ช่วงนี้กระแสออกไปบอกรักเมืองไทยกำลังมา เราเองก็ไม่รอช้ารีบบอกลาคุณพ่อคุณแม่ไปพบกับวัฒนธรรมน่ารักที่เมืองรองสุดฮอตอย่างจังหวัดน่าน รอบนี้เราแปลงร่างเป็นสาวไทลื้อตะลอนปัว ทัวร์ตามรอยผ้าไหมโบราณที่สืบทอดยาวนานกว่า 200 ปี ไม่เพียงเท่านี้ยังมีคาเฟ่วิวดี ๆ พิซซ่าหน้าน้ำพริกอ่องเตาฟืนร้านเด็ด มีวิถีชุมชน มีธรรมชาติ ทุ่งนาท้องฟ้าสายหมอก มาฝากจนครบจนอิ่มตามคอนเซ็ป ‘เที่ยวเมืองไทย สไตล์ไหนก็เท่’ และหากใครอยากเท่ด้วยคุ้มด้วย ก็เข้าไปดูใน www.เที่ยวไทยเท่.com เพื่อพบกับส่วนลดพิเศษร้านอาหาร+คาเฟ่สูงสุด 40% ส่วนลดโรงแรมที่พักถึง 80% รวมไปถึงตั๋วเครื่องบิน รถเช่า สปา กิจกรรม แพ็คเกจท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วไทย ว่าแล้วก็ Add Line @tiewthaitay ไปเลือกโปรแกรมดี ๆ เท่ ๆ แล้วชวนเดอะแก๊งไปเฮกันเลยจ้า
รายละเอียดเพิ่มเติม : Facebook เที่ยวไทยเท่
เราวางแพลนทริปนี้ไว้ 2 วัน 1 คืน วันแรกเราจะไปวันเดย์ทริปตามรอยตำนานผ้าไหมไทลื้อที่ซื้อทริปไว้กับ เที่ยวไทยเท่.com ที่เราจะได้เก๋ได้ลึกซึ้งตั้งแต่นุ่งผ้าซิ่นเป็นสาวพื้นถิ่นไทลื้อ เรียกได้ว่า แม้จะมาน่านรอบที่ 20 แล้วไม่เป็นไร แต่รอบนี้ได้ความใหม่ไม่ซ้ำใครแน่นอน
ไฮไลท์ของทริปคือ เราจะได้ชมและเรียนรู้ประวัติผ้าไหมโบราณที่สืบทอดมากว่า 200 ปี นั่นก็คือผ้าทอจากทอง เงิน และนาคซึ่งในยุคก่อนนั้นผู้ที่จะนุ่งได้จะต้องเป็นที่ต้องเป็นเจ้านางเมืองเหนือเท่านั้น
รับประทานอาหารของชาวไทลื้อที่เตรียมทำสดใหม่ จากคนในชุมชน
เอาล่ะ เมื่อมาถึงจุดเช็คอินจุดแรก ทางชุมชนเค้าก็ไม่นิ่งนอนใจเรื่อง Social Distancing และท่องเที่ยวแบบวิถี New normal นะ เพราะทุกพื้นที่ ทุกร้านยังมีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือและป้ายเช็คอินไทยชนะไว้รับบริการุกคนด้วย ทำให้เราอุ่นใจในการเที่ยวได้มากขึ้นอีกหลายเปราะ และทำให้เรารู้ว่า ร้านรวงต่างๆ และทางชุนเค้าตระหนักเรื่องนี้กันถ้วนหน้าเลย
ผ้าทอโบราณชุมชนไทลื้อ บ้านเก็ต
มาถึงจุดเช็คอินแรกของวันเดย์ทริป เราก็ต้องมาชมอะไรที่อลังการกันหน่อยกับผ้าทอเงิน ทอทอง ทอนาค ที่บอกเลยว่าสมัยก่อนนั้น หญิงที่จะได้นุ่งจะต้องเป็นลูกท่านหลานเธอ ผู้ดีมีสกุลแห่งล้านนาเท่านั้น จากภูมิปัญญาของชาวบ้านส่งต่อมารุ่นสู่รุ่นจนกลายเป็นผ้าทอไทลื้อที่มีลวดลายงดงามประณีตสืบทอดกันมากว่า 200 ปี ณ ที่นี่ ชุมชนบ้านเก็ต ผ้าทอไทลื้อโบราณ และที่นี่เราก็ได้เจอกับป้าหนอมประธานกลุ่มผู้เป็นครูช่างศิลปหัตถกรรมผู้น่ารัก ที่พาพวกเราชมนั่นชมนี่ และสอนให้พวกเราทำอะไรหลายๆ อย่างด้วย
