool
ไปต่อกันที่ชั้น 7 กับพื้นที่ส่วนกลางที่เรายกให้เป็นเดอะเบสส์ในใจเราเลยคือสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ระบบเกลือที่ว้าวกว่าที่ไหน ๆ ด้วยแลนด์สเคปที่สวยงามไม่แพ้รีสอร์ทหรู มีต้นไม้น้อยใหญ่สุดร่มรื่นรายล้อมสระไว้ให้ทุกคนได้ใกล้ชิดธรรมชาติในทุก ๆ มุมมอง พร้อมแบ่งสระเด็กและจากุซซี่เพื่อเติมเต็มความสุขในการพักผ่อนของลูกบ้านได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีมุมนั่งเล่นพักผ่อน รวมถึงโซน Stone therapy และ Yoga deck ให้ลูกบ้านสามารถร่วมแบ่งปันช่วงเวลาแห่งความสุขไปพร้อม ๆ กัน
Fitness
เดินมาต่อกันที่อีกหนึ่งความดีงามแบบเต็มสิบไม่มีหักในโครงการนี้คือ Health Complex ห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ ออกแบบเพดานให้ดูสูงโปร่งเหมาะสำหรับการออกกำลังกาย เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัยอย่างครบครัน อีกทั้งยังเพิ่มความมั่นใจตามมาตรฐานของ New Standard Hygiene กับวิถียุค new normal ด้วยการติดตั้ง Partition กระจกกั้นระหว่างเครื่องเล่นแต่ละชิ้นไว้ให้ลูกบ้านทุกคนได้ Work out แบบสบายใจในทุก ๆ วัน
Mini Theatre
เวลาแห่งความสุขของหลาย ๆ คนก็คือการได้นั่งเอนหลังดูหนังที่ชอบ ที่นี่เค้าก็เข้าใจไลฟ์สไตล์ของพวกเราเป็นอย่างดี จึงออกแบบให้มีห้อง Mini Theatre รองรับการดูหนัง มาพร้อมหน้าจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ ภายใต้บรรยากาศสบาย ๆ ตกแต่งแบบเรียบง่ายรายล้อมด้วยกระจกบานใหญ่ ซึ่งลูกบ้านแบบเรา ๆ สามารถมาใช้งานได้ตามอัธยาศัย แต่ถ้าใครจะใช้งานตอนกลางวันก็สามารถปิดผ้าม่านเพื่อกันแสงได้ด้วย
Play Room
ยังไม่จบเท่านี้ ยังมีห้องกว้าง ๆ ไว้สำหรับนัดเดอะแก๊งมาเฮฮาท้าดวลแทงพูลกันอย่างเมามันแบบส่วนตั๊วส่วนตัว
Rooftop
นอกจากส่วนกลางขนาดใหญ่ทันสมัยและจัดเต็มเบอร์แรงแล้ว ที่นี่ยังมี Rooftop พื้นที่สุดชิลชั้นสูงสุดของโครงการ ซึ่งออกแบบให้เป็น Sunset Parlor มุมนั่งเล่นพักผ่อน และจุดชมวิวชั้นดาดฟ้าแบบไม่มีอะไรมากั้น พร้อมทั้งโซน Sky Jogging มิติใหม่ของการออกกำลังกายที่ไม่จำเจให้เราได้มาฟิตแอนด์เฟิร์มและพักผ่อนหย่อนใจแบบสบาย ๆ ได้ในเวลาเดียวกัน
1 Bedroom Type 27 sqm.
เดินเพลิน ๆ ชมบริเวณไปจนทั่วแล้ว จะไม่พาเข้าห้องก็คงไม่ได้ เริ่มกันที่ Type แรก กับห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการพื้นที่ 27 ตร.ม. ที่ต่างจากห้องสตูดิโอทั่วไปโดยกั้นห้องนอนแบบผนังทึบทำให้ห้องดูมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเหมาะกับคนที่อาศัยอยู่คนเดียว เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะพบกับมุมครัวที่มาพร้อมกับตู้ลอยเก็บของและเตาเซรามิก เครื่องดูดควันและอ่างล่างจาน ท็อปเคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์สีขาวข้อดีคือทำความสะอาดง่ายและทนต่อรอยขีดข่วน สำหรับโซนนั่งเล่นจะต่อเนื่องกับครัวที่เชื่อมต่อกับระเบียงด้านนอกทำให้ได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาเต็ม ๆ ถัดไปจะเป็นห้องนอนขนาดกำลังดี สามารถวางเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุตได้โดยยังเหลือพื้นที่ให้สามารถวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ ในส่วนของห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนสามารถเข้าออกได้ฝั่งเดียวและเป็นแบบสำเร็จรูป ภายในแบ่งแยกส่วนเปียกและแห้งไว้แล้ว เพียงแต่อาจจะต้องติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมเท่านั้นเอง