ร้านป้าหลอมผ้าทอ
สิ่งที่น่าภูมิใจที่สุดของชาวไทลื้อคือผ้าทอเลอค่าเซ็ตนี้ที่เรียกว่า ผ้าซิ่นคำเคิบ ราชินีแห่งผ้าทอไทลื้อ ซึ่งคำว่าเคิบแปลว่าเคลือบ แต่ผ้าซิ่นคำเคิบไม่ใช่การเอาทองมาเคลือบบนผ้า เป็นการทอผ้าที่ทำจากเส้นฝ้ายหรือเส้นไหมที่เป็นทอง ด้วยกระบวนการทอที่นำแผ่นทองคำมาตีเป็นแผ่นจนบางแล้วนำมาตีเกลียวเข้ากับเส้นฝ้ายแล้วนำมาทอเป็นผืน สวยหมดจดพร้อมสรรพไปด้วยคุณค่าและเอกลักษณ์ แค่ได้เห็นก็เป็นบุญตาแล้ว
พิกัด : https://goo.gl/maps/8ayD1pxTTTJUyLP77
ไหนๆ ก็ได้โอกาสมาถึงถิ่นไทลื้อแล้ว จะไม่ลองเป็นสาวไทลื้อก็กระไรอยู่ งานนี้เมนเทอร์ป้าหลอมจัดชุดสาวไทลื้อมาให้เราเต็มคราบเลย เป็นไงล่ะ พอสมฐานะที่จะได้ถือผ้าทอเงินทอทองกับเค้าหรือยัง
และที่เรากรี๊ดมากคือการได้ลองยะการยะงานฝึกทอผ้าแบบชาวไทลื้อนี่แหละ นี่เราทำด้วยตัวเองเลยนะ แค่มีป้าหลอมมายืนเป็นโค้ชข้างๆ และบอกแทบทุกอย่างให้เราทำตาม 555+ บอกเลยว่าการทอผ้านี่ไม่ง่ายเลยนะ เคยเห็นในทีวีในละครมาก็นาน พอได้มาลองถีบเครื่อง ยกทอไหมเองเลยรู้เลยว่า ผ้าทอที่มีราคามันแลกมาด้วยแรงกายและไอเดียของคนทอจริงๆ หรือหากใครจะเลือกกิจกรรมลองย้อมสีผ้าด้วยเปลือกไม้ด้วยก็ได้ มันมีรวมในแพ็คเก็จอยู่แล้ว
นอกจากทางกลุ่มชุมชนรวมทั้งป้าหลอมจะะถ่ายทอดความรู้เรื่องการทอผ้าให้คนรุ่นหลัง แล้วที่นี่ยังมีผ้าพื้นเมือง และอุปกรณ์ทอผ้าต่างๆ มีสินค้าหลากหลายแบบ ทั้งที่เป็นซิ่น ชุดพื้นเมือง กระเป๋า แมสลายผ้าไหม ผ้าคลุมไหล่ วางขายในราคาไม่แพงด้วยนะ
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยที่
Tel: 097-1686116
Facebook: ป้าหลอมผ้าทอโบราณ
Line ID: jeab_jina168
นอกจากเราจะได้ไปนั่งถีบเครื่อง ยกทอผ้าไหมเองแบบเงอะๆ งะๆ แต่ภูมิใจมากแล้วนั้น เราก็ยังได้มีโอกาสมานั่งดูสาวๆ ของกลุ่มสาวไหมกันต่อด้วย ได้รู้ว่าก่อนจะมาเป็นผ้า 1 ผืนนี่เหนื่อยยากมากเลยนะ ตั้งแต่การปลูกฝ้าย แยกเมล็ด ปั่นด้าย สาวไหม ไปจนกระบวนการทอและย้อม โหยยย ถ้าเราทำจริงๆ เราว่าเราจะต้องใจเย็นขึ้นอีกหลายเท่าแน่ๆ
ก่อนจะออกจากที่นี่เราก็ต้องลองปั่นด้ายสาวไหมใดๆ ก่อนเพื่อเป็นประสบการณ์ ที่สำคัญคือเพื่อแชะภาพเอาไว้อวดสนั่นโซเชี่ยลเก๋ๆ ให้เพื่อนมาเม้นว่า แม่กาสะลอง งามปะล้ำปะเหลือน้อ
วัดภูเก็ต
แต่งองค์เป็นแม่หญิงเมียงน่านแล้ว ก็ต้องมาแชะภาพกับวัดดังกันหน่อยที่ “วัดภูเก็ต” วัดชื่อภูเก็ตแต่ไม่ได้อยู่จังหวัดภูเก็ต ความจริงแล้ว ที่นี่ตั้งบนภูหรือดอยของหมู่บ้านเก็ต เลยได้ชื่อวัดภูเก็ต อุโบสถของวัดเป็นทรงล้านนาประยุกต์ จิตรกรรม ฝาผนังสามมิติ ลวดลายสวยงาม วัดนี้ขึ้นชื่อเรื่องวิวสวยและยังเป็นที่ตั้งของโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดภูเก็ต เปิดสอนตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีพระนักเรียนมาเรียนที่นี่เป็นจำนวนมากอีกด้วย
พิกัด : https://goo.gl/maps/YuLNbTt9wyHRJYqT8
ถ่ายรูปด้านนอกจนหนำใจ เราก็เดินเข้าไปข้างใน เพื่อสักการะ”หลวงพ่อแสนปัว หรือ หลวงพ่อพุทธเมตตา” สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองปัว ว่ากันว่า หลวงพ่อหันหน้าไปทางทิศตะวันออกซึ่งเป็นฝั่งของดอยภูคา ใต้เชิงดอยเป็นพื้นที่ทำนาของชาวบ้าน เมื่อถึงฤดูหนาวจะเกิดทะเลหมอกสุดปัง ข้างล่างเชิงเขามีแม่น้ำไหลผ่าน ซึ่งเป็นน้ำซับซึมมาจากใต้ดินไหลรินรวมกัน เป็นลำธารให้ฝูงปลาและสัตว์น้ำอยู่อาศัย เป็นเขตอภัยทาน เชื่อกันว่าความสวยงามเหล่านี้เกิดจากความเมตตาของหลวงพ่อแสนปัวนั่นเอง
ก่อนจะไปชมวิวนาด้านข้างวัดเราก็มาถึงต้นไม้หายากหรือต้นไม้แปลกที่มีให้ชมที่นี่ก่อนนั่นก็คือต้นดิกเดียม เค้าบอกว่าหากมีใครสัมผัสลำต้น ใบที่บริเวณยอดจะสั่นไหว คล้ายกับมีลมพัดผ่าน เหมือนมันกำลังรู้สึกจั๊กกะจี้ จุดนี้เป็นที่สนอกสนใจของนักท่องเที่ยวมาก ๆ อีกจุดหนึ่ง
กิมมิคของวัดภูเก็ตที่แสนจะโด่งดัง ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาได้เป็นร้อยเป็นพันก็คงหนีไม่พ้นวิวทุ่งนาที่ปังอลังการกว้างขวางอยู่เบื้องหน้าพร้อมด้วยฉากหลังภูเขาวนอุทยานดอยภูคานี่แหละ แล้วยิ่งเป็นหน้าทำนาด้วยแล้ว ความเขียวของท้องทุ่งมันทำให้เราสบายตาสบายใจเสียเหลือเกิน
บ้านไทลื้อ
หลังจากอิ่มบุญอิ่มใจกันแล้ว เราก็ขอไปอิ่มท้องต่อที่บ้านไทลื้อโบราณในหมู่บ้านเก็ตที่ชาวบ้านลงขันกันร่วมสร้างขึ้นมาเพื่อไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวและให้ผู้ที่สนใจได้มาชมบ้านแบบไทลื้อดั้งเดิม ซึ่งหากซื้อทริปจาก www.เที่ยวไทยเท่.com เหมือนเราก็จะได้ขึ้นมาทานมื้อเที่ยงแบบเอ็กคลูซีฟบนบ้านหลังนี้เหมือนกัน
พิกัด : https://goo.gl/maps/QNyChk8UALxs4faQ8
มื้อเที่ยงของเราวันนี้เป็นฝีมือของชาวบ้านล้วนๆ เลย พูดได้สั้น ๆ ว่า ลำขนาดดดดด
วัดพระธาตุเบ็งสกัด