1 Bedroom Type 32 sqm.
ต่อมาเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตารางเมตร เป็นห้องหน้ากว้างขนาดใหญ่ กั้นห้องนอนด้วยกระจกใสขนาดกำลังพอดีทำให้ดูโล่งโปร่งสามารถวางเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุต มีมุมน่ารัก ๆ เปิดรับแสงธรรมชาติได้อย่างดีเหมาะสำหรับสาว ๆ ที่รักการแต่งตัวหรือจะทำเป็นมุม WFH ก็ได้ พร้อมกับห้องเอนกประสงค์ ห้องนั่งเล่น สามารถใช้งานได้จริงทุกตารางเมตร มีมุมครัวน่ารักแบบกระทัดรัดเหมาะสำหรับชีวิตคนเมือง
One bed room plus
ต่อมาคือ 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม. ห้องนี้จะเหมาะกับคนที่ต้องการพื้นที่อเนกประสงค์เพิ่มเติม เพราะแยกสัดส่วนของทุกห้องออกจากกันชัดเจน เมื่อเปิดประตูเข้าไปเราก็จะพบกับส่วนครัวก่อนซึ่งจะได้ชุดเคาน์เตอร์ครัวเหมือนกับห้องก่อนหน้าทั้งเตาเซรามิก เครื่องดูดควันและอ่างล่างจานที่ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน ตรงข้ามเคาน์เตอร์เป็นห้องน้ำที่เข้าออกได้ทั้งจากฝั่งห้องนอนและฝั่งห้องโถงที่จัดวางแปลนแบบ Open Plan เชื่อมต่อพื้นที่ครัวกับพื้นที่นั่งเล่นที่สามารถวางโต๊ะทานข้าวและโซฟาขนาดใหญ่ได้ พื้นที่ติดกับมุมนั่งเล่นจะเป็นห้องอเนกประสงค์ที่ถูกกั้นกลางไว้ด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ซึ่งเราสามารถปรับให้เป็นห้องทำงาน ห้องแต่งตัวหรือแม้แต่ห้องนอนเล็กอีกหนึ่งห้องได้เลย ในส่วนของห้องนอนมีขนาดที่ใหญ่มากขึ้นสามารถจัดวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้โดยเหลือพื้นที่กว้างพอที่จะวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าขนาดมาตรฐานทั่วไปได้แบบลงตัวพอดีเป๊ะ
2 Bed room Type
ห้องสุดท้ายที่เราจะพาไปชมคือ 2 Bed room ขนาด 46 ตร.ม.ทันทีที่เปิดเข้ามาแล้วเราก็ได้จะพบกับส่วนของห้องนั่งเล่นก่อนเป็นลำดับแรกซึ่งมีพื้นที่กว้างพอที่จะจัดวางโซฟาตัวยาวและโต๊ะรับประทานอาหารขนาดพอเหมาะได้ และถัดจากส่วนนี้ไปทางด้านหลังก็จะเป็นห้องนอนเล็กที่สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้โดยเหลือพื้นที่ด้านข้างอีกนิดหน่อย ก่อนจะคั่นกลางด้วยห้องครัวแบบปิดที่อยู่ติดกับระเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนและมาพร้อมเตาเซรามิก เครื่องดูดควันและอ่างล่างจานที่ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานนั่นเอง ซึ่งข้อดีของครัวแบบปิดคือป้องกันกลิ่นและควันเข้ามาในโถงกลางได้ดี มาต่อกันที่ห้องนอนใหญ่ที่สามารถจัดวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้โดยเหลือพื้นที่สำหรับวางโต๊ะข้าง ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้แบบสบาย ๆ ส่วนห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนใหญ่เปิดเข้ามาจะเจอกับอ่างล้างหน้าลำดับแรก ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ ส่วนฝั่งขวามือของห้องจะเป็นส่วน Shower ที่มีธรณีกั้นขึ้นมาระหว่างส่วนเปียกและแห้งออกจากกัน แนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่ม หรือใครจะใช้ม่านกั้นอาบน้ำก็สะดวกดีไม่แพ้กัน
Smart Application
ไม่เพียงเท่านี้ Aspire Erawan Prime ยังตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่สะดวกสบายและความปลอดภัยให้แก่ลูกบ้านทั้งหมด 1,275 ยูนิต ด้วยการนำ Smart Application เข้ามาใช้ภายในโครงการ ซึ่งสามารถควบคุมสั่งการผ่านแอปพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนคู่ใจของเรา อาทิ การเข้าออกโครงการอัตโนมัติจากการอ่านป้ายด้วย CCTV, การแจ้งเตือนพัสดุและการซ่อมแซมต่าง ๆ , การแจ้งเตือนเมื่อมีคนมาหาหรืออยู่เกินเวลา, ระบบจองพื้นที่ส่วนกลางทั้ง Co-working Space / Mini Theatre และอีกมากมายที่พร้อมจะเปลี่ยนนิยามความสุขการอยู่อาศัยในคอนโดให้เหมือนพักผ่อนโรงแรมหรือรีสอร์ทหรูทุกวันได้อย่างแท้จริง
นอกจากการความ Prime ในออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้คุ้มค่าในทุก ๆ ตารางเมตร รวมถึงการนำเทคโนโลยี Smart Application และ Standard Hygiene เข้ามาใช้ภายในโครงการเพื่อความสะดวกสบายและปลอดภัยกับวิถีชีวิตยุค New Normal แล้ว ส่วนกลางสุดปังแบบจึ้ง ๆ 30 ฟังก์ชันก็ถือว่าตอบโจทย์ความต้องการของไลฟ์สไตล์คนในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ใครที่ต้องการใช้ชีวิตติดรถไฟฟ้าอยู่คอนโดที่ทันสมัยเหมือนได้พักผ่อนรีสอร์ทหรูและเช็คอินคาเฟ่ทุกวัน Aspire Erawan Prime เป็นหนึ่งในโครงการสำหรับคนรุ่นใหม่ที่น่าสนใจเพราะมีสไตล์ในรูปแบบที่ไม่ซ้ำใคร ด้วยราคาสุดว้าว 1 ห้องนอนใหญ่ เริ่มต้นเพียง 1.99 ล้าน* ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3D4Qdkf