อิ่มแล้วเราก็เดินทางมาต่อกับอีกหนึ่งชุมชนที่ไม่แพ้เรื่องผ้าทอเช่นกัน แต่ก่อนอื่นเราต้องแวะสักการะวัดคู่บ้านคู่เมืองปัวสักหน่อยที่ วัดพระธาตุเบ็งสกัด สถาปัตยกรรมฝีมือช่างน่านไทยลื้อที่ขึ้นชื่อว่าเป็นวัดประจำเมืองปัว และเป็นพระราชวังเดิมของจังหวัดน่านด้วย เจดีย์พระธาตุเป็งสะกัด ตามตำนานบอกว่า ชาวบ้านเคยใช้ไม้แหย่ลงในบ่อดินแล้วไม้ขาดเป็นท่อน ๆ เหมือนมีอะไรมากัด แล้วก็มีลำแสงเกิดจึ้นเหมือนเป็นสิ่งมหัศจรรย์ เจดีย์พระธาตุเป็นเจดีย์ทรงพะเยารูปทรงฐานระฆังคว่ำ มุมแปดเหลี่ยมลดหลั่นเป็นชั้น ๆ ไม่มีลวดลาย ทรงแบบนี้พบมากที่พะเยา เชียงราย และบริเวณแถบภาคเหนือ ตอนบน ภายในองค์พระเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุซึ่งถือเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชุมชน
พิกัด : https://goo.gl/maps/UjbxbXsTsE6njFi29
วัดร้องแง
มาน่านทุกครั้งต้องผ่านหมู่บ้านและวัดนี้ ตอนอ่านป้ายก็แอบขำไม่ได้ด้วยชื่อดูน่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกิน แต่นั่นแหละ อย่าเอ็ดไปนะ เพราะแถมนี้เค้ามีวัดโบราณของอำเภอปัวที่มีวิหารเก่าแก่โดดเด่นและงดงามด้วยศิลปะไทยลื้อขึ้นทะเบียนเป็นวัดเก่าแก่ ของเมืองน่านและได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ศิลปะ สถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภทปูชนียสถานและวัดวาอาราม โดยสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ และรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยครั้งที่7 ประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมดีเด่นด้วยนะ
พิกัด : https://goo.gl/maps/jLNCPG3cctXJ31UeA
นพวรรณผ้าโบราณ พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านไทลื้อ บ้านร้องแง
อีกหนึ่งหมู่บ้านที่เพียบพร้อมไปด้วยความงดงามของผ้าทอรักษาคุณค่าของภูมิปัญญาไทลื้อด้วยผ้าทอมือลายโบราณ มาถึงแล้วก็ต้องมาช้อปปิ้งผ้าทอหรือผลิตภัณฑ์จากผ้าพื้นเมืองกันให้คุ้ม เราเชื่อว่าทุกคนที่มาเที่ยวเมืองเหนือ จะต้องอินกับชุดชาวเหนือทุกทริปแน่ๆ
FB : นพวรรณผ้าทอ
พิกัด : https://goo.gl/maps/xzedLTEggWjVGPv36
เต็มอิ่มกับวันเย์ทริปของเราวันนี้ ถือเป็นทริปที่เราเองก็ไม่เคยคิดว่าในชีวิตนี้เราจะได้ท่องเที่ยวตามรอยผ้าไหม ได้เรียนรู้วัฒนธรรมไทลื้อลึกซึ้งขนาดนี้เหมือนกัน คือความเป็นน่านมันเนิบ มันน่ารักมากแล้วยังบวกกับความเป็นไทลื้อแล้วยิ่งทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ใคร ๆ ก็ยากจะเหมือนได้ ลองตามรอยเรามา รับรองว่าประทับใจไม่ต่างจากเราแน่ๆ
สกาดคอฟฟี่
เสร็จจากตัวอำเถอปัวแล้ว เราก็เดินทางมาต่อที่ดอยสกาด อีกหนึ่งดอยที่ฮอตมากในขณะนี้ รอบนี้เราเลือกพักที่สกาดคอฟฟี่ ที่พักน่ารัก ๆ ในหมู่บ้านสกาดที่มีทั้งที่พัก คาเฟ่ และอาหารให้เราได้จัดแบบครบครัน จะมาจิบกาแฟชมหมอกชมวิวก็ได้ หรือจะสั่งพิซซ่าโฮมเมดนั่งกินจนอิ่มท้องก็ได้ หรือถ้าให้ดีก็จองที่พักที่นี่ไปเลย
FB : Sakad Coffee สกาดคอฟฟี่ ที่พัก ดอยสกาด ปัว น่าน กาแฟ โฮมสเตย์
พิกัด : https://goo.gl/maps/NDpwby7zNKC84wP46
หลับสบายฝันหวานจนถึงเช้า เราก็เดินออกมาหน้าระเบียงที่พัก จิบกาแฟแลสายหมอกบอกรักอากาศเย็นๆ โอ๊ยยยย เป็นความฟินที่บอกไปพวกแกก็ไม่เข้าใจจนกว่าจะได้มาสัมผัสเอง
บ้านสกาด
ก่อนจะบอกลาที่นี่เราก็ขอตะเวรไปทั่วหมู่บ้านชมวิวซึมซับบรรยากาศให้เต็มที่ซะก่อน ดอยสกาดเนี่ยเป็นดอยสูง อากาศดี ตั้งอยู่บนเทือกเขาดอยภูคา เป็นที่อยู่อาศัยของชาวไทยภูเขาชนเผ่าลั๊วะ กว่าจะขึ้นมาได้ก็ต้องใช้เวลาผ่านทางชันทางโค้งนิดหน่อย บนดอยมีบ้านเรือนของชาวบ้านปลูกแทรกตามไหล่เขา บางหลังมีต้นชาหรือเมี่ยงปลูกอยู่ในบริเวณบ้านที่นิยมปลูกคือ ชาอัสสัมซึ่งมีทั้งปลูกเองและขึ้นตามธรรมชาติ แถมคนที่นี่ยังมีวิถีชีวิตเรียบง่ายและยังคงความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ บรรยากาศเงียบสงบ
พิกัด : https://goo.gl/maps/w4T47JcWzu1e2es59
ที่นี่เป็นมีชื่อเสียงเรื่องการปลูกเมี่ยงและเป็นถิ่นปลูกมะแข่น ของดีของเด็ดเลยหนีไม่พ้นชาใบเมี่ยง เมี่ยงเคี้ยว และมะแขว่น ชาวบ้านบนดอยสกาดมีวัฒนธรรมการเคี้ยวเมี่ยงมาตั้งแต่บรรพษุรุษ ใบเมี่ยงหมักเป็นอาหารทานเล่นเหมือนเคี้ยวหมากพลู
มีบทเพลงหนึ่งที่นิยามความเป็นดอยสกาด เนื้อเพลงมีอยู่ว่า บ้านฉันอยู่ดอยสกาด บ้านฉันมีธรรมชาติ อยากบอกเธอบ้านฉันปลูกเมี่ยง บ้านฉันปลูกเมี่ยงบนดอยใหญ่น้อยเรียกดอยสกาด ป่าเขียวเป็นธรรมชาติ อยากบอกเธอ ฉันปลูกมะแข่น มะแข่นหอม เอาไว้ใส่ลาบ ลาบขม ต้มแซ่บเมือง มะแข่นดีชื่อดังลือเลื่อง อยากบอกเธอใส่แกงผักกาด ปีนี้ฉันปลูกกาแฟไม่กี่ปีฉันจะขายกาแฟ สกาดดีมีดีหลายแล มะแข่น เมี่ยง กาแฟ ของแท้สกาด welcome to สกาด
เดอะวิว @ กิ่วม่วง
ลงจากดอยสกาดมาเรามุ่งหน้าไปสู่ร้านกาแฟที่บอกเลยว่า ห้ามพลาดดดดด ร้านกาแฟวิวดี ที่ตั้งอยู่ริมทางไหล่เขา ที่บอกได้เลยว่าถ้ามาตอนเช้า ทะเลหมอกจะรอทำการแสดงให้เราได้ชมแน่นอน แต่ถึงจะมาตอนสายก็ยังมีวิวสวยๆ ทิวทัศน์งาม ๆ ของภูเขาและก้อนเมฆสุดลูกตา
FB : เดอะวิว at กิ่วม่วง
พิกัด : https://goo.gl/maps/otv3XkEfUWrtXRrP6
วิวดี อากาศดีแล้วยังไม่พอ การตกแต่งร้านที่นี่ยังเข้ากับบรรยากาศเหมือนนัดกันมาให้เราได้ผ่อนคลาย มีที่นั่งไม่แออัดเบียดเสียดกันทำให้เรารู้สึกเป็นส่วนตัวและรักษาระยะห่างได้ตามนโยบาย Social Distancing แบบไม่ขาดตกบกพร่อง อยากจะนั่งมองฟ้ามองเขา ทำงานจิบกาแฟชิมเค้กก็ได้สบายๆ
ตัวร้านเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น มีความโปร่งโล่ง สามารถเห็นวิวได้จากภายในร้าน แต่ละมุมตกแต่งได้น่ารักและแตกต่าง เฟอร์นิเจอร์ในร้านจะเป็นไม้ผสมกับไม้ไผ่ แล้วอย่างที่เราบอกแหละว่าวิวภูเขาเบื่องหน้าและเบื้องหลังมันทำให้เรานั่งมองได้แบบสบายตา
ถนนที่ทอดผ่านทะลุป่าเขียวแสนชุ่มชื่นอันนี้ เราว่ามันคุ้มมากสำหรับการเดินทางมาเพื่อค้นหาสิ่งดีๆ ที่น่าน
พิซซ่าเตาถ่านได้ดิบได้ดี
ร้านพิซซ่าเตาถ่านที่มีฟาร์มสเตย์ให้บริการกลางทุ่งนาแห่งเมืองน่านแห่งนี้ ถ้าได้ไปลองบอกเลยว่าได้ดิบได้ดีสมชื่อสมใจ พี่เจ้าของบอกว่าที่ชื่อ ‘ได้ดิบได้ดี’ นั้นมาจากความคิดที่จะให้ทุกคนได้มีโอกาส ใช้ชีวิตให้เรียบง่ายไม่ซับซ้อน ได้อยู่ใกล้ธรรมชาติแทบจะตลอดเวลาทำให้รู้จักธรรมชาติมากขึ้น คือถ้าจะมาพักที่นี่ต้องตัดสินใจและทำความเข้าใจดีๆ เพราะที่นี่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ ทุกอย่างคือธรรมชาติล้วน ๆ หากอยากออกมาสัมผัสชีวิตในอีกรูปแบบหนึ่ง เราก็แนะนำให้ลองมาดู
FB : DaiDib DaiDee
พิกัด : https://g.page/Permaculture-nan?share
เอาล่ะ มาถึงพาร์ทของพิซซ่าบ้าง ในส่วนของพิซซ่าเตาฟืนที่นี่ รสชาติดีไม่แพ้ใครเลย การทำพิซซ่าของที่นี่ ทำมาจากเตาฟืนที่โฮมเมดตั้งแต่เตาฟืนยันพิซซ่ากันเลย สามารถจองล่วงหน้าเพื่อมากินพิซซ่าดูควายดูนากันได้ ในแต่ละวันที่ร้านจะมำพิซซ่าจำนวนจำกัดและหน้าที่เราอนะนำเลยคือ พิซซ่าหน้าน้ำพริกอ่อง แปลกกว่าใครและหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
เรารู้สึกว่าถือเป็นความโชคดีมากๆ ที่ได้มาที่นี่ มันเปิดดลกอีกแบบหนึ่งของเราเลยนะ แล้วรู้มั๊ยว่า วัยรุ่นยุคนี้เค้าชอบเที่ยวอะไรแบบนี้กันด้วย ความดิบ ความธรรมชาติที่ไม่ปรุงแต่ง ยังไงมันก็ขายได้แบบยั่งยืนอ่ะ พวกแกว่ามะ
สุดท้าย เราอยากจะบอกว่า การเที่ยวแม้จะมีหลายประเภท แต่การเที่ยวแบบวิถีไทย ยังไงก็เท่ ก่อนจะจากกัน เราอยากชวนทุกคนมาลองสนุกกับทริปท่องเที่ยวเท่ ๆ ตามหาผ้าไหมร้อยปีแบบที่เราได้ลองมาเมื่อวันแรกของทริป เราว่ามันคืออะไรที่ทุกคนต้องมาลองสัมผัสสักครั้งอ่ะ เมืองไทยยังมีวัฒนธรรมใหม่ ๆ ให้เราค้นพบไม่จบไม่สิ้น แล้วถ้าหากใครอยากลองไปแบบเราก็ลองAdd Line ที่ @tiewthaitay หรือเข้าไปชมรายละเอียดที่ www.เที่ยวไทยเท่.com ได้ง่ายๆ และวันนี้เราก็ต้องบอกลาปัว โบกมือบ๊ายบายน่าน ด้วยใบหน้าที่เบิกบานด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ เราหวังว่าทุกคนที่ได้มาตามรอยเราก็ได้อิ่มไปด้วยเช่นกันนะ
ด้วยรัก
บันทึกคนขี้เที่ยว